SlideShare a Scribd company logo
Blockchain for Government Services
คณะผู้จัดท�ำ : ดร.มณฑา ชยากรวิกรม
นายเกียรติศักดิ์ วงศ์ประเสริฐ
นายสมมนัส เกตุผ่อง
นายชฎิล อินทระนก
นายสถาพน พัฒนะคูหา
ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.)
Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA)
อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ 108 ถนนรางน�้ำ
แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท์ : (+66) 0 2612 6000
โทรสาร : (+66) 0 2612 6011 , (+66) 0 2612 6012
Contact Center : (+66) 0 2612 6060
อีเมล : contact@dga.or.th
ฝ่ายศิลป์ และครีเอทีฟ : นายสุวินันท์ ฤกษ์สง่า
นายธามัน ศิริกุล
นางสาววริยา สรรคชา
นายวิรุฬห์ ดารากัย
บรรณาธิการบริหาร : ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด
บรรณาธิการ : นายวิบูลย์ ภัทรพิบูล
นายพิสิษฐ์ ปิยพสุนทรา
จัดทำ�โดย : ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน)
พิมพ์ครั้งที่ 1 : พ.ศ. 2562
จ�ำนวน : 700 เล่ม
Blockchain for Government Services
ค�ำน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมโลกในยุคดิจิทัล ซึ่งได้รับความสนใจและท�ำการศึกษากันอย่าง
กว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากเทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามา
ปฏิวัติโลกธุรกิจ และแวดวงการเงินการธนาคารแล้ว ยังมีบทบาทในการยกระดับ
การบริหารงานภาครัฐเพื่อเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) รวมถึง
การเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนไปสู่ความสะดวกสบายมากขึ้นเช่นเดียวกับอิทธิพล
ของโลกออนไลน์ในขณะนี้ ดังนั้นนักวางแผน นักกลยุทธ์ ตลอดจนผู้ก�ำหนดนโยบาย
ภาครัฐ จึงควรตระหนักถึงอิทธิพล และผลกระทบของเทคโนโลยี Blockchain
ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อโอกาสและความท้าทาย
ในอนาคตที่จะท�ำให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบ เมื่อเทคโนโลยี Blockchain
ถูกน�ำมาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ
ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA มีภารกิจหลัก
ที่ส�ำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมและสนับสนุน
การบูรณาการและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ การเปิดเผยข้อมูล
ภาครัฐผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทะเบียนข้อมูล
ดิจิทัลภาครัฐเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้ประชาชนและการด�ำเนินงานของหน่วยงาน
ภาครัฐ ดังนั้น Blockchain จึงเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ส�ำคัญเหมาะสมในการ
น�ำมาใช้ในงานบริการภาครัฐ ในด้านการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ เนื่องจากมีคุณลักษณะ
ที่มีความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity) ความโปร่งใสในการเข้าถึง
ข้อมูล (Data Transparency) และมีความสามารถในการท�ำงานได้อย่างต่อเนื่อง
ของระบบ (Availability) สามารถมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ เป็นการ
เปิดโอกาสให้ประชาชน มีสิทธิเป็นเจ้าของข้อมูลของตนเองอย่างแท้จริง รวมไปถึง
โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐต่าง ๆ ง่ายขึ้น ซึ่ง สพร. ได้มีการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาพัฒนาเพื่อให้บริการแก่ภาครัฐและประชาชนในอนาคตอันใกล้นี้
คณะผู้จัดท�ำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ
ทั้งภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐสามารถน�ำไป
ประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพบริการให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย ถูกใจประชาชน
มากยิ่งขึ้น ส�ำหรับหนังสือฉบับนี้ สพร. ได้จัดท�ำเป็น e-Magazine แจกฟรี สามารถ
ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ www.dga.or.th
และเพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน “รู้ รับ ปรับใช้” เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
สพร. จึงได้จัดท�ำหนังสือ การใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับภาครัฐ
(BlockchainforGovernmentServices)ฉบับภาษาไทยขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้
เกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain รวมถึงบทวิเคราะห์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
Blockchain โดยเนื้อหาในหนังสือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ดังต่อไปนี้
การให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลักการท�ำงาน
ของเทคโนโลยี Blockchain
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย
คณะผู้จัดท�ำ
สารบัญ
ค�ำน�ำ
อภิธานศัพท์
บทที่ 1
บทน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain
หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain
องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain
ประเภทของ Blockchain
คุณลักษณะพื้นฐานที่ส�ำคัญของเทคโนโลยี Blockchain
•	 ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity)
•	 ความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล (Data Transparency)
•	 ความสามารถในการท�ำงานได้อย่างต่อเนื่องของระบบ (Availability)
เกณฑ์การพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain
รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
•	 เงินดิจิทัล (Cryptocurrency)
•	 บริการพิสูจน์ทราบ (Proof of Services)
•	 สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)
•	 ระบบ/บริการอัตโนมัติ (Decentralized Autonomous Systems/
Services)
บทที่ 2
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ
กรณีศึกษาต่างประเทศ
ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ
02
13
18
19
22
25
37
45
45
45
46
47
48
51
51
53
58
60
61
70
ข้อจ�ำกัดของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่องานบริการภาครัฐ
รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ
•	 การพิสูจน์ตัวตน (Identity Management)
•	 การบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูล (Data Record Management)
•	 การติดตามธุรกรรม (Transaction Traceability)
ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ
•	 การจัดตั้งคณะท�ำงานแห่งชาติ (The National Blockchain Council)
•	 การสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Blockchain
(Blockchain Ecosystem)
•	 การสร้างการก�ำกับดูแลการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain
(Blockchain Governance)
•	 การก�ำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain
•	 การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี Blockchain
บทที่ 3
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย
หลักการและเหตุผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
	 ส�ำหรับภาครัฐไทย
	 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการบูรณาการบริการ
	 และแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ
	 กรณีศึกษาการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral โดยใช้เทคโนโลยี
Blockchain
เอกสารแนบท้าย 1
74
80
82
86
93
98
99
103
103
105
109
113
114
130
144
168
ระบบแบบ
Centralised,
Decentralised
และ Distributed
รูปภาพที่ 2
รูปภาพที่ 3
รูปภาพที่ 1
รูปภาพที่ 4
รูปภาพที่ 5
การเชื่อมโยงข้อมูล
ของเทคโนโลยี Blockchain
หลักการท�ำงาน
ของเทคโนโลยี Blockchain
องค์ประกอบของ
เทคโนโลยี Blockchain
โครงสร้างการ
เชื่อมโยง Block
19
20 23
25
26
สารบัญภาพ
27	 รูปภาพที่ 6	
โครงสร้างภายใน Block
ของ Bitcoin
30	 รูปภาพที่ 7	
ตัวอย่างการแสดง Block
Information ของ Bitcoin
31	 รูปภาพที่ 8	
หลักการ Hash ข้อมูล
ชุดใหญ่โดยใช้รูปแบบ
Hash Tree
37	 รูปภาพที่ 9	
Public Blockchain
รูปภาพที่ 10
รูปภาพที่ 11
รูปภาพที่ 12
รูปภาพที่ 13
รูปภาพที่ 14
Private
Blockchain
กระบวนการตัดสินใจ
ก่อนการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้
การประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี Blockchain
ในภาคส่วนต่าง ๆ
การจ�ำแนกกลุ่ม Blockchain
Application
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
Blockchainส�ำหรับงานบริการ
ภาครัฐของประเทศต่าง ๆ
39
47 49
50
62
BLOCKCHAIN
63	 รูปภาพที่ 15	
ผลการส�ำรวจความคาดหวังใน
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในภาครัฐ
82	 รูปภาพที่ 16	
การจัดกลุ่มการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้กับงาน
บริการภาครัฐ
84	 รูปภาพที่ 17	
ระบบยืนยันและพิสูจน์ตัวตน
บนเทคโนโลยี Blockchain
98	 รูปภาพที่ 18	
ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
งานบริการภาครัฐ
รูปภาพที่ 19	
สารบัญภาพ (ต่อ)
115
120 131
134
136
วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล
รูปภาพที่ 20	
แนวโน้มเทคโนโลยีที่
ส�ำคัญส�ำหรับการ
พัฒนารัฐบาลดิจิทัล
รูปภาพที่ 21	
ระบบบูรณาการการให้บริการ
ภาครัฐโดยใช้ Enterprise
Service Bus(ESB)
รูปภาพที่ 22	
การเชื่อมโยง
บูรณาการ
การให้บริการภาครัฐ
โดยใช้เทคโนโลยี
Blockchain
รูปภาพที่ 23
องค์ประกอบทาง
เทคนิคการบูรณาการ
งานบริการภาครัฐ
บนเทคโนโลยี
Blockchain
139	รูปภาพที่ 24
แสดงระบบนิเวศการให้บริการ
หน่วยงานภาครัฐ
142	รูปภาพที่ 25
แผนภาพจ�ำลองขั้นตอนการ
ขออนุญาตการเข้ามาใน
ราชอาณาจักรชั่วคราว
เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล
148	รูปภาพที่ 26
ภาพรวสถาปัตยกรรมระบบต้นแบบ
e-ReferralบนเทคโนโลยีBlockchain
151	รูปภาพที่ 27
รายละเอียดการออกแบบ
ระบบต้นแบบ e-Referral
บนเทคโนโลยี Blockchain
155
157 158
159
159
for GOVERNMENT SERVICES
รูปภาพที่ 28
แผนภาพแสดงขั้นตอน
การส่งต่อผู้ป่วย
ระหว่างโรงพยาบาล
รูปภาพที่ 29
ตัวอย่างการเขียนโปรแกรม
ของการ บริหารสิทธิในการ
เข้าถึงและใช้งานข้อมูลผู้ป่วย
โดยใช้ SmartContract
รูปภาพที่ 30
โรงพยาบาลต้นทาง
สามารถส่งต่อผู้ป่วย
ผ่านหน้าจอระบบ
e-Referral
รูปภาพที่ 31
โรงพยาบาลปลายทางสามารถ
ส่งค�ำขอส่งต่อผู้ป่วย
ผ่านหน้าจอระบบ e-Referral
รูปภาพที่ 32
โรงพยาบาลปลายทาง
สามารถเข้าดูข้อมูล
ผู้ป่วยในระบบ 13 แฟ้มได้
160	 รูปภาพที่ 33
โรงพยาบาลปลายทางสามารถ
ตอบรับ ปฏิเสธ หรือขอเลื่อนเวลา
การส่งต่อผู้ป่วยได้
160	 รูปภาพที่ 34	
ตัวอย่าง Log การส่งต่อผู้ป่วย
ของระบบ e-Referral
161	รูปภาพที่ 35	
หน้าจอ Dashboard แสดงรายงาน
ต่าง ๆ ของระบบ e-Referral
161	รูปภาพที่ 36	
หน้าจอส�ำหรับการ Performance
Monitoring,ReportและThroughput
ใน Component ต่าง ๆ ของระบบ
Hyperledger Blockchain
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
122
81
41
ตารางที่ 1
ตารางเปรียบเทียบ
คุณสมบัติของเทคโนโลยี
Blockchain
ในแต่ละประเภท ตารางที่ 2
ตารางแสดงการประยุกต์
ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับงานบริการ
ภาครัฐในต่างประเทศ
ตารางที่ 3
ตารางสรุป
ความเป็นไปได้
ในการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับงานบริการ
ภาครัฐของประเทศไทย
สารบัญตาราง
อภิธานศัพท์
Blockchain เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ Shared Database หรือ
ที่รู้จักกันในชื่อ “Distributed Ledger Technology (DLT)”
โดยเป็นรูปแบบการบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่า
ข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง
หรือแก้ไข ซึ่งทุกผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูลชุดเดียวกันทั้งหมด
โดยใช้หลักการ Cryptography และความสามารถของ
Distributed Computing เพื่อสร้างกลไกความน่าเชื่อถือ
Block ชุดบรรจุข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของข้อมูล
ต่าง ๆ ที่ต้องการบรรจุลงใน Block เรียกว่า Block Data
เช่น ข้อมูลการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ และส่วนของ Block Header
ที่ใช้เก็บข้อมูลประจ�ำ Block นั้น ๆ ได้แก่ หมายเลข Block,
ค่าNounce,ค่าPreviousHashและค่าCurrentHashเป็นต้น
Nonce ค่าที่ถูกสุ่มขึ้นมา เพื่อใช้ในการค้นหาค่า Hash ของ Block
ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎของระบบที่ได้ก�ำหนดไว้ โดยค่า Hash
ที่ได้นั้นจะต้องมีค่าต�่ำกว่าค่า Target หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ
ค่า Difficulty นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ในการออกแบบ
โครงสร้าง Block ของ Bitcoin
Previous Hash ค่า Current Hash ของ Block ก่อนหน้า ซึ่งเปรียบได้กับ
ค่า Digital Signature ของ Block ก่อนหน้าโดยจะถูกจัดเก็บ
อยู่ในโครงสร้างของ Block ถัดไปเสมอ และหากมีการแก้ไข
ข้อมูลในBlockก่อนหน้าจะท�ำให้ค่าHashของBlockไม่เท่ากัน
ทั้งนี้ในการออกแบบโครงสร้าง Block แต่ละแพลตฟอร์มอาจ
มีการใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป
Current Hash ค่าHashของข้อมูลทั้งหมดในBlockนั้นๆรวมถึงค่าPrevious
Hash ของ Block ก่อนหน้านั้นด้วย ทั้งนี้ในการออกแบบ
โครงสร้าง Block แต่ละแพลตฟอร์มอาจมีการใช้ชื่อเรียก
ที่แตกต่างกันออกไป
บทน�ำ 13
Hash Value ค่าผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการท�ำHashFunctionโดยการท�ำ
HashFunctionคือการน�ำข้อมูลต้นฉบับที่ต้องการแปลงข้อมูล
มาผ่านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นฟังก์ชันทางเดียว
ในการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะของข้อมูล
และมีขนาดความยาวที่คงที่เสมอโดยข้อมูลต้นฉบับที่ผ่านการท�ำ
HashFunctionแล้วจะไม่สามารถด�ำเนินการย้อนกลับเพื่อให้ได้
ซึ่งข้อมูลเดิม
Consensus การก�ำหนดข้อตกลงและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสมาชิก
ในเครือข่าย Blockchain โดยสมาชิกต้องยอมรับกฎระเบียบ
ร่วมกัน ด้วยกลไกในการควบคุมความถูกต้องของข้อมูลใน
ทุก Node ผ่านอัลกอริทึมต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง
เที่ยงตรงและเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลมีการจัดเก็บ
ที่สอดคล้องและมีล�ำดับการจัดเก็บตรงกัน ทั้งนี้ กระบวน
Consensus มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี โดยการเลือกใช้วิธีใดนั้น
ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของ Blockchain ในแต่ละประเภท
Proof-of-Work เป็นกระบวนการ Consensus วิธีหนึ่ง โดยใช้การแก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการ
แก้ปัญหานั้นๆจากNodesต่างๆที่อยู่ในเครือข่ายหรือเรียกว่า
“Miner” เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่จะถูกบันทึก
เข้ามาในเครือข่าย โดย Miner จะได้รับค่าตอบแทนจากการท�ำ
Proof-of-Work และด้วยวิธีการดังกล่าวท�ำให้การแก้ไขข้อมูล
ที่ถูกบันทึกลงในระบบ Blockchain แล้วนั้นท�ำได้ยากโดยที่ไม่
แก้ไขข้อมูลใน Block ถัด ๆ ไป ซึ่งจะต้องท�ำ Proof-of-Work
ในทุกBlock ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลาในการค�ำนวณ
พอสมควรอีกทั้งยังจะต้องท�ำการแก้ไขทุกBlockในเวลาเดียวกัน
ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะเวลาที่จ�ำกัดจึงเป็นเรื่องที่
เป็นไปได้ยากมากด้วยความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์
ในปัจจุบันดังนั้นเป้าหมายการท�ำProof-of-Workในเทคโนโลยี
Blockchain จึงเป็นการป้องกันการโจมตีระบบด้วยการเพิ่ม
ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ให้กับผู้โจมตีเพื่อให้เกิดความไม่คุ้มค่า
ที่จะท�ำการโจมตี
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
14
Proof-of-Stake เป็นกระบวนการ Consensus วิธีหนึ่ง โดยใช้หลักการ
วาง“สินทรัพย์”ของผู้ตรวจสอบ(Validator)ในการยืนยันธุรกรรม
ผู้ตรวจสอบที่ท�ำการวางสินทรัพย์จ�ำนวนมากจึงมีโอกาสสูง
ที่จะได้รับสิทธิ์ในการเขียนข้อมูลธุรกรรมบนBlockถัดไปโดยผู้ที่
ท�ำการเขียนข้อมูลบน Block ถัดไปจะได้รับค่าธรรมเนียม
การด�ำเนินงานเป็นรางวัลตอบแทน
Proof-of-Authority เป็นกระบวนการ Consensus วิธีหนึ่ง โดยท�ำข้อตกลงร่วมกัน
ในการก�ำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานหรือองค์กรที่เชื่อถือได้ ส�ำหรับ
การท�ำธุรกรรมด้วยวิธีการระบุชื่อผู้ใช้อย่างเป็นทางการให้กับ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละ Node บนเครือข่าย Blockchain
ในการท�ำธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบสิทธิ์จากบัญชีที่ได้รับอนุมัติ
หรือเรียกว่า ผู้ตรวจสอบ (Validator) ซึ่งท�ำหน้าที่ในการรักษา
ความปลอดภัย โดยใช้รูปแบบการหมุนเวียนสิทธิเพื่อกระจาย
ความรับผิดชอบและเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน
อย่างเป็นธรรม
Practical Byzantine
Fault Tolerance
(PBFT)
เป็นกระบวนการConsensusวิธีหนึ่งโดยใช้หลักการเสียงข้างมาก
ซึ่งต้องมีจ�ำนวนผู้ตรวจสอบ (Validator) ทั้งสิ้นจ�ำนวน 3f+1
Node เพื่อรับประกันความถูกต้องของระบบ โดย f คือ จ�ำนวน
ผู้ตรวจสอบที่ไม่สามารถท�ำงานได้ในขณะนั้น
Public Blockchain/
Permissionless
Blockchain
Blockchain วงเปิดที่อนุญาตให้ทุกคนสามารถเข้าใช้งาน
ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน หรือการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ
โดยไม่จ�ำเป็นต้องขออนุญาต ตัวอย่างของระบบ Blockchain
แบบเปิดสาธารณะ เช่น Bitcoin, Ethereum
Private Blockchain/
Permission
Blockchain
Blockchain วงปิดที่เข้าใช้งานได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาต
เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการสร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในองค์กร
ดังนั้นข้อมูลการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกจ�ำกัดอยู่เฉพาะภายใน
เครือข่าย ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ตัวอย่างของระบบ Blockchain แบบปิด เช่น Hyperledger,
Corda, Tendermint
บทน�ำ 15
Consortium
Blockchain
Blockchain ที่เปิดให้ใช้งานได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งส่วนมาก
จะเป็นการรวมตัวกันขององค์กรที่มีลักษณะธุรกิจเหมือนกัน
และต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ยกตัวอย่างเช่น
เครือข่ายระหว่างธนาคาร ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการท�ำ
ธุรกรรม หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ภายในกลุ่มของธนาคาร
เช่น Japanese Bank และ R3CEV
Merkle Root ค่าHashที่อยู่บนสุดของHashTreeโดยค่าดังกล่าวจะถูกแสดง
ใน Block Information ซึ่ง Hash Tree จะใช้กับการออกแบบ
Block ที่มีการรวบเอา Transaction ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน
รวมเข้าไว้ใน Block เดียวกัน โดยท�ำการ Hash รายการ
Transaction ทั้งหมดใน Block ซึ่งเป็นวิธีการ Hash ข้อมูล
ชุดใหญ่ โดยใช้รูปแบบ Hash Tree ซึ่งจะ Hash Transactions
ทั้งหมดใน Block ให้กลายเป็น Hash Value ขนาด 32 ไบต์
Ethereum เป็นPlatformของBlockchainแบบเปิด(PublicBlockchain)
โดยEthereumมีความแตกต่างจากBitcoinเนื่องจากEthereum
ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถปรับตัวได้และมีความยืดหยุ่น
อีกทั้งยังเป็นOpenSourceโดยความสามารถของEthereum
ถือว่าทัดเทียมกับ Bitcoin แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือ ฟีเจอร์ที่เรียก
ว่า Smart Contract ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ หรือนักพัฒนาโปรแกรม
สามารถเขียนโปรแกรมลงไปในข้อมูลของสกุลเงิน Ether ได้
เพื่อให้ท�ำงานอัตโนมัติเมื่อเงื่อนไขเป็นไปตามที่ก�ำหนด
ในสัญญาดังนั้นจึงท�ำให้สามารถสร้างApplicationต่างๆขึ้นมา
บนเครือข่าย Ethereum อีกชั้นหนึ่งได้ ท�ำให้เกิดรูปแบบ
ที่หลากหลายในการใช้งานซึ่งแตกต่างจาก Bitcoin ที่เน้นการ
ท�ำธุรกรรมเพียงอย่างเดียว
Cryptocurrency สกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีมูลค่าเหมือนกับธนบัตรในสกุลเงินประเทศ
ต่าง ๆ และถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแบบดิจิทัล
โดยการแลกเปลี่ยนรูปแบบดิจิทัลได้เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2009
ซึ่ง Blockchain Application ในกลุ่มเงินดิจิทัลได้ถูกพัฒนา
ขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจการให้บริการทางการเงินทั้งการโอนและ
การจ่ายเงิน ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin และ Ripple
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
16
Ledger บัญชีประวัติการท�ำธุรกรรมซึ่งจะถูกบันทึกและท�ำส�ำเนา
แจกจ่ายให้กับทุก Node ที่อยู่ในเครือข่าย Blockchain
Oracle แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จากภายนอกระบบBlockchain(Trusted3rd
PartySource)ซึ่งSmartContractจะน�ำมาอ้างอิงเพื่อบังคับใช้
สัญญาตามที่เขียนโปรแกรมไว้ เช่น แหล่งข้อมูลระดับน�้ำ
ของแต่ละพื้นที่เพื่อให้กรมธรรม์ประกันอุทกภัยที่เขียนด้วยSmart
Contract ใช้ส�ำหรับอ้างอิงการเคลมประกันแบบอัตโนมัติ
Smart Contract สัญญาอัจฉริยะโดยจะเก็บเงื่อนไขหรือข้อตกลงของสัญญาต่างๆ
ไว้ในรูปแบบ Code คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในเครือข่าย
Blockchain
Node อุปกรณ์ในเครือข่าย Blockchain เปรียบได้กับเครื่อง
คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรืออื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อ
อินเทอร์เน็ตและประมวลผลได้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐาน
ที่ส�ำคัญในการกระจายและเชื่อมโยงกันในเครือข่ายเพื่อให้
ระบบสามารถท�ำงานและประมวลผลได้ทั้งนี้ประเภทของNode
ในเครือข่าย Blockchain สามารถจ�ำแนกได้เป็น
1.	Nodeที่ท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บส�ำเนาข้อมูลเท่านั้นประกอบด้วย
Full Node และ Light Node
2.	Nodeที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้นหรือที่รู้จักกัน
ในชื่อ Consensus Node
บทน�ำ 17
บทน�ำ
01
รูปภาพที่ 1: ระบบแบบ Centralised, Decentralised และ Distributed
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Baran, 1964)
Centralised Decentralised Distributed
Blockchain คือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ Shared Database หรือ
ที่รู้จักกันในชื่อ “Distributed Ledger Technology (DLT)” โดยเป็นรูปแบบ
การบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้น
ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขได้ ซึ่งทุกผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูลชุดเดียวกัน
ทั้งหมด โดยใช้หลักการ Cryptography และความสามารถของ Distributed
Computing เพื่อสร้างกลไกความน่าเชื่อถือ (Yermack, 2017)
จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี Blockchain เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2008 โดยการ
น�ำเสนอของ “Satoshi Nakamoto” จากเอกสาร Bitcoin: A Peer-to-Peer
Electronic Cash System เป็นการน�ำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการสร้าง Platform
ที่สามารถสร้างความปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลที่มีชื่อว่า “Bitcoin”
โดยใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับการท�ำ Cryptography และ Distributed Computing
ดังแสดงในรูปภาพที่ 1
เทคโนโลยี Blockchain
บทน�ำ 19
รูปภาพที่ 2: การเชื่อมโยงข้อมูล
ของเทคโนโลยี Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Belinky, Rennick,
& Veitch, 2015)
CENTRALISED LEDGER DISTRIBUTED LEDGER
RALISED LEDGER DISTRIBUTED LEDGER
ซึ่งไม่จ�ำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร หรือหน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจ่ายเงิน โดยได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย รวมทั้ง
ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ และสามารถ
น�ำมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจอื่นๆได้ไม่จ�ำเพาะแค่ภาคธุรกิจการเงินและการธนาคาร
เท่านั้นแต่ยังรวมถึงภาครัฐก็ได้มีการตื่นตัวและศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีBlockchain
กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน
การท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain อาศัยการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์
(Distributed Ledger Technology) โดยทุกข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงกันทั้งระบบ
และเมื่อมีรายการธุรกรรมใหม่เกิดขึ้นจะต้องมีการประกาศบอกทุกเครื่องในระบบ
ให้รับรู้ ดังแสดงในรูปภาพที่ 2
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
20
นอกจากนี้รายการธุรกรรมดังกล่าวจะต้องผ่านการตรวจสอบ (Consensus)
จากทั้งเครือข่ายเสียก่อน จึงจะสามารถบันทึกข้อมูลเข้า Block ได้ ดังนั้น
เทคโนโลยี Blockchain จึงไม่จ�ำเป็นต้องมีตัวกลางคอยท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บ
รายการธุรกรรม แต่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอยู่ภายใต้โครงสร้างของเทคโนโลยี
Blockchain และถูกกระจายไปยังเครื่องของสมาชิกทุกคนในเครือข่าย และถ้ามีคน
พยายามสร้างรายการธุรกรรมปลอมขึ้นมา ข้อมูลก็จะขัดแย้งกับข้อมูลในเครื่อง
ของสมาชิกอื่น ๆ ในเครือข่าย เนื่องจากทุกเครื่องจะต้องมีข้อมูลเหมือนกันทั้งหมด
ดังนั้นระบบจะไม่อนุญาตให้สร้างรายการดังกล่าว โดยจะมีแต่รายการที่ทุกคน
ในเครือข่ายยอมรับเท่านั้นที่จะสามารถบันทึกเข้าสู่ระบบ Blockchain ได้ และข้อมูล
ที่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ Blockchain ไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข
ย้อนหลังได้ จึงท�ำให้เทคโนโลยี Blockchain ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยี
การจัดเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือสูง
บทน�ำ 21
หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain คือ ฐานข้อมูลจะถูกแชร์ให้กับ
ทุกNode1
ที่อยู่ในเครือข่ายและการท�ำงานของเทคโนโลยีBlockchainจะไม่มีเครื่อง
ใดเครื่องหนึ่งเป็นศูนย์กลางหรือเครื่องแม่ข่าย ซึ่งการท�ำงานแบบกระจายศูนย์นี้
จะไม่ถูกควบคุมโดยคนเพียงคนเดียว แต่ทุก Node จะได้รับส�ำเนาฐานข้อมูลเก็บไว้
และจะมีการอัปเดตฐานข้อมูลแบบอัตโนมัติเมื่อมีข้อมูลใหม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ส�ำเนา
ฐานข้อมูลของทุกคนในเครือข่ายจะต้องถูกต้อง และตรงกันกับของสมาชิกคนอื่น
ในเครือข่าย อีกทั้งการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ Block ยังอาศัยหลักการท�ำ Cryptography
และการท�ำ Consensus2
จากสมาชิกในเครือข่ายด้วยกันก่อนท�ำการบรรจุข้อมูลลง
หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain
1
Node คือ อุปกรณ์ในเครือข่าย Blockchain เปรียบได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์
หรืออื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและประมวลผลได้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐาน
ที่ส�ำคัญในการกระจายและเชื่อมโยงกันในเครือข่ายเพื่อให้ระบบสามารถท�ำงานและประมวลผลได้
ทั้งนี้ประเภทของ Node ในเครือข่าย Blockchain สามารถจ�ำแนกได้เป็น
1)	Node ที่ท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บส�ำเนาข้อมูลเท่านั้น ประกอบด้วย Full Node และ
Light Node
2)	Node ที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ Consensus Node
2
Consensus คือ การก�ำหนดข้อตกลงและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสมาชิกในเครือข่าย
Blockchain โดยสมาชิกต้องยอมรับกฎระเบียบร่วมกัน ด้วยกลไกในการควบคุมความถูกต้อง
ของข้อมูลในทุก Node ผ่านอัลกอริทึมต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องเที่ยงตรงและเป็น
ข้อมูลชุดเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลมีการจัดเก็บที่สอดคล้องและมีล�ำดับการจัดเก็บตรงกัน ทั้งนี้
กระบวน Consensus มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี โดยการเลือกใช้วิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ของ Blockchain ในแต่ละประเภท
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
22
Block และเพิ่มเข้าสู่ระบบ Blockchain เพื่อเป็นการป้องกัน และรับประกันความ
ปลอดภัยของข้อมูล โดยแต่ละเครือข่าย Blockchain จะมีการก�ำหนดกฎเกณฑ์
ในการตรวจสอบหรือที่เรียกว่า “Consensus Protocol” หรือ “Consensus
Mechanism” ขึ้นมาเพื่อใช้ในเครือข่าย โดยหลักการท�ำงานพื้นฐานที่ส�ำคัญ
ของเทคโนโลยี Blockchain อย่างน้อยจะต้องประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ๆ
ดังแสดงในรูปภาพที่ 3
รูปภาพที่ 3: หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Veedvil, 2017)
The block then can be added to the chain,
which providesanindelible and transparent
record of transactions
The block is broadcast
every party in the network
The transaction is represented
online as a “block”
A wants to send
money to B
The money moves
frome A to B
Those in the network approve
the transaction is valid
HOW A BLOCKCHAIN WORKS
END
ADD
TO CHAIN
VALIDATION
BROADCAST
CREATE
START
บทน�ำ 23
อย่างไรก็ดี ในการออกแบบการ
ท�ำงานของระบบ Blockchain ใน
การท�ำงานจริง อาจจะมีการออกแบบ
ขั้นตอนการท�ำงานที่แตกต่างไปจากนี้ได้
ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละผู้ผลิต
หรือแต่ละ Platform แต่อย่างน้อย
จะต้องมี 4 ขั้นตอนหลักนี้ซึ่งถือได้
ว่าเป็นหัวใจส�ำคัญของการท�ำงาน
Blockchain นั่นเอง
START
END
CREATE
ADD TO CHAIN
คือ การสร้าง Block
ที่บรรจุค�ำสั่งขอท�ำรายการ
ธุรกรรม
BROADCAST
VALIDATION
ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2
ขั้นตอนที่ 3
ขั้นตอนที่ 4
คือ ท�ำการกระจาย Block ใหม่นี้ให้กับทุก Node
ในระบบ และบันทึกรายการธุรกรรมลง Ledger
ให้กับทุก Node เพื่ออัปเดตว่ามี Block
ใหม่เกิดขึ้นมา
คือ Node อื่น ๆ ในระบบท�ำการยืนยันและตรวจสอบข้อมูล
ของ Block นั้นว่าถูกต้องตามเงื่อนไข Validation โดยกระบวนการท�ำ
Consensus ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการท�ำ Validation
คือ น�ำ Block ดังกล่าวมาเรียง
ต่อจาก Block ก่อนหน้านี้
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
24
องค์ประกอบของเทคโนโลยีBlockchainประกอบด้วย4องค์ประกอบส�ำคัญคือ
1) Block 2) Chain 3) Consensus และ 4) Validation ดังแสดงในรูปภาพที่ 4
องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain
รูปภาพที่ 4: องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Veedvil, 2017)
การจัดเก็บข้อมูลของเทคโนโลยี Blockchain จะถูกจัดเก็บในรูปแบบของ Block
โดยแต่ละBlockจะเชื่อมโยงเข้าหาBlockก่อนหน้าด้วยค่าHashFunctionของBlock
ก่อนหน้านี้เสมอ และจะเรียงร้อยต่อกันเป็น Chain ท�ำให้ยากต่อการปลอมแปลง
แก้ไข และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ทุกๆ Block ตลอดทั้ง Chain
ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปจนถึง Block เริ่มต้น หรือ Genesis Block ได้
(Yaga, Mell, Roby, & Scarfone, 2018) ดังแสดงในรูปภาพที่ 5
บทน�ำ 25
รูปภาพที่ 5: โครงสร้างการเชื่อมโยง Block
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Yaga, Mell, Roby, & Scarfone, 2018b)
ดังนั้น Block คือ ชุดบรรจุข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของ Block
Header เพื่อใช้บอกให้คนอื่นทราบว่าภายในบรรจุข้อมูลอะไรไว้ และส่วนของ Block
Data เพื่อใช้ในการบรรจุข้อมูลต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลจ�ำนวนเงิน ข้อมูล
การโอนเงิน ข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาล หรือข้อมูลอื่น ๆ โดยโครงสร้าง
ของแต่ละ Block จะประกอบไปด้วยข้อมูล 7 ส่วน ดังแสดงในรูปภาพที่ 6
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
26
รูปภาพที่ 6: โครงสร้างภายใน Block ของ Bitcoin
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Nakamoto, 2008)
1	 หมายเลขBlockคือตัวเลขจ�ำนวนเต็มเรียงกันตั้งแต่1,2,3,4,5ไปเรื่อยๆ
โดยมีความหมายแสดงถึงล�ำดับก่อนหลัง คือ Block หมายเลข 1 เกิดขึ้น
ก่อน Block หมายเลข 2 และ Block หมายเลข 1 อยู่ติดกับหมายเลข 2
เป็นต้น
2	 Timestamp คือ เวลาที่ Block นั้น ๆ ถูกสร้างขึ้นมา
3	 Nonce คือ ค่าที่ใช้ในการค้นหาค่า Hash ของ Block ตามกฎของระบบ
ที่ได้ก�ำหนดไว้ ซึ่งกฎดังกล่าวคือ Proof-of-Work หมายความว่า หากเรา
ต้องการจะสร้าง Block ขึ้นมาสัก Block หนึ่งในระบบ Blockchain
เราจะต้องแสดงให้คนอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบเห็นว่า เราได้ท�ำการแก้ปัญหา
หรือท�ำงาน (Work) ตามกฎที่ก�ำหนดไว้แล้ว
บทน�ำ 27
4	 Difficulty Target คือ ค่าระดับความยากที่จะถูกใช้ในการค้นหาค่า Nonce
โดยค่า Hash ที่ได้นั้นจะต้องมีค่าต�่ำกว่าค่า Difficulty Target นั่นเอง
5	 Previous Hashคือค่าCurrentHashของBlockก่อนหน้าซึ่งเปรียบได้กับ
ค่าDigitalSignatureของBlockก่อนหน้าโดยจะถูกจัดเก็บอยู่ในโครงสร้าง
ของBlockถัดไปเสมอและหากมีการแก้ไขข้อมูลในBlockก่อนหน้าจะท�ำให้
ค่า Hash ของ Block ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ในการออกแบบโครงสร้าง Block
แต่ละแพลตฟอร์มอาจมีการใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป
6	 Data คือ ข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ใน Block ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นอะไรก็ได้ที่เรา
จะบันทึก เช่น ข้อมูล Transaction ต่าง ๆ เป็นต้น
7	 Merkle Root คือ ค่า Hash ของ Transactions ทั้งหมดใน Block
ซึ่งเป็นวิธีการ Hash ข้อมูลชุดใหญ่ โดยใช้รูปแบบ Hash Tree ซึ่งจะ Hash
Transactions ทั้งหมดใน Block ให้กลายเป็น Hash Value3
ขนาด 32 ไบต์
3
Hash Value คือ ค่าผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการท�ำ Hash Function โดยการท�ำ Hash
Function คือ การน�ำข้อมูลต้นฉบับที่ต้องการแปลงข้อมูลมาผ่านกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ซึ่งเป็นฟังก์ชันทางเดียวในการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะของข้อมูลและ
มีขนาดความยาวที่คงที่เสมอโดยข้อมูลต้นฉบับที่ผ่านการท�ำ Hash Function แล้วจะไม่สามารถ
ด�ำเนินการย้อนกลับเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลเดิม
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
28
วิธีการค�ำนวณหาค่า Nonce
Nonce คือ ค่าที่ใช้ในการค้นหาค่า Hash ของ Block ซึ่งจะต้องเป็นไป
ตามกฎของระบบที่ได้ก�ำหนดไว้ โดยค่า Hash ที่ได้นั้นจะต้องมีค่าต�่ำกว่าค่า
Target หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ ค่า Difficulty นั่นเอง โดยค�ำสั่งดังกล่าวก็คือ
“จงท�ำให้ Hash ของ Block_Header มีค่า <= Target” โดยค่า Nonce
จะถูกวางไว้ใน Block Header ดังแสดงในรูปภาพที่ 7 เพื่อให้เราวนหาค่า
ไปเรื่อย ๆ จนกว่าค่า Hash จะต�่ำกว่าค่า Target ดังนั้นการหาค่า Nonce
ก็คือ การเปลี่ยนค่า Block Header จนกระทั่งได้ค่า Hash ที่ต�่ำกว่า
ค่า Target ให้ได้ ใครหาได้ก่อนคนนั้นชนะซึ่งก็คือ คนที่ได้เป็นคนยืนยัน
ความถูกต้องของ Block นั้น ๆ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อได้ค่า Nonce แล้ว
ค่า Hash ที่ได้จากการหาค่า Nonce นั้นก็จะถูกใช้เป็นค่า Hash ของ Block
นั้นทันที ซึ่งก็คือ Current Hash ของ Block นั้น ๆ นั่นเอง
บทน�ำ 29
ตัวอย‹างการแสดง BLOCK INFORMATION ของ BITCOIN
รูปภาพที่ 7: ตัวอย่างการแสดง Block Information ของ Bitcoin
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Nuuneoi, 2016)
ค่า Target หรือ Difficulty จะถูกก�ำหนดโดยระบบภายใต้สูตร
Difficulty =
0x00ffff0000000000000000000000000000000000000000000000000000
CurrentTarget
นอกจากนี้ค่า Target หรือ Difficulty จะถูกค�ำนวณค่าใหม่ในทุก 2016 Blocks
(ประมาณ 2 สัปดาห์) และถูกค�ำนวณตรง ๆ เลย ถ้า 2016 Blocks ที่ผ่านมาใช้
เวลาเกิน 2 สัปดาห์ ก็จะลดค่า Difficulty ลง แต่ถ้าใช้เวลาน้อยกว่า 2 สัปดาห์
ก็จะปรับค่า Difficulty ขึ้น	
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
30
Top hash
Hash 0
Hash 0-0 Hash 0-1
Hash 1
Hash 1-0 Hash 1-1
Hash
1-1-1
Hash
1-1-0
Hash
1-0-1
Hash
1-0-0
Hash
0-1-1
Hash
0-1-0
Hash
0-0-1
Hash
0-0-0
Data block
007
Data block
006
Data block
005
Data block
004
Data block
003
Data block
002
Data block
001
Data block
000
รูปภาพที่ 8: หลักการ Hash ข้อมูลชุดใหญ่โดยใช้รูปแบบ Hash Tree
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Futter, Hale, Elverston, & Waters, 2017)
จากตัวอย่างการแสดง Block Information ในรูปภาพที่ 7 ซึ่งเป็นตัวอย่าง
Block Information ของ Bitcoin จะเห็นค่า Merkle Root ซึ่งก็คือ ค่า Hash
ของ Transactions ทั้งหมดใน Block ซึ่งเป็นวิธีการ Hash ข้อมูลชุดใหญ่ โดยใช้
รูปแบบ Hash Tree ซึ่งจะ Hash Transactions ทั้งหมดใน Block ให้กลายเป็น
Hash Value ขนาด 32 ไบต์ ดังแสดงในรูปภาพที่ 8
บทน�ำ 31
ดังนั้นค่า Merkle Root ก็คือ ค่า Hash ที่อยู่บนสุดของ Hash Tree นั่นเอง
โดยค่าดังกล่าวจะถูกแสดงใน Block Information ซึ่ง Hash Tree จะใช้กับ
การออกแบบ Block ที่มีการรวบ Transaction ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันรวม
เข้าไว้ใน Block เดียวกัน
เนื่องจากการก�ำหนดให้ทุก ๆ
Node จะต้องท�ำการแก้ปัญหาทาง
คณิตศาสตร์ (A Mathematical
Puzzle) หรือที่รู้จักกันในชื่อ
"Proof-of-Work" โดย Block ที่
ถูกยอมรับจะต้องมีค�ำตอบของการ
แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ดังกล่าว
รวมอยู่ใน Block ด้วยซึ่งก็คือการ
หาค่า Nonce นั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นไป
ไม่ได้ที่ผู้โจมตีจะสร้าง Transaction
ปลอมขึ้นมาโดยที่ไม่ท�ำการแก้ไข
ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของ Block
นั้น ๆ รวมไปถึง Block อื่น ๆ ที่อยู่ใน
Chain ด้วย อีกทั้งจะต้องท�ำ
พร้อม ๆ กันในทุก ๆ Block เพื่อให้
ได้รับการยอมรับจาก Node อื่น ๆ
ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากและแทบจะเป็นไป
ไม่ได้เลยด้วยความสามารถของ
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
จึงท�ำให้ Blockchain ได้รับการ
ยอมรับว่าเป็นรูปแบบของการบันทึก
ข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
32
Consensus
การก�ำหนดข้อตกลงและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสมาชิกในเครือข่าย
Blockchain โดยสมาชิกต้องยอมรับกฎระเบียบร่วมกัน ด้วยกลไกในการ
ควบคุมความถูกต้องของข้อมูลในทุก Node ผ่านอัลกอริทึมต่าง ๆ เพื่อให้
ข้อมูลมีความถูกต้องเที่ยงตรงและเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลมีการ
จัดเก็บที่สอดคล้องและมีล�ำดับการจัดเก็บตรงกัน ทั้งนี้ กระบวน Consensus
มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น
Chain
Chain คือ หลักการจดจ�ำทุก ๆ ธุรกรรมของทุก ๆ คนในระบบและบันทึก
ข้อมูลพร้อมจัดท�ำเป็นส�ำเนาบัญชี Ledger แจกจ่ายให้กับทุกคนในระบบ ส�ำเนา
บัญชี Ledger ที่ว่านั้นจะถูกกระจายส่งต่อไปให้ทุกๆ Node ในระบบเพื่อให้
ทุกคนรับทราบว่ามีธุรกรรมอะไรเกิดขึ้นมาบ้างตั้งแต่เปิดระบบ Blockchain
นั้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมี Node ใด Node หนึ่งเสียหายไปก็สามารถยืนยัน
หรือกู้ข้อมูล Ledger จาก Node อื่น ๆ กลับมาอัปเดตให้ทั้งระบบได้เหมือนเดิม
บทน�ำ 33
Proof-of-Work คือ กระบวนการท�ำ Consensus โดยใช้การแก้ปัญหา
ทางคณิตศาสตร์ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหานั้น ๆ
จาก Nodes ต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายหรือเรียกว่า “Miners” เพื่อยืนยัน
ความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่จะถูกบันทึกเข้ามาในเครือข่าย โดย Miner
จะได้รับค่าตอบแทนจากการท�ำ Proof-of-Work และด้วยวิธีการดังกล่าว
ท�ำให้การแก้ไขข้อมูลที่ถูกบันทึกลงในระบบ Blockchain แล้วนั้นท�ำได้
ยากโดยที่ไม่แก้ไขข้อมูลใน Block ถัด ๆ ไป ยกตัวอย่างเช่น Bitcoins ซึ่ง
เป็น Public Blockchain ใช้วิธีการยืนยันรายการแบบ Proof-of-Work
Proof-of-Stake คือ กระบวนการท�ำ Consensus โดยใช้หลักการวาง
“สินทรัพย์”ของผู้ตรวจสอบ(Validator)ในการยืนยันธุรกรรมผู้ตรวจสอบ
ที่ท�ำการวางสินทรัพย์จ�ำนวนมากจึงมีโอกาสสูงที่จะได้รับสิทธิ์ใน
การเขียนข้อมูลธุรกรรมบน Block ถัดไป โดยผู้ที่ท�ำการเขียนข้อมูล
บน Block ถัดไปจะได้รับค่าธรรมเนียมการด�ำเนินงานเป็นรางวัล
ตอบแทน ยกตัวอย่างเช่น Ethereum ซึ่งเป็น Public Blockchain
ใช้วิธีการยืนยันรายการแบบ Proof-of-Stake
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
34
Proof-of-Authority คือ กระบวนการ Consensus โดยใช้การท�ำ
ข้อตกลงร่วมกันในการก�ำหนดสิทธิผู้ใช้งานหรือองค์กรที่เชื่อถือได้
ส�ำหรับการท�ำธุรกรรมด้วยวิธีการระบุชื่อผู้ใช้อย่างเป็นทางการให้กับ
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละ Node บนเครือข่าย Blockchain ในการท�ำ
ธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบสิทธิ์จากบัญชีที่ได้รับอนุมัติหรือเรียกว่า
ผู้ตรวจสอบ (Validator) ซึ่งท�ำหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย
โดยใช้รูปแบบการหมุนเวียนสิทธิเพื่อกระจายความรับผิดชอบ และ
เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นธรรม
Practical Byzantine Fault Tolerance (PBFT) คือ กระบวนการท�ำ
Consensus โดยใช้หลักการเสียงข้างมาก ซึ่งต้องมีจ�ำนวนผู้ตรวจสอบ
(Validator) ทั้งสิ้นจ�ำนวน 3f+1 node เพื่อรับประกันความถูกต้อง
ของระบบ โดย f คือ จ�ำนวนผู้ตรวจสอบที่ไม่สามารถท�ำงานได้
ในขณะนั้น ยกตัวอย่างเช่น HyperLedger ซึ่งเป็น Private Blockchain
ใช้วิธีการยืนยันรายการแบบ PBFT
จากตัวอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นConsensus
Mechanisms ที่ได้รับการยอมรับและถูกน�ำไปใช้
ในเครือข่ายBlockchainที่มีชื่อเสียงหลายๆเครือข่าย
ด้วยกัน แต่วิธีการดังกล่าวก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง
ของ Consensus Mechanisms เท่านั้น ซึ่งในการ
ใช้งานจริงยังมีอีกหลายวิธี เช่น Ledger Based,
Proprietary Distributed Ledger Consensus,
Federated Consensus, N2N, Delegated Proof
of Stake และ Round Robin โดยการเลือกใช้
วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของ Blockchain
ในแต่ละประเภท รวมถึงแนวทางการออกแบบ
ระบบ Blockchain
บทน�ำ 35
Validation
Validation คือ การตรวจสอบความถูกต้องแบบทบทวนทั้งระบบและทุก
NodeในระบบBlockchainเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ว่าจะมา
จากส่วนใดก็ตาม ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของ Consensus ที่เรียกว่า Proof-of-Work
ซึ่งในหลักการแล้วการท�ำ Validation นั้นมีจุดประสงค์อยู่ 3 ประการคือ
1	 วิธีการในการยอมรับ/ปฏิเสธ รายการใน Block นั้น ๆ
2	 วิธีการตรวจสอบที่ทุกคนในระบบยอมรับร่วมกัน
3	 วิธีตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละ Block ยกตัวอย่างเช่น
หมายเลข Block โดยตรวจสอบ Block ก่อนหน้าที่ติดกันก่อนว่าเป็น
Block ที่ถูกต้องหรือไม่โดยเวลาที่ Block ถูกสร้างขึ้นต้องมากกว่า
เวลาของ Block ก่อนหน้า
ค่า Nonce โดยการตรวจสอบค่า Nonce ซึ่งก็คือค่า Hash ของ Block
ที่ได้มาจากการท�ำ Proof-of-Work นั่นเอง
ค่า Previous Hash และ ค่า Current Hash โดยการตรวจสอบสถานะ
เริ่มต้นใน Block ต้องมีข้อมูลตรงตามสถานะสุดท้ายของ Block
ก่อนหน้า
แต่อย่างไรก็ดีวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละ Block หรือการท�ำ
Validation นั้นอาจจะมีขั้นตอนมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบการเก็บข้อมูล
ใน Block ของแต่ละค่ายนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ค่าย Ethereum นั้นจะมีขั้นตอน
การ Validation ถึง 5 ขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งจะต้องสัมพันธ์กับการเก็บข้อมูลใน Block
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
36
ประเภทของ Blockchain
รูปภาพที่ 9: Public Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Kohut, 2018)
Blockchain สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยพิจารณาจากข้อก�ำหนด
ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเครือข่าย คือ Blockchain แบบเปิดสาธารณะ (Public
Blockchain) Blockchain แบบปิด (Private Blockchain) และ Blockchain แบบ
เฉพาะกลุ่ม (Consortium Blockchain)
Public Blockchain
Public Blockchain คือ Blockchain วงเปิดที่อนุญาตให้ทุกคนสามารถ
เข้าใช้งานไม่ว่าจะเป็นการอ่าน หรือการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ โดย
ไม่จ�ำเป็นต้องขออนุญาตหรือรู้จักกันในอีกชื่อคือPermissionlessBlockchain
ดังแสดงในรูปภาพที่ 9
PUBLIC BLOCKCHAIN
บทน�ำ 37
โดยทุกคนในเครือข่ายสามารถเห็นข้อมูลรายการธุรกรรมได้ ซึ่งรายการธุรกรรม
ที่เกิดขึ้นใหม่จะต้องผ่านกระบวนการท�ำConsensusจากสมาชิกในเครือข่ายเสียก่อน
ตัวอย่างของระบบ Blockchain แบบเปิดสาธารณะ ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin,
Ethereum
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
38
Private Blockchain
Private Blockchain คือ Blockchain วงปิดที่เข้าใช้งานได้เฉพาะผู้ที่
ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในองค์กร ดังนั้น
ข้อมูลการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกจ�ำกัดอยู่เฉพาะภายในเครือข่ายซึ่งประกอบ
ไปด้วยสมาชิกที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ดังแสดงในรูปภาพที่ 10
รูปภาพที่ 10: Private Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Kohut, 2018)
PRIVATE BLOCKCHAIN
โดยภายในเครือข่ายจะมี Node หลักคอยท�ำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจเลือกเกณฑ์
ส�ำหรับการตรวจสอบความถูกต้องรวมถึงการบันทึกและการท�ำธุรกรรมของทุกNode
ซึ่งผู้เข้าร่วมในกลุ่มสามารถตกลงที่จะเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ส�ำหรับตรวจสอบและ
บันทึกรายการได้ จึงเหมาะสมส�ำหรับการประยุกต์ใช้เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นความลับ
หรือข้อมูลที่ไม่ต้องการเผยแพร่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องภายนอกองค์กรทราบ อย่างไร
ก็ตามหน่วยงานที่มีการสร้าง Blockchain แบบปิดเป็นของตนเอง จ�ำเป็นต้องมี
บทน�ำ 39
Consortium Blockchain
Consortium Blockchain คือ Blockchain ที่เปิดให้ใช้งานได้เฉพาะกลุ่ม
เท่านั้นโดยเป็นการผสมผสานแนวคิดระหว่างPublicBlockchainและPrivate
Blockchain ซึ่งส่วนมากเป็นการรวมตัวกันขององค์กรที่มีลักษณะธุรกิจ
เหมือนกัน และต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างสม�่ำเสมออยู่แล้ว
มารวมตัวกันตั้งวง Blockchain ขึ้นมา ทั้งนี้เนื่องจากธุรกรรมและข้อมูล
ที่จัดเก็บ เป็นข้อมูลที่เป็นความลับ หรือข้อมูลส่วนตัวภายในองค์กร ส่งผลให้
ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดแก่สาธารณชนได้ ดังนั้นผู้เข้าร่วม
Blockchain เฉพาะกลุ่ม จ�ำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากตัวแทนเสียก่อน
จึงจะสามารถเข้าใช้งานได้ ยกตัวอย่างเช่น เครือข่ายระหว่างธนาคาร ที่ใช้ในการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลการท�ำธุรกรรม หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ภายในกลุ่ม
ของธนาคาร ยกตัวอย่างเช่น Japanese Bank และ R3CEV (Buterin, 2014)
การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน
ของอุปกรณ์ ระบบเครือข่ายใน
การเชื่อมต่อองค์ความรู้เกี่ยวกับ
ระบบ Blockchain ที่น�ำมาใช้งาน
รวมทั้งการดูแลรักษา เพื่อให้ระบบ
สามารถด�ำเนินการต่อไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ซึ่งโดยส่วนมากมักใช้
ในงานระหว่างองค์กรธุรกิจหรือ
ระหว่างองค์กรภาครัฐ ตัวอย่าง
ของระบบ Blockchain แบบปิด
ยกตัวอย่างเช่น Hyperledger,
Corda, Tendermint
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
40
ตารางที่ 1: ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain
	 ในแต่ละประเภท
คุณลักษณะ
(Characteristic)
Private
Permissioned
(Private
Blockchain)
Public
Permissioned:
Single Industry
Public
Permissioned:
Multi-Industry
Permissionless
(Public
Blockchain)
ผู้มีอ�ำนาจ
(Authority),
การควบคุม
(Control) และ
ความน่าเชื่อถือ
(Trust)
การบริหาร
จัดการบัญชี
แยกประเภท
ภายในเพียง
องค์กรเดียว
(Centralized
Trust)
การจัดการบัญชี
แยกประเภท
โดยมีประโยชน์
อุตสาหกรรม
เป็นส�ำคัญ
และเปิดใช้
กับรูปแบบ
สาธารณะอย่าง
จ�ำกัดภายใน
อุตสาหกรรม
(Semi-
Centralized
Trust)
การจัดการบัญชี
แยกประเภท
โดยมีประโยชน์
อุตสาหกรรม
เป็นส�ำคัญ และ
เปิดการใช้แบบ
สาธารณะ
(Semi-
Centralized
Trust)
การจัดการบัญชี
แยกประเภท
โดยเครือข่าย
แบบกระจาย
ศูนย์ไม่มีระบบ
ข้อมูลกลาง
(Distributed
Consensus)
บริบททางธุรกิจ
(Business
Context)
การใช้งาน
ภายในองค์กร
เท่านั้น
(Intra-
Company)
การใช้งาน
ระหว่างบริษัท
หรือภายใน
อุตสาหกรรม
(Inter-
Company)
การใช้งาน
ระหว่างบริษัท
หรือข้าม
อุตสาหกรรม
(Inter-
Company)
บริษัทและ
บุคคลทั่วไป
สาธารณะที่
อยู่ระหว่าง
เครือข่ายหรือ
ระบบนิเวศของ
Blockchain
(Inter-Entity)
สิทธิ์การเข้าถึง
(Access
Rights)
การอนุญาต
สิทธิ์การใช้งาน
วัตถุประสงค์
เดียวของหนึ่ง
องค์กร
การอนุญาต
ให้ใช้สิทธิ์ใน
อุตสาหกรรม
เดี่ยว
การก�ำหนด
สิทธิ์ใน
อุตสาหกรรม/
วัตถุประสงค์
หลายแบบ
อนุญาตให้
ผู้เข้าร่วมหลาย
อุตสาหกรรม/
ผู้เข้าร่วมการ
ศึกษาค้นคว้า
และผู้ที่ต้องการ
ใช้งานหลาย
ประเภท
บทน�ำ 41
คุณลักษณะ
(Characteristic)
Private
Permissioned
(Private
Blockchain)
Public
Permissioned:
Single Industry
Public
Permissioned:
Multi-Industry
Permissionless
(Public
Blockchain)
การเป็นสมาชิก
(Membership)
Static Static Semi-Static Fluid
ความรับผิด
ชอบ
(Accountability),
สถานะทาง
กฎหมาย
(Legal
Standing)
ผู้รับผิดชอบ
ตามกฎหมาย
ผู้ที่รับผิดชอบ
ตามกฎหมาย
และอาจได้รับ
การควบคุม
ผู้ที่รับผิดชอบ
ตามกฎหมาย
และอาจได้รับ
การควบคุม
ผู้ที่รับผิดชอบ
จ�ำกัด/ไม่มี
กฎหมายรับรอง
และผู้ใช้
ไม่ได้รับ
การควบคุม
รูปแบบการน�ำ
ไปใช้
(Deployment
Style)
อาจแก้ไขได้ กึ่งสามารถ
แก้ไขได้
กึ่งสามารถ
แก้ไขได้
ส่วนใหญ่
ไม่สามารถ
แก้ไขได้
รูปแบบการ
บันทึก
ความไม่
เปลี่ยนแปลง
(Record
Immutability)
อาจแก้ไขได้ กึ่งสามารถ
แก้ไขได้
กึ่งสามารถ
แก้ไขได้
ส่วนใหญ่
ไม่สามารถ
แก้ไขได้
Consensus
Mechanism
Proof of Stake,
Federated
Byzantine Fault
Tolerance
Agreement,
Proof of
Authority, Proof
of Identity
Proof of Stake,
Practical
Byzantine Fault
Tolerance,
Deposit-Based,
Federated
Byzantine
Agreement
Proof of Stake,
Practical
Byzantine Fault
Tolerance,
Deposit-Based,
Federated
Byzantine
Agreement
Proof of
Work
(Ethereum Kovan Testnet, POA Chain,
R3 (Banks), EWF
(Energy), B3i (Insurance), Corda)
(Bitcoin,
Ethereum,
etc..)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
42
คุณลักษณะ
(Characteristic)
Private
Permissioned
(Private
Blockchain)
Public
Permissioned:
Single Industry
Public
Permissioned:
Multi-Industry
Permissionless
(Public
Blockchain)
ข้อดี
(Advantages)
1. การรับรองความถูกต้องและการรักษา
ความปลอดภัยด้วยสิทธิของผู้ใช้ที่ไว้วางใจ
ได้อย่างน่าเชื่อถือ
2. การปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพของโปรโตคอล
และเครือข่ายได้
3. ค่าใช้จ่ายในการจัดการระบบเครือข่ายและ
การจัดการใช้งานร่วมกัน
4. การก�ำกับดูแลและการบังคับใช้นโยบาย
5. การก�ำกับดูแลกฎระเบียบ
6. การพัฒนามาตรฐานและการควบคุม
7. ความสามารถในการท�ำงานที่รวดเร็วขึ้น
8. การปกป้องข้อมูล สินค้า บริการ หรือกลยุทธ์
ทางธุรกิจ ให้มีเสถียรภาพมั่นคงและปลอดภัย
1. ข้อมูล
ทั้งหมด
จะเป็นข้อมูล
สาธารณะ
2. ความสามารถ
ในการ
ป้องกัน
การถูกโจมตี
3. ไม่มี
ศูนย์กลาง
ในการ
ควบคุม
(No
Centralized)
4. ไม่มีการ
แยกผู้ใช้
ออกจาก
นักพัฒนา
Application
5. การเติบโต
ของระบบ
นิเวศ
ผ่านทาง
เครือข่าย
6. โอเพ่นซอร์ส
(Opensource)
7. การมี
นักพัฒนา
ซอฟต์แวร์
ร่วมกัน
พัฒนา
บทน�ำ 43
คุณลักษณะ
(Characteristic)
Private
Permissioned
(Private
Blockchain)
Public
Permissioned:
Single Industry
Public
Permissioned:
Multi-Industry
Permissionless
(Public
Blockchain)
ข้อเสีย
(Disadvantages)
1. จุดเดียวของความล้มเหลว
(Single Point of Failure)
2. อาจไม่สามารถเปิดแหล่งที่มาได้
3. การเสริมสร้างรูปแบบธุรกิจ
และชุดกระบวนการที่มีอยู่
4. การที่ต้องดูแลระบบและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
5. ผู้จัดหาเป็นศูนย์ข้อมูลกลาง
(ในกรณีผู้ซื้อหรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง)
6. การจัดหาทรัพยากรบุคคลส�ำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่มีอยู่จ�ำกัด
7. การใช้งานต้องมีมติหรือข้อตกลงเป็นเอกฉันท์
ขององค์กร
1. ปัญหา
ความสามารถ
ในการรองรับ
การปรับ
ขยายขนาด
ธุรกรรม
ท�ำให้เกิด
ความล่าช้า
ในการท�ำ
ธุรกรรม
2. การก�ำกับ
ดูแลที่
ซับซ้อน
3. การมีส่วนร่วม
ของผู้เกี่ยวข้อง
ที่ไม่น่า
เชื่อถือ
4. ศักยภาพ
ในการ
ตรวจสอบ
ธุรกรรม
(Minner)
5. ศักยภาพ
บางประการ
ที่อาจ
ผิดกฎหมาย
6. สิ่งจูงใจ
ทางการเงิน
ที่ต้องใช้
เพื่อรักษา
เครือข่าย
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Zheng, Xie, Dai, & Wang, 2016)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
44
คุณลักษณะพื้นฐานที่ส�ำคัญของเทคโนโลยี Blockchain
การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของ Block โดยเชื่อมต่อแต่ละ Block ด้วย
Hash Function และกระจายให้ทุก ๆ Node เก็บ ท�ำให้เกิดคุณสมบัติที่ส�ำคัญ
ของ Blockchain 3 ประการ คือ ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity)
ความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล (Data Transparency) และความสามารถในการ
ท�ำงานได้อย่างต่อเนื่องของระบบ (Availability) (Serrano, 2017)
ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity)
เนื่องจากการเชื่อมโยง Block ปัจจุบันและ Block ก่อนหน้าด้วย Hash
Function และท�ำการกระจายให้ทุก Node เก็บ ท�ำให้ข้อมูลที่ถูกบันทึกลงใน
Blockchain แล้วไม่สามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ (Immutability)
ดังนั้นหากมีความพยายามในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ถูกบันทึกลงใน
Block แล้วจะท�ำให้ทราบได้ทันทีเนื่องจากข้อมูลใน Node ดังกล่าวจะมีข้อมูล
ที่ต่างออกไปจาก Node อื่น ๆ ในระบบ และไม่สามารถสร้าง Consensus
กับ Node อื่นได้ ท�ำให้ถูกแยกออกจาก Chain หลักไปในที่สุด
ความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล (Data Transparency)
เนื่องจากทุก Node ในระบบ Blockchain จะเก็บข้อมูลเดียวกันทั้งหมด
โดยไม่มี Node ใด Node หนึ่งเป็นตัวกลางที่มีอ�ำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการ
เก็บข้อมูล ดังนั้นการเข้าถึงข้อมูลใด ๆ จึงท�ำได้จาก Node ตัวเองทันที
โดยไม่จ�ำเป็นต้องร้องขอข้อมูลจากตัวกลาง จึงเรียกว่าเป็นระบบที่มีความ
โปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูลสูงมาก
บทน�ำ 45
ความสามารถในการท�ำงานได้อย่างต่อเนื่องของระบบ (Availability)
เนื่องจากทุก Node ในระบบ Blockchain จะเก็บข้อมูลเดียวกันทั้งหมด
จึงสามารถท�ำงานทดแทนกันได้เมื่อมี Node ที่ไม่สามารถให้บริการได้ในขณะนั้น
โดยระบบจะท�ำการคัดลอกส�ำเนาข้อมูลให้เป็นข้อมูลชุดเดียวกันเมื่อ Node
กลับขึ้นมาให้บริการได้อีกครั้ง
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
46
รูปภาพที่ 11: กระบวนการตัดสินใจก่อนการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Yaga, Mell, Roby, & Scarfone, 2018a)
เกณฑ์การพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain
เกณฑ์ในการพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีBlockchainเพื่อพิจารณาความเหมาะสม
และความจ�ำเป็นในมิติต่าง ๆ ตามข้อค�ำถามทั้ง 6 ค�ำถาม ส�ำหรับใช้ในการ
ตัดสินใจเพื่อให้องค์กรสามารถเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain ได้อย่างเหมาะสม
อีกทั้งยังสามารถน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อแก้ปัญหาการท�ำงานในอดีต
และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการวางแผนการท�ำงานในอนาคตได้ดังแสดงในรูปภาพที่11
6 คำถามก‹อนตัดสินใจใชŒ เทคโนโลยี Blockchain
คุณตŒองการแชรขŒอมูลชุดเดียวกัน
ใหŒกับผูŒที่มีส‹วนเกี่ยวขŒองทั้ง ระบบใช‹หร�อไม‹?
คุณไม‹จําเปšนตŒองใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก Blockchain
จะช‹วยใหŒคุณสามารถเก็บขŒอมูลที่มีความถูกตŒองตรงกันไดŒ
โดยรับประกันว‹าขŒอมูลจะไม‹ถูกเปลี่ยนแปลง/ ถูกแกŒไขเมื่อเวลาผ‹านไป
ถŒาขŒอมูลของคุณถูกสรŒางข�้นโดยคน /องคกรใดองคกรหนึ่งเท‹านั้น
คุณไม‹จำเปšนตŒองใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก Blockchain
ถูกสรŒางข�้นมาเพ�่อแกŒป˜ญหาความไม‹ไวŒวางใจระหว‹างกัน (Trustless)
ถŒาขŒอมูลของคุณเปšนขŒอมูลที่ตŒองมีการอัพเดต / เปลี่ยนแปลงแกŒไข
รายการอยู‹เสมอๆ คุณไม‹ควรใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก
ขŒอมูลที่ถูกเก็บบนBlockchainแลŒวไม‹สามารถเปลี่ยนแปลงหร�อแกŒไขไดŒ
ถŒาขŒอมูลของคุณเปšนขŒอมูลที่มีความละเอียดอ‹อน / ขŒอมูลที่สามารถ
ระบุตัวบุคคลไดŒ(PersonallyIdentifiableInformation:Pll)คุณไม‹ควร
ใชŒเทคโนโลยี Blockchain ถึงแมŒขŒอมูลดังกล‹าวจะถูกเขŒารหัสก็ตาม
ถŒาคุณไม‹ตŒองการพ�สูจนทราบว‹ามีอะไรเกิดข�้นกับขŒอมูลของคุณบŒาง /
ขŒอมูลมีการถูกแกŒไข (Data Provenance) หร�อไม‹ คุณไม‹จำเปšนตŒองใชŒ
เทคโนโลยี Blockchain
ถŒาคุณเชื่อถือ / ไวŒใจ คนที่มีส‹วนเกี่ยวขŒองในการสรŒางขŒอมูลของคุณ
อยู‹แลŒว คุณไม‹จำเปšนตŒองใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก
Blockchainถูกออกแบบมาเพ�่อแกŒป˜ญหาความไม‹เชื่อใจกัน(Trustless)
โดยไม‹จำเปšนตŒองมีคนกลางมาคอยสรŒางความน‹าเชื่อถือ
การสรŒางรายการขŒอมูลของคุณ
มีผูŒเกี่ยวขŒองมากกว‹า 1 ราย ใช‹หร�อไม‹?
คุณตŒองการบันทึกรายการขŒอมูลที่ไม‹สามารถเปลี่ยนแปลง
แกŒไข หร�อลบไดŒนอกจากเพ��มรายการขŒอมูลใหม‹
(Immutability) ใช‹หร�อไม‹?
ขŒอมูลของคุณที่ตŒองการบันทึกเขŒาสู‹ระบบนั้นตŒองไม‹เปšน
ขŒอมูลที่มีความละเอียดอ‹อน / ขŒอมูลที่สามารถระบุ
ตัวบุคคลไดŒใช‹หร�อไม‹?
คุณตŒองการระบบที่สามารถสรŒางความเชื่อใจระหว‹าง
ผูŒที่มีส‹วนเกี่ยวขŒองในการสรŒางขŒอมูลโดยไม‹จำเปšน
ตŒองมีคนกลางมาคอยควบคุมใช‹หร�อไม‹?
คุณตŒองการระบบที่รับประกันไดŒว‹าขŒอมูลที่ผ‹าน
การอนุมัติร‹วมกันแลŒวจะไม‹สามารถถูกปลอมแปลง
หร�อแกŒไขไดŒใช‹หร�อไม‹?
ควรใชŒเทคโนโลยี Blockchain
เร��ม
ใช‹
ไม‹ใช‹
ไม‹ใช‹
ไม‹ใช‹
ไม‹ใช‹
ไม‹ใช‹
ไม‹ใช‹
ใช‹
ใช‹
ใช‹
ใช‹
บทน�ำ 47
รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ในปัจจุบันเทคโนโลยี Blockchain ถือได้ว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการ
น�ำไปใช้งาน โดยอ้างอิงข้อมูลจาก World Economic Forum Survey (2015) พบว่า
มูลค่ารวมของธุรกรรมที่มีการใช้งานอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain รวมไปถึง
Bitcoin นั้นยังมีปริมาณค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ GDP ของโลก โดยมีปริมาณเพียง
0.025% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณสองหมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั่นเอง (Global
GDP มีมูลค่า 80 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) แต่จากรายงาน ได้แสดงให้เห็นว่า
การใช้งานเทคโนโลยี Blockchain มีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดดภายใน
10 ปีนี้ เนื่องจากภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้เห็นถึงประโยชน์และความส�ำคัญของการ
น�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้งาน โดยในปี 2015 มีตัวเลขการลงทุนในธุรกิจ
ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain สูงถึง 474 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งโตขึ้น
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
48
ภาครัฐ
(GOVERNMENT SECTOR)
การบร�หารจัดการห‹วงโซ‹อุปทาน
(SUPPLY CHAIN MANAGEMENT)
ธุรกิจประกันภัย
(INSURANCE)
ธุรกิจพลังงาน (ENERGY
BUSINESS)
การชำระและโอนเง�น
(PAYMENT AND TRANSFER SYSTEM)
สถาบันการศึกษา
(EDUCATION)
ธุรกิจออนไลนเพลง
(MUSIC ONLINE)
ธุรกิจการแชรรถร‹วมกัน
(RIDE SHARING)
การเช‹าและซื้อขายรถ
(CAR RENTAL AND
TRADING SYSTEM)
เคร�อข‹ายและอินเตอรเน็ตในทุกสิ�ง
(NETWORKING AND
INTERNET OF THING: IOT)
งานว�จัยและคาดการณ
(RESEARCH AND FORECASTING)
การออกเสียง (VOTING)
บัตรกํานัลและโปรแกรม
สรŒางความภักดี
(GIFT CARDS AND
LOYALTY PROGRAMS)
แหล‹งเก็บขŒอมูลแบบออนไลน
(CLOUD STORAGE)
ธุรกิจสุขภาพ
(HEALTHCARE)
ธุรกิจกีฬา
(SPORT BUSINESS)
การซื้อขายหุŒน
(STOCK TRADING)
อสังหาร�มทรัพย
(REAL ESTATE)
ความปลอดภัยทางไซเบอร
(CYBERSECURITY)
การเง�นการธนาคาร
(FINANCE AND BANKING)
รูปภาพที่ 12: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วนต่าง ๆ
ถึง 59% จากปีก่อนหน้านี้ โดยในปัจจุบันได้มีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นไม่จ�ำเพาะแค่เพียงภาคการเงินและการธนาคาร
เท่านั้น ดังแสดงในรูปภาพที่ 12 ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Supply Chain ธุรกิจประกันภัย
ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพสถาบันการศึกษา หรือแม้แต่ธุรกิจเพลงออนไลน์ รวมไปถึง
ภาครัฐก็ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการท�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ในการบริหาร
งานภาครัฐกันมากขึ้นเช่นกัน
บทน�ำ 49
ดังนั้นจากข้อมูลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วนต่าง ๆ
ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นท�ำให้สามารถจัดกลุ่มการพัฒนา Application ที่ท�ำงาน
อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchain ได้เป็น 4 กลุ่มดังแสดงในรูปภาพที่ 13
Transportation
Healthcare
Online Storage
Mesh Networks
Wagers
Bounties
Family trust
Escrows
Examples:
Lo Zooz, Storj,
MaidSafe,
OpenGarden,
Bitnation
Examples:
(Ethereum) Mist,
SmartContract,
Secure Asset
Exchange
Identity
Ownership
Membership
Voting
Examples:
OneName,
Mine, Streamium
OpenBazaar,
Swarm
Examples:
Bitcoin,
Coinbase,
etc,
Key Blockchain Application Groupings
Increasing complexity and time-to-delivery
Transfers
Payments
Tips
Crowd Funding
รูปภาพที่ 13: การจ�ำแนกกลุ่ม Blockchain Application
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Umeh, 2016)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
50
เงินดิจิทัล (Cryptocurrency)
สกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีมูลค่าเหมือนกับธนบัตรในสกุลเงินประเทศต่าง ๆ และ
ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแบบดิจิทัล โดยการแลกเปลี่ยนรูปแบบ
ดิจิทัลได้เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2009 ซึ่ง Blockchain Application ในกลุ่มเงิน
ดิจิทัลได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจการให้บริการทางการเงินทั้งการโอนและ
การจ่ายเงิน ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin และ Ripple
บริการพิสูจน์ทราบ (Proof of Services)
การบริการพิสูจน์ทราบ คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการ
บรรจุข้อมูลแบบอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูลเอกลักษณ์ (Identity)
กรรมสิทธิ์ (Ownership) และสมาชิกภาพ (Membership) ซึ่งส่วนใหญ่
Application ดังกล่าวมักจะถูกน�ำไปประยุกต์ใช้โดยหน่วยงานภาครัฐ
ซึ่งท�ำหน้าที่เกี่ยวกับการบริการประชาชนยกตัวอย่างเช่นMITDigitalCurrency
Initiative ได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนรวมไปถึงภาครัฐเพื่อสร้างโครงการ
น�ำร่องเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ในการออกใบสูติบัตร
ใบมรณะบัตร ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ชื่อสถานประกอบการ รวมไปถึง
วุฒิการศึกษา ซึ่งในหลาย ๆ โครงการได้มีการพัฒนาจนเป็นรูปธรรม และ
ได้มีการน�ำไปใช้จริงแล้ว ยกตัวอย่างเช่น บริการยืนยันเอกลักษณ์ (Identity
Based Service) โดย BitNation มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระจายการอ�ำนาจ
การก�ำกับดูแลในระดับโลก ได้ท�ำการพัฒนา A World Citizenship ID
บน Blockchain Protocol (Umeh, 2016)
บทน�ำ 51
นอกจากนี้ยังมี Proof of Service อีกประเภทหนึ่งหรือที่รู้จักกันในชื่อ
Proof of Existence คือการพิสูจน์การมีอยู่จริงของเอกสารต่างๆ โดยหลักการ
คือ การเก็บข้อมูลโดยสรุปของเอกสารที่สามารถยืนยันการมีอยู่จริงของข้อมูลภายใน
เอกสารต้นฉบับได้ หรือที่เรียกว่า Cryptographic Digest รวมไปถึงเวลาที่จัดส่ง
เอกสารไปยังผู้รับซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกจัดเก็บลงใน Blockchain ดังนั้นผู้ใช้งาน
มั่นใจได้ว่าเอกสารที่ได้รับนั้นเป็นเอกสารที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ อีกทั้งไม่จ�ำเป็น
ต้องกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเนื่องจากข้อมูลที่ถูกจัดเก็บลงใน Blockchain
เป็นเพียงข้อมูลโดยสรุปของเอกสารที่สามารถยืนยันการมีอยู่จริงของข้อมูลภายใน
เอกสารต้นฉบับได้ และเวลาที่จัดส่งเอกสารไปยังผู้รับเท่านั้นไม่ใช่เอกสารต้นฉบับ
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
52
สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract)
สัญญาอัจฉริยะคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถด�ำเนินการตามข้อตกลง
โดยอัตโนมัติทันทีที่เกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขในสัญญาซึ่งได้มีการระบุถึง
เงื่อนไข หรือเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ต้องมีคนกลาง นั่นคือ
หลักการส�ำคัญของสัญญาอัจฉริยะซึ่งได้ถูกคิดค้นขึ้นในปี1994โดยNickSzabo
(Crosby, Pattanayak, Verma, & Kalyanaraman, 2016) ยกตัวอย่างเช่น
การโอนเงินจ่ายค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อัตโนมัติ ทันทีที่จ�ำนวนผู้ใช้ถึงระดับที่
ตกลงกับเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไว้ล่วงหน้าการโอนเงินจ่ายค่าโฆษณาบนเว็บไซต์
โดยอัตโนมัติ ทันทีที่จ�ำนวนคนดูถึงระดับที่ตกลงกับเจ้าของเว็บไว้ล่วงหน้า
การโอนคูปองส่วนลดราคาสินค้ามาให้ลูกค้าอัตโนมัติ ทันทีที่ถึงวันที่ใช้คูปอง
นั้นได้ หรือแม้แต่การโอนเงินจ่ายค่าบทความ ทันทีและทุกครั้งที่จ�ำนวนผู้อ่าน
บทความถึงระดับที่ตกลงกับนักเขียนไว้ล่วงหน้า ตราบใดที่คู่สัญญาทุกฝ่าย
ตกลงกันได้ เมื่อนั้นสัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract ก็จะถูกโปรแกรมและ
บริหารจัดการอัตโนมัติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์บนเทคโนโลยี Blockchain
ซึ่งในปัจจุบันบริษัท Ethereum และ Codius ได้เปิดใช้งาน Smart Contract
บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchain โดย The Ethereum Project
เป็นหนึ่งตัวอย่างของการท�ำ Smart Contract เต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในรูปแบบ
ของ Public Blockchain ส่วนตัวอย่างอื่น ๆ นั้นเป็นการท�ำ Smart Contract
ในรูปแบบของ Private หรือ Permissioned Blockchain ซึ่งจะท�ำการติดต่อ
เฉพาะ Node ที่รู้จักและเชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัย การน�ำสัญญา
อัจฉริยะ หรือ Smart Contract มาใช้งานนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาความไม่ไว้
วางใจกันระหว่างคู่สัญญา การฉ้อโกง และการบิดเบือนสัญญา อีกทั้งยังสามารถ
ช่วยแก้ปัญหาการตีความเนื้อหาในสัญญา ซึ่งมักจะเป็นข้อพิพาทระหว่าง
คู่สัญญาเสมอ ๆ เนื่องจากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างตีความสัญญาคนละแบบ
บทน�ำ 53
ทั้งนี้ในการประยุกต์ใช้งาน Smart Contract ร่วมกับกระบวนการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง จ�ำเป็นต้องทราบจุดเด่น และข้อจ�ำกัดของ Smart Contract ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้สามารถน�ำ Smart Contract ไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม โดยจุดเด่น
ของ Smart Contract ประกอบไปด้วย
ความปลอดภัย (Security) เนื่องจาก Smart Contract ที่ถูกพัฒนา
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain นั้นจะถูกกระจายไปยังสมาชิกอื่น ๆ
ที่อยู่ในเครือข่าย จึงมั่นใจได้ว่า Smart Contract ดังกล่าวจะไม่สูญหาย
หรือถูกเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการท�ำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
ความเป็นอัตโนมัติ (Automation) เนื่องจาก Smart Contract
จะด�ำเนินการตามข้อตกลงโดยอัตโนมัติทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์
ตามเงื่อนไขในสัญญา ซึ่งได้มีการระบุไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ต้อง
มีคนกลางมาเกี่ยวข้อง
ความเป็นมาตรฐาน (Standardization) เนื่องจาก การน�ำ Smart
Contract มาใช้งานในระบบใด ๆ นั้น หมายความว่าระบบนั้นจะต้อง
ท�ำงานภายใต้เงื่อนไข หรือข้อตกลงต่างที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบ
ตามที่ได้ก�ำหนดไว้ใน Smart Contract
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
54
ดังนั้นจากจุดเด่นของ Smart Contract ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นลักษณะงาน
ที่เหมาะสมส�ำหรับการน�ำ Smart Contract ไปประยุกต์ใช้ ประกอบไปด้วย
งานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ไม่ต้องการให้แก้ไขได้ หรือสามารเปลี่ยนแปลง
เพิ่มเติมได้จากผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูล
ส�ำหรับใช้ยืนยันบุคคล การเก็บข้อมูลสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่าง ๆ
บทน�ำ 55
งานที่ต้องการให้ธุรกรรมสามารถด�ำเนินการได้อย่างอัตโนมัติตาม
เงื่อนไขที่ก�ำหนด โดยปราศจากตัวกลางในการควบคุม หรือก�ำหนด
การตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่น งานเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์
งานที่จ�ำเป็นต้องเก็บประวัติการท�ำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ใน
การสืบข้อมูลย้อนกลับ หรือตรวจสอบความถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น
งานเก็บประวัติการรักษาทางการแพทย์ งานเก็บประวัติข้อมูล
การถ่ายโอนสินทรัพย์ที่มีมูลค่า
งานที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายกรณีมีตัวกลางร่วมในการบริหารจัดการระบบ
ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายหน่วยงานที่มีการใช้บุคลากร หรือสาขา
ของส�ำนักงานในการด�ำเนินงานเป็นจ�ำนวนมาก
ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Error) เนื่องจากการสร้าง
Smart Contract คือ การเขียนโปรแกรม และก�ำหนดขั้นตอนการท�ำงาน
ดังนั้นหากมีการทดสอบไม่เพียงพอ Smart Contract ที่สร้างขึ้นสามารถ
ท�ำงานผิดพลาดได้ โดยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจสร้างความเสียหาย
และส่งผลกระทบในวงกว้าง
ถึงแม้SmartContractจะมีจุดเด่น
และความเหมาะสมกับการน�ำไปใช้
ในงานประเภทต่าง ๆ ดังได้กล่าวมา
แล้วข้างต้น แต่อย่างไรก็ดีหากมี
การน�ำ Smart Contract ไปใช้งาน
ก็ยังจ�ำเป็นที่จะต้องพิจารณาข้อจ�ำกัด
ดังต่อไปนี้ร่วมด้วย
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
56
ความยากต่อการเปลี่ยนแปลง (Immutable) หรือปรับปรุงเวอร์ชัน
ของ Smart Contract เนื่องจาก Smart Contract และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ได้ท�ำการลงทะเบียน และมีการเชื่อมต่อกับระบบที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย
แล้ว ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลง Smart Contract ส่งผลให้ต้องมี
การเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อกับระบบที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด
ความเชื่อมั่น (Confidence) เนื่องจากในปัจจุบันยังขาดการรับรอง
ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกรรมผ่าน Smart Contract
ค่าใช้จ่าย (Cost) เนื่องจากการพัฒนา Smart Contract และส่วนเชื่อมต่อ
กับระบบอื่นที่เกี่ยวข้อง จ�ำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีประสบการณ์สูง
ในการด�ำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการส�ำหรับ
กระบวนการดังกล่าวสูงขึ้นตามไปด้วย
บทน�ำ 57
ระบบ/บริการอัตโนมัติ
(Decentralized Autonomous Systems/Services)
ระบบ/บริการอัตโนมัติ ถูกมองว่าเป็นพัฒนาการขั้นสูงสุดส�ำหรับการพัฒนา
Application บนเทคโนโลยี Blockchain คือ การท�ำให้คอมพิวเตอร์สามารถ
คุยกันเองเพื่อบริหารกิจการได้เองแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องอาศัยการตัดสินใจ
ของมนุษย์ หรือไม่ต้องมีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่เรียกว่า “องค์กรอัตโนมัติ
กระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization: DAO)
โดยการแปลงสัญญาและข้อตกลงทั้งหมดขององค์กรหรืออะไรก็ตาม
ให้อยู่ในรูปแบบของ “สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts)” แต่อย่างไรก็ดี
สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ก็เป็นเพียงแค่ชุดค�ำสั่งทางคอมพิวเตอร์
เท่านั้น ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ได้มีศักยภาพใด ๆ ที่จะท�ำหน้าที่ในการผลิตสินค้า
เขียนโค้ดหรือกวาดถนนดังนั้นการที่องค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์(Decentralized
Autonomous Organization: DAO) จะเกิดผลสัมฤทธิ์ในเชิงปฏิบัติได้นั้น
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
58
จึงจ�ำเป็นต้องมี “ผู้รับเหมา (Contractor)” โดย DAO จะเปิดให้ใครก็ได้ส่ง
“ข้อเสนอ” (Proposal) ที่จะพัฒนา/ผลิตสินค้าหรือบริการเข้ามา ข้อเสนอ
เหล่านี้ต้องอยู่ในรูปของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) แนบด้วยข้อเสนอ
ในรูปภาษาธรรมดา จากนั้นข้อเสนอต่าง ๆ จะถูกตรวจสอบว่าขัดแย้งกับ
ผลประโยชน์ของ DAO หรือไม่ และมีคุณสมบัติครบตามที่ DAO ระบุหรือไม่
จากนั้นข้อเสนอของผู้รับเหมาที่ผ่านการพิจารณาจะถูกเติมเข้าไปในรายชื่อบัญชี
ที่มีสิทธิได้รับเงินจาก DAO ทั้งนี้องค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์ (Decentralized
Autonomous Organization: DAO) เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ
เมื่อเป็นการพัฒนาควบคู่กันไประหว่างเทคโนโลยี Blockchain และปัญญา
ประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) (สฤณี อาชวานันทกุล (2016))
บทน�ำ 59
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ
กรณีศึกษาต่างประเทศ
02
ปัจจุบันการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐมีแนวโน้ม
สูงขึ้นอย่างมาก โดยพบว่ามีมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น เอสโตเนีย
แคนาดา อังกฤษ บราซิล จีน และอินเดีย เริ่มมีการศึกษา ทดลอง รวมไปถึง
การพัฒนา จนน�ำไปสู่การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการ
ภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมดังแสดงในรูปภาพที่ 14 (โดยรายละเอียดการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐแยกตามประเทศ ดังปรากฎในเอกสาร
แนบท้ายที่ 1)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 61
Canada
Finland Estonia
Ukrain
Georgia
Switzerland
Tunisia,
Senegal
Sweden
Denmark
UK
Digital Currency/Payment
Land Registration
Voting (Elections)
Identity Management
Supply Chain Traceability
Health Care
Voting (Proxy)
Corporate Registration
Taxation
Entitlements Management
Malta
Ghana
Brazil
Peru
Texas
HHS, FDA
Nasdaq
Delaware
New York
Illinois
Uganda,
Tanzania
South Africa
Kenya, Nigeria,
Dubai
UAE
India
China
South Korea
Japan
Taiwan
Hong Kong
Australia
Cambodia
Indonesia
Singapore
Russia
Luxembourg
รูปภาพที่ 14: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐของประเทศต่าง ๆ
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Deloitte, 2018)
BLOCKCHAIN
for
GOVERNMENT
SERVICES
62
รูปภาพที่15:ผลการส�ำรวจความคาดหวังในการน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้ในภาครัฐ
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Holgate, 2018)
On the Radar but No Action Plan
In Short-Term Planning/
Actively Experimenting
In Medium or Long-Term Planning
No Interest
Have Already interested and Deployed
ซึ่งมีความสอดคล้องกับรายงานผลการส�ำรวจความคิดเห็นของ CIO ส่วนใหญ่
ดังแสดงในรูปภาพที่ 15 พบว่าความเห็นของ CIO ส่วนใหญ่ตระหนักและให้
ความส�ำคัญกับการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐ
เป็นอย่างมาก โดยพบว่า 22% ของหน่วยงานภาครัฐได้มีการวางแผนทั้งในระยะสั้น
และระยะยาวในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน รวมถึงมีความสนใจ
ในการน�ำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งาน และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
สูงถึง 42%
ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ
งานบริการภาครัฐในต่างประเทศ
เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 63
ในการเข้าถึงสวัสดิการและบริการต่างๆ
ของภาครัฐด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี
Blockchainสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพ
ระบบการลงทะเบียน (Registration
System) เพื่อแจกจ่ายสวัสดิการภาครัฐ
ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มากยิ่งขึ้นอีกทั้งการท�ำงานร่วมกับระบบ
พิสูจน์ตัวตน (Identity Management)
บนเทคโนโลยี Blockchain สามารถช่วย
ลดขั้นตอน และการใช้ส�ำเนาเอกสารใน
การพิสูจน์ตัวตนได้ ท�ำให้ประชาชนได้
รับความสะดวกและรวดเร็วในการได้รับ
บริการ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษ
ได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน
การให้ความช่วยเหลือ
และการบริการประชาชน
Social Welfare
1
การจ่ายเงินสวัสดิการภาครัฐต่าง ๆ โดย
ประชาชนจะได้รับเงินโดยตรงผ่านทาง
Digital Wallet ของพวกเขา ซึ่งช่วยลด
ค่าธรรมเนียมธนาคาร และลดโอกาส
ในการทุจริตจากหน่วยงานท้องถิ่นลงได้
ท�ำให้เกิดความโปร่งใส และสามารถ
ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของภาครัฐได้
วัตถุประสงค์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
64
2
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการบริหารงานภาครัฐ หรือ
ที่รู้จักกันในชื่อระบบ e-Government ซึ่งเป็นแนวคิดที่รัฐบาลทั่วโลก
ก�ำลังให้ความส�ำคัญอยู่ในขณะนี้ สามารถช่วยให้เกิดการพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคตซึ่งจะเป็นประโยชน์
ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม ในการช่วยลดต้นทุน ความยุ่งยาก
ซับซ้อน และช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึง
บริการภาครัฐ อีกทั้งยังท�ำให้เกิดกระบวนการที่น่าเชื่อถือส�ำหรับ
การแบ่งปันข้อมูลภาครัฐ รวมถึงการพัฒนากระบวนการตรวจสอบ
ความน่าเชื่อถือของข้อมูลภาครัฐ ท�ำให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้
ลดการทุจริตคอร์รัปชัน
การเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการบริหารงานภาครัฐ
e-Government
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 65
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเอสโตเนีย ซึ่ง
ได้ชื่อว่ามีระบบe-Governmentที่ดีที่สุด
ในโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่ได้
น�ำเทคโนโลยี Blockchain และบริการ
ดิจิทัลมาใช้ในการบริหารประเทศแบบ
เต็มตัว เพื่อน�ำประเทศไปสู่สังคมดิจิทัล
โดยการบริการภาครัฐเกือบทุกประเภท
อยู่บนระบบออนไลน์ที่มีชื่อว่า e-Estonia
ซึ่งประกอบไปด้วย e-Service ต่าง ๆ
มากมาย เช่น e-Residency, e-Court,
Electronic Land Register, Electronic
Health Care Record และ i-Voting
ประเทศเอสโตเนียมีการลงทุนด้านระบบ
e-Government มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000
โดยเริ่มจากระบบภาษีออนไลน์ (e-Tax
Board) และระบบบริการจอดรถผ่าน
ออนไลน์ (e-Parking) จนกระทั่งในปี
ค.ศ. 2001 เริ่มท�ำโครงการ X-Road
หรือทางเชื่อมข้อมูลภาครัฐ โดยท�ำการ
เชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
ในประเทศเอสโตเนียเข้าด้วยกัน และ
พัฒนาระบบดังกล่าวเรื่อยมาจนX-Road
กลายเป็นกระดูกสันหลังส�ำคัญของงาน
บริการภาครัฐของประเทศเอสโตเนีย
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
66
ในยุคปัจจุบันรัฐบาลของหลายประเทศ
ทั่วโลกก�ำลังก้าวเข้าสู่การเป็นรัฐบาล
ดิจิทัล โดยการน�ำเทคโนโลยีและ
นวัตกรรมมาใช้ในการบริหารประเทศ
กันมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
น�ำมาซึ่งความคาดหวังจากประชาชน
ที่ต้องการได้รับการบริการที่ดีขึ้น ทั้งใน
เรื่องของความสะดวกรวดเร็ว รวมถึง
ความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
ดังนั้นนอกจากเทคโนโลยี Blockchain
จะสามารถเข้ามาช่วยในเรื่องของการเพิ่ม
ประสิทธิภาพในการบริหารงานภาครัฐ
และการให้ความช่วยเหลือและการให้
บริการประชาชน ในการเข้าถึงสวัสดิการ
และบริการของภาครัฐดังได้กล่าวมา
แล้วนั้น เทคโนโลยี Blockchain ยังได้
การสร้างความโปร่งใส
Transparency
3
ถูกน�ำมาใช้เพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับ
การด�ำเนินงานของภาครัฐอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น ได้น�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ
การแลกเปลี่ยนข้อมูลในกระบวนงาน
จัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ เพื่อสร้าง
ความปลอดภัยในการแชร์ข้อมูลภาครัฐ
รวมถึงเป็นการสร้างความโปร่งใส
ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินภาครัฐได้
(Chase, 2017)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 67
ปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ถือได้ว่า
เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่สร้าง
ผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
และหนึ่งในเป้าหมายของการถูกโจมตี
ก็คือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญของ
ประเทศแต่ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี
Blockchain ที่ยากต่อการถูกโจมตีโดย
แฮกเกอร์
4
การรักษาความมั่นคง
National Security
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
68
จึงท�ำให้รัฐบาลหลายประเทศสนใจ
ท�ำการศึกษาการน�ำเทคโนโลยีดังกล่าว
มาใช้เพื่อการรักษาความปลอดภัยระบบ
โครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญของประเทศ
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษได้มี
การพัฒนาโครงการBlockchain-Based
Cybersecurity Services for Critical
British โดยน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในการป้องกันระบบโครงสร้าง
พื้นฐานส�ำคัญของประเทศเพื่อประโยชน์
ในการรักษาความมั่นคงของชาติ
สร้างความมั่นคงปลอดภัย และความ
น่าเชื่อถือให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐาน
ที่ส�ำคัญของประเทศยกตัวอย่างเช่นระบบ
ป้องกันน�้ำท่วม ระบบควบคุมพลังงาน
นิวเคลียร์ รวมถึงระบบการจ่ายกระแส
ไฟฟ้า เป็นต้น
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 69
ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในงานบริการภาครัฐ
ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ในงานบริการภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการจัดเก็บ
ข้อมูลนั้นสามารถสร้าง
ความโปร่งใส
Transparency
โดยการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ เป็น
การเปิดโอกาสให้ประชาชน มีสิทธิเป็น
เจ้าของข้อมูลของตนเองอย่างแท้จริง
รวมไปถึงโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล
ภาครัฐต่างๆได้ง่ายขึ้นยกตัวอย่างเช่น
ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีกฎหมาย
เสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (Freedom
ofInformationAct:FOIA)โดยก�ำหนด
ให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องเปิดเผย
ข้อมูลภาครัฐให้กับประชาชนตามที่มี
การร้องขอโดยไม่รีรอ รวมไปถึงยุโรป
ก็มีกฎหมายในท�ำนองนี้ด้วยเช่นกัน แต่
อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีกฎหมายดังกล่าว
แต่การบังคับใช้กฎหมายก็ยังไม่ค่อยมี
ประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งโดยส่วนใหญ่
1
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
70
ข้อมูลที่ถูกร้องขอนั้นยังต้องใช้เจ้าหน้าที่
รัฐในการพิจารณาว่าข้อมูลดังกล่าวควร
เปิดเผยหรือไม่ รวมถึงการท�ำให้ข้อมูล
ดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมต่อ
การเปิดเผย ดังนั้นเมื่อมีการร้องขอ
ให้เปิดเผยข้อมูลตามกฎหมาย FOIA
จึงท�ำให้เกิดความล่าช้าขึ้น ทั้งนี้การน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อให้
ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลภาครัฐได้
สามารถท�ำให้เกิดความโปร่งใส และ
เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วย
“เสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร(FOIA)”โดย
มีข้อแม้ว่าการเปิดให้ประชาชนสามารถ
เข้าถึงข้อมูลภารัฐได้นั้นจะต้องไม่ละเมิด
ความเป็นส่วนตัว หรือไม่ละเมิดข้อมูล
ส่วนบุคคล โดยจะต้องมีการออกแบบ
ระบบที่ดีเพื่อให้มั่นใจว่ามีการปกปิด
ตัวตน หรือข้อมูลต้องไม่สามารถระบุ
ตัวตนได้ (Anonymous) อีกทั้งยังช่วย
ลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการที่จะต้อง
บันทึก และจัดเก็บข้อมูลหลาย ๆ ครั้ง
ส�ำหรับแต่ละหน่วยงาน โดยข้อมูล
ดังกล่าวสามารถถูกบันทึกอัตโนมัติ
โดยใช้ฟอร์มที่มีการออกแบบไว้ ซึ่ง
แบบฟอร์มดังกล่าวจะต้องมีการปกปิด
หรือซ่อนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเอาไว้
ซึ่งในปีค.ศ.2016รัฐบาลประเทศอังกฤษ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 71
ได้จัดท�ำรายงานขึ้นมาฉบับหนึ่งเกี่ยวกับ
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน
การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น
ข้อมูลเกี่ยวกับเงินบ�ำนาญ (State
Pensions) ข้อมูลความช่วยเหลือจาก
ต่างประเทศ (Foreign Aid) ข้อมูล
ค่าใช้จ่ายทั่วไปของรัฐบาล (General
Government Expenditure) โดย
หน่วยงานภาครัฐสามารถเขียนข้อมูล
เกี่ยวกับการใช้จ่ายต่างๆลงบนLedger
และLedgerดังกล่าวสามารถถูกกระจาย
ไปยังทุกคนได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความ
โปร่งใสและความรับผิดชอบเนื่องจาก
การหลอกลวงหรือการปลอมแปลงใดๆ
จะถูกตรวจสอบโดยประชาชนได้
การป้องกันการปลอมแปลง
Tamper-Proof
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐสามารถ
ช่วยสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ
ให้กับข้อมูลหรือเอกสารที่ถูกบันทึกเข้าสู่
ระบบ Blockchain แล้วจะไม่สามารถ
ถูกเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ดังนั้นถึงแม้
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน
2
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
72
การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐจะสามารถช่วย
สร้างความโปร่งใส โดยการเปิดโอกาส
ให้ประชาชนมีสิทธิเป็นเจ้าของข้อมูล
ของตนเองอย่างแท้จริง รวมไปถึง
โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐต่าง ๆ
ได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการจะน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ
การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐนั้น นอกจาก
เรื่องของการสร้างความโปร่งใส และ
ความปลอดภัยของข้อมูลแล้ว ยังจ�ำเป็น
ต้องค�ำนึงถึงเรื่องของต้นทุน รวมถึง
ค่าใช้จ่ายส�ำหรับการบริหารจัดการควบคู่
ไปกับเรื่องของความปลอดภัยร่วมด้วย
ในการตัดสินใจ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 73
ข้อจ�ำกัดของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในงานบริการภาครัฐ
ถึงแม้เทคโนโลยี Blockchain จะมีประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัยสูง
และยากต่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหากน�ำมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ แต่ก็มี
ข้อควรระวังหากจะน�ำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐดังต่อไปนี้
1 สิทธิส่วนบุคคล
The Right to Privacy
การที่ข้อมูลใดๆเมื่อถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ
Blockchain แล้วจะไม่สามารถลบออก
หรือแก้ไขได้ จึงอาจเป็นข้อจ�ำกัดของ
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน
เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ
(Government Record Keeping)
ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิในความเป็นส่วนตัว
(The Right to Privacy) โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งเมื่อ EU ได้มีการออกกฎหมาย
The General Data Protection
Regulation: GDPR ว่าด้วยเรื่อง
สิทธิในการเป็นเจ้าของข้อมูล โดย
ประชาชนมีสิทธิร้องขอให้ลบข้อมูล
ของตนเองออกจากระบบใด ๆ ได้
(Right to be Forgotten) ดังนั้นการที่ไม่
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
74
สามารถลบข้อมูลที่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ
Blockchain ไปแล้วนั้น อาจจะเป็นได้
ทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีคือเหมาะแก่
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ใน
เรื่องของการจัดเก็บข้อมูล (Record
Keeping) ส�ำหรับข้อมูลที่ต้องการ
ความถูกต้องสูง และไม่ต้องการให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงแก้ไข เช่น ข้อมูลการ
2
ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่หากน�ำไป
จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะ
ในยุโรปที่มีการใช้กฎหมาย GDPR
ว่าด้วยเรื่องของสิทธิในการร้องขอให้
ลบข้อมูลของตนเองออกจากระบบได้
(Right to be Forgotten) จึงอาจเป็น
ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไป
ลิขสิทธิ์
Copyright
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ใน
การจัดเก็บข้อมูลอาจจะมองได้ 2 มุม คือ
ในมุมของเจ้าของลิขสิทธิ์ และผู้ละเมิด
ลิขสิทธิ์ ซึ่งหากมีการเผยแพร่ข้อมูลที่
ละเมิดลิขสิทธิ์เข้าสู่ระบบ Blockchain
แล้วจะไม่สามารถลบออกจากระบบได้
ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังใน
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์ นอกจาก
ประเด็นดังกล่าวแล้วหากมีการ
เผยแพร่ข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์
เข้าสู่ระบบ Blockchain แล้วจะท�ำให้
เจ้าของลิขสิทธิ์ยากต่อการตรวจสอบ
ผู้กระท�ำผิดเนื่องจากหลักการปกปิดตัวตน
(Anonymous) ยกตัวอย่างเช่น ในยุโรป
และสหรัฐอเมริกาISP(InternetService
Provider) ส่วนใหญ่ พบกับปัญหา
การน�ำเข้าข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์
โดยผู้ใช้งานของตน ดังนั้นจึงได้มีการ
ออกกฎหมายขึ้นมา 2 ฉบับ เพื่อคุ้มครอง
ISP ดังนี้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 75
The Digital Millennium Copyright Act (DMCA)
ซึ่งเป็นเครื่องมือส�ำคัญในการขับเคลื่อน
เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยกฎหมาย
DMCA ได้ปกป้องสิทธิ์ของ ISP และ
Webhost ต่าง ๆ ไว้ โดยมีการแจ้งเตือน
เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีการ
ตรวจพบ ISP สามารถที่จะลบหรือ
ระงับการเข้าถึงข้อมูล หรือสิ่งอื่นใดที่
ได้รับการยืนยันว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์
จึงเป็นประเด็นที่ต้องมีความระมัดระวัง
ในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์
เนื่องจากหากมีการเผยแพร่ข้อมูลที่
ละเมิดลิขสิทธิ์เข้าสู่ระบบ Blockchain
จะไม่สามารถลบออกจากระบบได้
รวมถึงความยากต่อการตรวจสอบ
ผู้กระท�ำผิดเนื่องจากหลักการปกปิด
ตัวตน(Anonymous)หากมีการเผยแพร่
ข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์เข้าสู่ระบบ
Blockchain
The Online Copyright Infringement Liability Limitation Act
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
76
การเซ็นเซอร์ข้อมูล
Censorship
ประเด็นเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์ข้อมูล โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่ท�ำ
หน้าที่ก�ำกับดูแลเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการกระท�ำผิดกฎหมาย จะท�ำให้
ตรวจสอบได้ยากขึ้นหากข้อมูลดังกล่าวถูกจัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยี
Blockchain ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อหน่วยงานด้านความมั่นคง
3
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 77
จากข้อจ�ำกัดดังกล่าวข้างต้น
หน่วยงานภาครัฐของต่างประเทศ
ส่วนใหญ่จึงน�ำ Private Blockchain
มาใช้ส�ำหรับการเก็บข้อมูล (Record
Keeping) ของหน่วยงานภาครัฐมากกว่า
Public Blockchain อีกทั้งด้วยข้อจ�ำกัด
ของ Public Blockchain ที่จ�ำเป็น
ต้องใช้ Node จ�ำนวนมากเพื่อท�ำหน้าที่
เป็น Miner ในการช่วย Validate
Transaction จึงท�ำให้การประมาณ
การต้นทุนที่แท้จริงในการลงทุน
โดยเฉพาะด้าน Hardware นั้นเป็นไป
ได้ยาก แต่อย่างไรก็ดีค่าใช้จ่ายในการ
Maintenance Blockchain โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งPublicBlockchainเช่นBitcoin
ถือได้ว่ามีต้นทุนสูง เมื่อเทียบกับระบบ
แบบรวมศูนย์ (Centralized System)
ที่ลงทุนเพียงแค่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ และ
เครื่องแบ็กอัพหรือเครื่องส�ำรองข้อมูล
เท่านั้น แต่ใน Public Blockchain
นอกจากเรื่อง Hardware แล้ว ยังจ�ำเป็น
ต้องมีการให้ผลตอบแทนกับ Miner
ในการท�ำการตรวจสอบ (Validation)
เพื่อให้ระบบ Blockchain นั้นสามารถ
ด�ำเนินการต่อไปได้ อีกทั้งในการด�ำเนิน
การของระบบ Blockchain โดยเฉพาะ
อย่างยิ่ง Public Blockchain จ�ำเป็น
ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลเทียบเท่า
กับการใช้พลังงานในเมืองที่มีประชากร
1.5 แสน ถึง 10 ล้านคน ขึ้นอยู่กับ
ประสิทธิภาพของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
และกระบวนการในการท�ำ Consensus
รวมถึงการกระจาย Ledger แต่อย่างไร
ก็ดีหากจะมีการน�ำ Private Blockchain
มาใช้ในงานบริการภาครัฐนั้นหากสามารถ
ควบคุมขนาดของเครือข่าย Blockchain
ไม่ให้ใหญ่เท่า Public Blockchain
ก็จะสามารถช่วยลดต้นทุนดังกล่าวลงได้
ถึงกระนั้นต้นทุนของการบริหารจัดการ
และการลงทุนในเทคโนโลยีBlockchain
ก็ยังมีมูลค่าสูงกว่าระบบแบบรวมศูนย์
(Centralized System) ที่ใช้ในปัจจุบัน
อยู่ดี นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนข้อมูล
ที่เคยจัดเก็บอยู่บนระบบเดิมขึ้นสู่
ระบบ Blockchain ยังต้องมีขนาดที่
เพียงพอเพื่อรองรับจ�ำนวนประชากร
ทั้งหมดได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินลงทุน
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
78
จ�ำนวนมหาศาล ถึงแม้จะปรับมาใช้
Private Blockchain ที่อาจมีความ
น่าเชื่อถือน้อยกว่าแล้วก็ตาม
ดังนั้นการจะน�ำเทคโนโลยีBlockchain
มาใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ นอกจาก
เรื่องของการลงทุนที่สูงแล้ว อาจยัง
ต้องค�ำนึงถึงประเด็นเกี่ยวกับความยาก
ต่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลเมื่อถูก
จัดเก็บเข้าสู่ระบบ Blockchain แล้ว
โดยข้อมูลที่เหมาะสมกับการจัดเก็บโดย
เทคโนโลยี Blockchain จึงไม่ควรเป็น
ข้อมูลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข
บ่อย ๆ แต่เหมาะกับข้อมูลที่ต้องการ
ความปลอดภัยสูง ซึ่งหากพิจารณาใน
แง่ของการลงทุนและค่าใช้จ่ายในการ
บริหารจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ
รวมศูนย์ (Centralized Database)
อาจมีความสมเหตุสมผลมากกว่าใน
การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ แต่อย่างไรก็ดี
หากพิจารณาในแง่ของความปลอดภัย
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ส�ำหรับการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐอาจมี
ความเหมาะสมมากกว่า ดังนั้นการจะน�ำ
เทคโนโลยีBlockchainมาใช้ส�ำหรับการ
จัดเก็บข้อมูลภาครัฐจึงจ�ำเป็นต้องค�ำนึง
ถึงเรื่องของต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่าย
ส�ำหรับการบริหารจัดการ ควบคู่ไปกับ
เรื่องของความปลอดภัยร่วมด้วยในการ
ตัดสินใจ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 79
รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ
แนวคิดของรัฐบาลดิจิทัล คือ การน�ำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาการบริหาร
จัดการภาครัฐ รวมถึงการให้บริการประชาชนที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการด�ำเนิน
การดังกล่าวนั้นจะต้องมีความมั่นคงปลอดภัย โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
ดังนั้นด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain สามารถตอบสนองความต้องการ
ดังกล่าวได้ ด้วยหลักการท�ำงานแบบ Distributed Ledger Technology และ
Cryptography จึงท�ำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้ถูกจัดเก็บด้วยเทคโนโลยี Blockchain
นั้นมีความมั่นคงปลอดภัย ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐ
ของหลาย ๆ ประเทศจึงได้หันมาให้ความสนใจศึกษาถึงหลักการ และแนวทางการ
ประยุกต์ใช้ จนน�ำไปสู่การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ
อย่างเป็นรูปธรรมกันมากขึ้น ดังแสดงในตารางที่ 2
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
80
Countries
Blockchain Applications
Estonia
United
State
China
India
Dubai:
United
Arab
Emirates
Taiwan
Sweden
Australia
Gana
Georgia
Japan
Luxembourg
Malta
Norway
Switzerland
Ukraine
Republic
of
Georgia
Finland
Singapore
Peru
Government Data Record
Management
Asset Register
(Land Registry,
Vehicle Registry)
         
e-Voting  
Medical Record
(e-Health)
    
Digital Certificate
(Birth Record,
Education Certificate)
 
Identity Management
Individual Identity
(e-Identity, Citizen I
dentification, eID)
        
Transaction Traceability
Supply Chain
for Traceability
(Food Safety,
Pharmaceutical)
  
Tax Compliance
and Custom for
Fraud Traceability
    
ตารางที่ 2: ตารางแสดงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐในต่างประเทศ
การประยุ
ก
ต์
ใ
ช้
เ
ทคโนโลยี
Blockchain
เพื
่
อ
งานบริ
ก
ารภาครั
ฐ
กรณี
ศ
ึ
ก
ษาต่
า
งประเทศ
81
จากข้อมูลในตารางที่ 2 เป็นการสรุปตัวอย่างเพียงบางส่วนของการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐของประเทศต่าง ๆ ซึ่งเมื่อท�ำการจัดกลุ่ม
จะสามารถจ�ำแนกออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกันดังแสดงในรูปภาพที่ 16
รูปภาพที่ 16: การจัดกลุ่มการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้กับงานบริการภาครัฐ
การพิสูจน์ตัวตน Identity Management
การยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตน (Identity Management) นั้น
เป็นกระบวนการที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจ�ำวันในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นการท�ำธุรกรรมกับทางธนาคารการเข้ารับบริการและสวัสดิการต่างๆ
ของภาครัฐ รวมไปถึงการด�ำเนินการทางธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องมีความ
เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตนทั้งสิ้น ยิ่งในยุคปัจจุบัน
ที่เป็นยุคของเทคโนโลยีด้วยแล้วนั้น การยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตน
นั้นยิ่งมีความส�ำคัญมากยิ่งขึ้น การยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตนใน
ปัจจุบันส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้รหัสผ่าน(Password-BasedSystems)เป็นหลัก
อีกทั้งยังเป็นระบบที่ต้องอาศัยคนกลางคอยท�ำหน้าที่ในการบริหารจัดการ
การติดตามธุรกรรม
(TheTransaction
Traceability)
การพ�สูจนตัวตน
(Identity
Management)
การบร�หารจัดการ
การจัดเก็บขŒอมูล
(DataRecord
Management)
Government
Blockchain
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
82
ข้อมูลดังกล่าว โดยท�ำการจัดเก็บข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลาง ซึ่งระบบดังกล่าวมี
ความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีเข้าระบบเพื่อจารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Identity
Theft)และน�ำข้อมูลดังกล่าวไปขายให้กับอาชญากรเพื่อสวมรอยเป็นบุคคลนั้นๆ
หรือน�ำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อกระท�ำความผิดอื่นใดได้ แต่ด้วยคุณสมบัติการ
ท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นระบบแบบกระจายศูนย์ (Distributed
Computing)และมีการจัดเก็บข้อมูลแบบSharedDatabaseซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบ
การบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้น
ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ โดยทุก ๆ ผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูล
ชุดเดียวกันทั้งหมด จึงท�ำให้เกิดความสะดวกในการตรวจสอบ และบริหาร
จัดการการยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยและ
มีประสิทธิภาพอีกด้วย
การท�ำงานของระบบยืนยันหรือพิสูจน์ตัวตนบนเทคโนโลยี Blockchain
ดังแสดงในรูปภาพที่ 17 ใช้หลักการ “Self-Sovereign Identity” คือ การที่ประชาชน
หรือองค์กรสามารถที่จะสร้างและจัดเก็บข้อมูลประจ�ำตัวของตนไว้บนอุปกรณ์
ของตนเองได้ โดยไม่ต้องมีคนกลางมาท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป
ท�ำให้เกิดประสิทธิภาพในการตรวจสอบส�ำหรับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลดังกล่าว อีกทั้ง
ยังสามารถช่วยลดการใช้กระดาษลงได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องถ่ายเอกสารหลักฐานส�ำคัญ
เพื่อใช้ในการยืนยันตัวบุคคล ยกตัวอย่างเช่น บัตรประชาชน ส�ำเนาทะเบียนบ้าน
สูติบัตร หรือเอกสารส�ำคัญทางราชการอีกต่อไป
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 83
Strong Two-factor
authentication
SELF-SOVEREIGN
IDENTITY MANAGEMENT
Privacy Engine
End user agrees which identity attributes
are shared with third parties
Government
App store
Cryptography
Information is encrypted
and saved on device
Blockchain
Data is timestamped, hashed,
digitaly signed and added to
the blockchain
2nd
generation
biometrics
PIN code
Public key
Valid transaction
are encoded,…
and data is
preserved on
P2P network
e-signature e-ID card
e-voting e-cabinet
e-services
e-police e-welfare
e-law
Private key
Personal Data
Tamperproof crypto engine
Encrypted data container
Trusted Execution
Environment (TEE)
Name
Age
Certifications
Third party 1
Third party 2
AUTHENTICATION TAMPERPROOF DIGITAL IDENTITY USER CENTRIC INTERFACE
รูปภาพที่ 17: ระบบยืนยันและพิสูจน์ตัวตนบนเทคโนโลยี Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Parker, 2017)
กรณีศึกษาที่ 1
ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์
Citizen Identification
รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา
รัฐอิลลินอยส์แห่งประเทศสหรัฐ
อเมริกาได้น�ำระบบIdentityManagement
บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการ
เก็บสูติบัตรของเด็กทารกแรกเกิด (Birth
Registration) รวมถึงระบบพิสูจน์และ
ยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (Citizen
Identification)โดยทางรัฐบาลได้ท�ำงาน
ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพ Evernym
โดยแพทย์และผู้ปกครองของเด็กทารก
เกิดใหม่สามารถลงทะเบียนสูติบัตรบน
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
84
ระบบ Blockchain ซึ่งถูกออกแบบมา
เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล
ของประชาชนในระยะยาว ท�ำให้รัฐบาล
สามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับ
การเกิดของประชาชน รวมไปถึงข้อมูล
ทางชีวภาพ (Biometric) อื่น ๆ ได้ เช่น
กรุ๊ปเลือด ลายนิ้วมือ เสียง ม่านตา
และดีเอ็นเอ โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูก
เข้ารหัสพร้อมทั้งใช้ลายเซ็นดิจิทัล
(Digital Signature) เซ็นก�ำกับและ
หลังจากนั้นข้อมูลก็จะถูกเก็บไว้ใน
Distributed Ledger ที่สามารถเข้าถึง
ได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ
ระบบพิสูจน์ตัวตน และป้องกันการ
โจรกรรมเอกลักษณ์บุคคล (Identity
Theft)ได้โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มต้น
จากการเก็บข้อมูลเด็กทารกแรกเกิด
และเก็บข้อมูลทั้งหมดของประชาชน
ในล�ำดับถัดมา การน�ำระบบ Identity
ManagementบนเทคโนโลยีBlockchain
มาใช้ในการเก็บสูติบัตรของเด็กทารก
แรกเกิด (Birth Registration) นั้น
เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ โครงการของ
รัฐบาลรัฐอิลลินอยส์ที่ต้องการพัฒนา
ระบบเทคโนโลยี Blockchain เพื่อน�ำ
มาใช้ในชีวิตประจ�ำวันของประชาชน
ให้มากขึ้น
กรณีศึกษาที่ 2
ระบบการยืนยันตัวตนผู้ประสบภัย
RefugeesIdentityManagement
องค์การสหประชาชาติ
(The United Nation: UN)
นอกจากนี้ระบบIdentityManagement
บนเทคโนโลยี Blockchain ยังได้
ถูกน�ำไปใช้เพื่อสนับสนุนภารกิจของ
UN ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัท
Accenture และ Microsoft ในการ
สร้างระบบการยืนยันตัวตนโดยใช้วิธี
ตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric)
ผ่านลายนิ้วมือและม่านตาโดยUNได้เริ่ม
ใช้งานระบบดังกับผู้อพยพในเอเชีย
29ประเทศจ�ำนวน1.3ล้านคนและจะขยาย
เป็น 7 ล้านคนในปี ค.ศ. 2020 รวมไปถึง
โครงการอาหารโลก (World Food
Program: WFP) แห่งสหประชาชาติ
ยังได้น�ำระบบ Identity Management
บนเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ในการ
ยืนยันตัวตนของผู้อพยพหรือผู้ประสบภัย
เพื่อรับคูปองแทนเงินสดส�ำหรับช่วยเหลือ
ผู้อพยพ หรือประสบภัย โดยผู้รับคูปอง
สามารถที่จะสแกนม่านตาของผู้ใช้คูปอง
ท�ำให้ทางเจ้าของร้านที่เข้าร่วมรายการ
สามารถแจกจ่ายอาหารให้กับทาง
ผู้อพยพ ทั้งนี้การยกเลิกเงินสดแล้ว
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 85
การบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูล Data Record Management
หัวใจของการบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐ คือ การบริหารจัดการความ
น่าเชื่อถือของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ บุคคล องค์กร สินทรัพย์ และกิจกรรมต่าง ๆ
ของภาครัฐ นอกจากนี้ในการบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล
การเกิดการตายสถานภาพการสมรสการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการด�ำเนินธุรกิจ
และการโอนสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เป็นต้น
ล้วนแล้วแต่มีต้นทุน และความยุ่งยากในการบริหารจัดการรวมถึงการน�ำไป
ใช้งานทั้งสิ้น อีกทั้งข้อมูลบางอย่างยังไม่ถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปแบบของแบบฟอร์มบนกระดาษ หากประชาชน
ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อมูลก็จ�ำเป็นต้องไปด�ำเนินการด้วยตนเอง
ณสถานที่ราชการที่เกี่ยวข้องนั้นๆแต่ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยีBlockchain
ที่ใช้หลักการของ Distributed Ledger Technology (DLT) และ Cryptography
ซึ่งช่วยให้การเข้าถึง และการเข้าใช้ข้อมูลภาครัฐ รวมถึงการบริหารจัดการ
ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูลภาครัฐท�ำได้ง่ายขึ้น ดังนั้นรัฐบาล
ในหลายประเทศจึงมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
ภาครัฐรวมถึงข้อมูลการลงทะเบียนเอกสารส�ำคัญที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ
ยกตัวอย่าง เช่น
หันมาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการ
เยียวยาผู้อพยพหรือผู้ประสบภัยนั้น
จะช่วยอุดรอยรั่วทางด้านการแจกจ่าย
อาหาร และท�ำให้อาหารเหล่านั้นถึงมือ
ผู้ประสบภัยได้อย่างครบถ้วน
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
86
ข้อมูลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (e-Voting)
ข้อมูลประวัติการศึกษา (Educational Record)
ข้อมูลประวัติการเกิด (Birth Record)
ข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาล (Medical Record)
ข้อมูลการลงทะเบียนสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Register)
กรณีศึกษาที่ 1
การขอจดทะเบียนที่ดิน
Land Registry ประเทศอินเดีย
ประเทศอินเดียได้มีการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในการขอจดทะเบียน
ที่ดิน (Land Registration) โดยที่ดิน
ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งบ่อยครั้ง
มักเป็นสาเหตุของการเกิดกรณีพิพาท
ปัญหาอาชญากรรม และการฉ้อโกง
ดังนั้นการคุ้มครองสิทธิเหนือที่ดิน และ
การถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส�ำหรับผู้ซื้อ
จึงเป็นเรื่องส�ำคัญเนื่องจากประเด็น
ดังกล่าวถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผล
กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน
และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัญหา
กรณีพิพาทเรื่องที่ดินมักเป็นปัญหา
ที่เกิดขึ้นกับประเทศก�ำลังพัฒนาเป็น
ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย
จึงได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ในการขอจดทะเบียน/โอนกรรมสิทธิ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ที่มีสภาพ
คล่องต�่ำยกตัวอย่างเช่นที่ดินซึ่งช่วยลด
กระบวนการทางด้านเอกสารได้ อีกทั้ง
ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการท�ำ
ธุรกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 87
กรณีศึกษาที่ 2
การจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล
ประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย
นครรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐ
อาหรับเอมิเรตส์
นครรัฐดูไบได้น�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บและ
ส่งต่อข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาล
ของผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับกระบวนการรักษาพยาบาลสามารถ
เข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัย โดย
นครรัฐดูไบซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับ NMC
Healthcare ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
(UnitedArabEmirates:UAE)ได้มองเห็น
ถึงความส�ำคัญดังกล่าว จึงได้ร่วมมือ
กับบริษัท Guardtime ซึ่งเป็นบริษัท
ผู้พัฒนาโซลูชันต่าง ๆ บนเทคโนโลยี
Blockchain สัญชาติเอสโตเนีย ในการ
น�ำระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์
(Electronic Health Records: EHR)
บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ซึ่งการใช้งานระบบดังกล่าวช่วยให้ข้อมูล
มีความถูกต้องปลอดภัย และเชื่อถือ
ได้ตลอดกระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่าง
ผู้ให้บริการด้านสุขภาพและผู้ป่วย ท�ำให้
มั่นใจได้ถึงความถูกต้องของข้อมูล
ที่ได้รับ ส�ำหรับผู้ป่วยที่มาปรึกษาแพทย์
ของ NMC Healthcare ก็สามารถได้รับ
การบริการอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน
นอกจากนี้การเริ่มต้นโครงการ
ดังกล่าวของNMCHealthcareสามารถ
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการท�ำงานโดย
การสร้างกระบวนการที่มีความปลอดภัย
ในการบันทึก จัดเก็บ และได้รับข้อมูล
ประวัติการรักษาของคนไข้ นอกจาก
การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ
จัดเก็บข้อมูลดังกล่าวแล้วนั้นกระบวนการ
ท�ำงานที่มีประสิทธิภาพยังสามารถช่วย
เพิ่มประสิทธิภาพในการก�ำหนดแผนการ
และตารางนัดหมายของคนไข้ อีกทั้ง
ยังง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของ
ทั้งคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์
อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันประวัติการรักษา
คนไข้ต่าง ๆ นั้นมักจะอยู่ในรูปแบบของ
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
88
กระดาษเป็นหลัก เช่น ผลการตรวจเลือด
ผล X-Ray และอื่น ๆ อีกทั้งโรงพยาบาล
ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าว
ร่วมกัน ดังนั้นการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล
ประวัติการรักษาของคนไข้ท�ำให้สามารถ
แชร์ข้อมูลดังกล่าวระหว่างโรงพยาบาลได้
อีกทั้งยังสามารถเชื่อมั่นได้ถึงความ
ถูกต้อง และปลอดภัยของข้อมูล ด้วย
เทคโนโลยี Blockchain ที่มีรูปแบบ
ของการบันทึกข้อมูลที่รับประกันความ
ปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อน
หน้านั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง
หรือแก้ไข โดยทุก ๆ ผู้ใช้งานจะได้เห็น
ข้อมูลชุดเดียวกันทั้งหมดการท�ำงานของ
Blockchain ใช้หลักการ Cryptography
และความสามารถของ Distributed
Computing เพื่อสร้างกลไกความ
น่าเชื่อถือส�ำหรับการแชร์ข้อมูลเวช
ระเบียนของผู้ป่วยระหว่างหน่วย
งานให้บริการด้านสุขภาพ ซึ่งข้อมูล
เวชระเบียนของผู้ป่วยนั้นถือเป็นข้อมูล
ที่มีความละเอียดอ่อน นอกจากนี้การน�ำ
เทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานนั้นจะช่วย
ให้คนไข้สามารถเข้ารับการรักษาได้
ในทุกๆคลินิกและโรงพยาบาลโดยคนไข้
สามารถมั่นใจได้ว่าทุก ๆ สถานพยาบาล
นั้นจะมีข้อมูลประวัติการรักษาของคนไข้
รายนั้น ๆ แล้ว ถึงแม้จะไม่เคยได้รับการ
รักษาในสถานพยาบาลดังกล่าวมาก่อน
ซึ่งในกรณีเร่งด่วนฉุกเฉินข้อมูลดังกล่าว
จะมีประโยชน์ต่อการรักษาของคนไข้เป็น
อย่างมาก และอาจสามารถช่วยรักษา
ชีวิตของคนไข้เอาไว้ได้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 89
กรณีศึกษาที่ 3:
การออกใบ Certificate ให้กับเพชร นครรัฐดูไบ
ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
นครรัฐดูไบได้น�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในการออกใบ
Certificate ให้กับเพชร โดย The Dubai
Multi Commodities Centre ได้น�ำ
เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ใน
การออกใบ Certificate ให้กับเพชร
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Kimberley
Certificates5
” เพื่อเป็นการลดปัญหา
ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับเพชรโดยกระบวนการ
คิมเบอร์ลีย์ คือ การให้รัฐบาลของแต่ละ
ประเทศรับรองว่า เพชรส่งออกได้มา
จากเหมืองและธุรกิจที่ถูกกฎหมาย และ
ผู้ประกอบการที่มีใบรับรองเท่านั้น
จึงจะสามารถน�ำเพชรเข้าสู่ตลาดโลกได้
เนื่องจากใบรับรองนี้จะมีรายละเอียด
ของทุกขั้นตอนในการผลิตเพชร ตั้งแต่
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
90
ออกจากเหมืองถึงผู้ค้าปลีก ประเทศ
ที่ตกลงร่วมใน Kimberley Process
จะไม่ได้รับอนุญาตให้ค้าขายกับประเทศ
อื่นที่ไม่ใช่สมาชิก จึงเป็นที่เชื่อกันว่า
โครงการนี้มีส่วนช่วยลดการรั่วไหลของ
เพชรแห่งความขัดแย้งเข้าสู่ตลาดอัญมณี
โลกได้อย่างมาก
ทั้งนี้นครรัฐดูไบได้ชื่อว่าเป็น “City
of Gold” หรือเมืองแห่งทองค�ำ ดังนั้น
การส่งเสริมการค้าขาย การส่งออกและ
น�ำเข้าทองค�ำรวมไปถึงอัญมณีอื่น ๆ
จึงเป็นเรื่องส�ำคัญจนกระทั่งต้องตั้ง
เขตธุรกิจเสรีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สินค้า
5
Kimberley Certificates คือ การรับรองเพชรตามกระบวนการคิมเบอร์ลีย์เพื่อป้องกันไม่ให้
เพชรแห่งความขัดแย้ง (Conflict Diamond) หรือที่รู้จักกันในชื่อเพชรสีเลือด (Blood Diamond)
ซึ่งเป็นเพชรที่ได้จากเหมืองในพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏในประเทศเซียร์ราลีโอนซึ่งต่อต้าน
รัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ กลุ่มกบฏขายเพชรนี้เพื่อได้เงินเป็นทุนซื้ออาวุธและ
เสริมสร้างให้กองทัพแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ประเภททองค�ำ เพชร พลอยสีต่าง ๆ
และโลหะมีค่าประเภททองค�ำขาว
พัลลาเดียมเงินเป็นสินค้าที่มีการส่งออก
และน�ำเข้าจากทวีปต่าง ๆ โดยมีนครรัฐ
ดูไบเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น The Dubai
Multi Commodities Centre จึงได้
น�ำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้
ในการออก “Kimberley Certificates”
เพื่อเป็นการลดปัญหาการข้อขัดแย้ง
เกี่ยวกับเพชรอีกทั้งยังสามารถตรวจสอบ
รายละเอียดของทุกขั้นตอนในการผลิต
เพชร ตั้งแต่ออกจากเหมืองถึงผู้ค้า
ปลีกได้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 91
กรณีศึกษาที่ 4
การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
i-Voting ประเทศเอสโตเนีย
ประเทศเอสโตเนียได้น�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้กับการลงคะแนน
เสียงเลือกตั้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ
i-Voting นั่นเอง โดยประเทศเอสโตเนีย
มีการใช้ระบบการลงคะแนนแบบดิจิทัล
(Digital Voting) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005
และอนุญาตให้มีการลงคะแนนเสียงผ่าน
ระบบออนไลน์ในปีค.ศ.2007ต่อมาในปี
ค.ศ. 2015 จึงได้มีการน�ำระบบการลง
คะแนนเสียงที่ท�ำงานอยู่บนเทคโนโลยี
Blockchain โดยหลักการพื้นฐานของ
ระบบ i-Voting ก็คือบัตรประชาชน
ในรูปแบบดิจิทัล (Digital ID Card)
ซึ่งประชาชนทุกคนในประเทศเอสโตเนีย
จะต้องมี โดยในบัตรประชาชนจะ
บรรจุข้อมูลที่ใช้ส�ำหรับยืนยันตัวบุคคล
โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกเข้ารหัสไว้ เพื่อ
ใช้ในการท�ำธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ
รวมไปถึงการลงคะแนนเสียงผ่านระบบ
i-Voting ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain
จะถูกน�ำมาใช้ในขั้นตอนของการน�ำส่ง
บัตรลงคะแนนโดยทุกๆบัตรลงคะแนน
หลังจากได้รับการตรวจความถูกต้องตาม
กระบวนการต่าง ๆ แล้ว จะต้องมีการ
ประทับเวลา (Time Stamp) และข้อมูล
ดังกล่าวจะถูกจัดเก็บบนระบบBlockchain
เพื่อท�ำหน้าที่พิสูจน์การมีอยู่จริงของ
บัตรลงคะแนนนั้น ๆ หรือที่เรียกว่า
Proof of Existence คือการพิสูจน์การ
มีอยู่จริงของเอกสารต่าง ๆ
ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี
Blockchainมาใช้กับการลงคะแนนเสียง
เป็นอีกทางเลือกในการแก้ปัญหาการ
ทุจริตการเลือกตั้ง จากการลงคะแนน
ด้วยกระดาษซึ่งมีช่องโหว่มากมายที่จะ
ท�ำให้เกิดการทุจริต แต่การใช้เทคโนโลยี
Blockchain ในการลงคะแนนเสียง
สามารถช่วยลดโอกาสในการทุจริตลงได้
ท�ำให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรม
มากขึ้น โดยอย่างยิ่งในการนับคะแนน
เนื่องจากไม่สามารถท�ำการทุจริตในการ
เลือกตั้งได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ภายใต้
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
92
ระบบ Blockchain อีกทั้งยังช่วยท�ำให้การเลือกตั้งมีความสะดวกมากขึ้น และ
สามารถเข้าถึงผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้มากขึ้นจึงเป็นการส่งเสริมกระบวนการ
ประชาธิปไตยอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ในแง่ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ของข้อมูล เทคโนโลยี Blockchain สามารถออกแบบการเข้ารหัสเพื่อปกปิดตัวตน
รักษาความเป็นส่วนตัวและข้อมูลการมีส่วนร่วมทางการเมืองได้อีกด้วย ดังนั้น
เทคโนโลยี Blockchain จึงกลายเป็นเทคโนโลยีส�ำคัญที่จะท�ำให้เกิดความโปร่งใส
ในการลงคะแนนเสียงได้มากขึ้น
การติดตามธุรกรรม Transaction Traceability
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับการตรวจสอบติดตามธุรกรรม
แบบย้อนกลับทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Transaction Traceability)
ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูลให้กับสมาชิกที่มี
ความเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส (Transparency)
ความเป็นกลาง (Neutrality) ความน่าเชื่อถือ (Reliability) และความมั่นคง
ปลอดภัยของข้อมูล (Security) โดยการกระจายข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และ
ตรวจสอบได้ให้กับทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งแต่เดิมจะต้อง
อาศัยคนกลางที่ได้รับความเชื่อถือจากทุกฝ่าย คอยเป็นคนบริหารจัดการข้อมูล
ดังกล่าวโดยระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์(CentralizedSystem)
ดังกล่าวนั้นง่ายต่อการถูกปลอมแปลงและทุจริตโดยเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบ
หากมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เนื่องจากให้อ�ำนาจคนกลางในการบริหาร
จัดการข้อมูล รวมถึงการถูกเจาะระบบ (Hacking) ซึ่งจะท�ำให้ข้อมูลใน
ระบบไม่สามารถเชื่อถือได้อีกต่อไป ดังนั้นในปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ
ในหลาย ๆ ประเทศจึงได้ให้ความสนใจและน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
กับการตรวจสอบติดตามธุรกรรมแบบย้อนกลับทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply
Chain Transaction Traceability) ในหลาย ๆ กรณีด้วยกัน
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 93
กรณีศึกษาที่ 1
Food Safety Traceability
ประเทศจีน
การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้
กับการตรวจสอบความปลอดภัยของ
อาหารทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Food Supply
Chain Traceability System) โดย
ในยุคปัจจุบันความปลอดภัยด้านอาหาร
(Food Safety) ก�ำลังเป็นประเด็นที่
ได้รับความสนใจทั้งในแวดวงวิชาการ
ภาคธุรกิจ รวมไปถึงภาครัฐ โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งความปลอดภัยด้านอาหาร
ถูกจัดอยู่ในแผนเป้าหมายการพัฒนา
อย่างยั่งยืน(SustainableDevelopment
Goal: SDG) ซึ่งถูกพัฒนาโดยองค์การ
สหประชาชาติ (The United Nation)
ดังนั้นในทุก ๆ ภาคส่วนจึงได้มีความ
พยายามในการคิดค้น และพัฒนา
นวัตกรรมเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย
ของอาหาร (Food Safety Traceability)
6
ระบบ HACCP คือ การวิเคราะห์อันตราย และจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม หรือระบบ HACCP
คือ ระบบการจัดการคุณภาพด้านความปลอดภัย ซึ่งใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้
อาหารที่ปราศจากอันตรายจากเชื้อจุลินทรีย์ สารเคมี และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ โดยถือเป็น
มาตรฐานสากลตามข้อก�ำหนดของคณะกรรมการโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/ WHO
(Codex Alimentarius Commission) ที่ประเทศต่าง ๆ สามารถน�ำไปเป็นแนวทาง
ในการประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความมั่นใจในอุตสาหกรรมอาหารทั้งโดยผู้ผลิต และผู้บริโภค
ซึ่งถูกก�ำหนดโดย NASA ในปี 1960s
บวกกับวิวัฒนาการของ IoT (Internet
of Things) และเทคโนโลยี Blockchain
ท�ำให้สามารถตรวจสอบความปลอดภัย
ของอาหารได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต
จนไปถึงมือผู้บริโภคได้อีกทั้งยังสามารถ
ท�ำการตรวจสอบได้แบบ Real Time
และเป็นไปตามมาตรฐาน HACCP6
(HazardAnalysisandCriticalControl
Points) ยกตัวอย่างเช่น การปนเปื้อน
สารพิษในนมผง อันเนื่องมาจากระบบ
แบบรวมศูนย์ (Centralized System)
ที่เอื้อให้เกิดการทุจริต(Corruption)และ
การถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ (Hacking)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
94
กรณีศึกษาที่ 2
Pharmaceutical Supply Chain
Traceability ประเทศอินเดีย
ประเทศอินเดียได้น�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในการท�ำ Supply
Chain Traceability ในอุตสาหกรรมยา
ในการติดตามค้นหายารักษาโรค ซึ่ง
ท�ำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานยา
(PharmaceuticalSupplyChain)สามารถ
เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น และแจ้งเตือน
เมื่อมีการปลอมแปลงยาเนื่องจากข้อมูล
ได้รับการพิสูจน์ทราบตามเอกสารต่าง ๆ
จึงท�ำให้สามารถระบุที่มาของยาแต่ละ
ชนิดว่ามาจากโรงงานใดและเป็นไปตาม
ที่ระบุเอาไว้หรือไม่นั่นเอง เพื่อป้องกัน
การปลอมแปลงข้อมูล ท�ำให้เกิดความ
โปร่งใสและเชื่อถือได้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 95
กรณีศึกษาที่ 3:
Industrial Hemp Supply Chain
Traceability รัฐโคโลราโด
แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา
รัฐโคโลราโดแห่งประเทศสหรัฐ
อเมริกาได้ร่วมมือกับ The Institute of
CannabisResearchatColoradoState
University - Pueblo (Institute) ในการ
พัฒนาระบบตรวจสอบเส้นทางการ
ซื้อขายกัญชารวมไปถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป
ต่างๆในอุตสาหกรรมกัญชา(Industrial
Hemp) ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงผู้ซื้อและ
ผู้ขาย โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
รวมไปถึงการออกใบอนุญาตในการด�ำเนิน
ธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ทั้งนี้การซื้อขาย
กัญชาจะต้องเป็นการซื้อขายจากผู้ที่ได้
รับใบอนุญาตในการด�ำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ
กัญชาเท่านั้น ซึ่งการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในอุตสาหกรรม
กัญชานั้นช่วยให้รัฐโคโลราโดสามารถ
บังคับใช้กฎหมาย และการจัดเก็บรายได้
จากการท�ำอุตสาหกรรมกัญชาได้อย่าง
มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถ
ช่วยตรวจสอบการกระท�ำความผิด
อันเนื่องมาจากการซื้อขายกัญชาที่
ผิดกฎหมายจากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้รัฐโคโลราโดได้มีการออก
กฎหมายที่ส�ำคัญว่าด้วยเรื่องการน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการ
ตรวจสอบการกระท�ำความผิดเกี่ยวกับ
อุตสาหกรรมกัญชา รวมไปถึงผลิตภัณฑ์
ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของกัญชาตั้งแต่
กระบวนการผลิตไปจนถึงกระบวนการ
ซื้อขาย
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
96
กรณีศึกษาที่ 4:
Tax Compliance for
EU-Cross Broader Trade
to Prevent Fraud and Detection
สหภาพยุโรป
(European Union: EU)
นอกจากการน�ำเทคโนโลยี
Blockchain เข้ามาใช้ในการตรวจสอบ
ย้อนกลับของการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ
แล้วยังได้มีการประยุกต์ใช้การตรวจสอบ
ย้อนกลับของการท�ำธุรกรรมในเรื่อง
ของภาษี ยกตัวอย่างเช่น สหภาพยุโรป
(EuropeanUnion:EU)ได้น�ำเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้ในการตรวจสอบเรื่อง
ระบบภาษี ในการท�ำ Tax Refund
ส�ำหรับการค้าขายระหว่างประเทศ
สมาชิกEUด้วยกัน(TaxCompliancefor
EU-Cross Broader Trade to Prevent
Fraud and Detection) โดยสาระส�ำคัญ
ของระบบดังกล่าวคือ การติดตาม
ธุรกรรมการซื้อขาย ตั้งแต่โรงงานผลิต
ไปจนถึงผู้ซื้อโดยมั่นใจได้ว่าทุกๆธุรกรรม
จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้
รวมไปถึงเอกสารใบวางบิลหรือใบแจ้งหนี้
(Invoice) ซึ่งถือเป็นหลักฐานส�ำคัญ
ในการขอท�ำ Tax Refund เมื่อมีการ
ซื้อขายหรือน�ำเข้าสินค้าระหว่างประเทศ
สมาชิกEUด้วยกันดังนั้นด้วยคุณสมบัติ
ของเทคโนโลยี Blockchain ในเรื่อง
ของความยากต่อการเปลี่ยนแปลง
(Immutability) จึงได้ถูกน�ำมาใช้ในการ
ตรวจสอบย้อนกลับของการท�ำธุรกรรม
เพื่อป้องกันการทุจริตในรูปแบบต่าง ๆ
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 97
ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ
นอกจากการศึกษารูปแบบและความเป็นไปได้ของการน�ำเทคโนโลยีBlockchain
มาใช้ในงานบริการต่าง ๆ ของภาครัฐแล้ว แต่การจะผลักดันให้โครงการดังกล่าว
สามารถบรรลุผลได้อย่างเป็นรูปธรรมจ�ำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบดังแสดง
ในรูปภาพที่ 18
รูปภาพที่ 18: ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ
การจัดตั้ง
คณะทํางานแห‹งชาติ
(The National
Blockchain Council)
การสรŒางระบบนิเวศน
ของเทคโนโลยี Blockchain
(Blockchain Ecosystem)
การพัฒนาบุคลากร
ดŒานเทคโนโลยี Blockchain
(Capacity Building)
การสรŒางการกํากับดูแล
การใชŒงานเทคโนโลยี
Blockchain (Blockchain
Governance)
การกําหนดมาตรฐาน
เกี่ยวกับเทคโนโลยี
Blockchain
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
98
การจัดตั้งคณะท�ำงานแห่งชาติ The National Blockchain Council
การจัดตั้งคณะท�ำงานขึ้นมาเพื่อท�ำหน้าที่ในการศึกษาวิจัยข้อดีข้อเสียรวมถึง
การศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) และข้อจ�ำกัดภายใต้บริบทของ
ประเทศนั้น ๆ หากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ เนื่องจากการน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐย่อมส่งผลกระทบต่อการ
เปลี่ยนแปลงกระบวนการท�ำงานของหน่วยงานภาครัฐไปจากเดิม ซึ่งจ�ำเป็น
ต้องมีคณะท�ำงานในการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการ
วางแผนรับมือหากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อสนับสนุนงาน
บริการภาครัฐ โดยหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือรูปแบบการจัดตั้งคณะท�ำงาน
แห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์(Netherland)ได้มีการจัดตั้งDutchNational
Blockchain Coalition ซึ่งถูกจัดตั้งโดย The Ministry of Economy Affairs’
Information Technology เป็นการจัดตั้งคณะท�ำงานที่ผสานความร่วมมือ
ในทุกภาคส่วนมากกว่า20หน่วยงานทั่วประเทศทั้งหน่วยงานภาครัฐองค์กรด้าน
วิชาการเช่นสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยรวมถึงภาคเอกชนทั้งจากสถาบัน
การเงินคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์และพลังงานโดยการประสานความร่วมมือ
ดังกล่าวมีเป้าหมายในการท�ำให้ประเทศเนเธอร์แลนด์ขึ้นไปอยู่แถวหน้าในการ
เป็นประเทศผู้น�ำทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม (Innovative Technology)
โดยเฉพาะการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการสร้าง Digital Identity
ซึ่งคณะท�ำงานดังกล่าวมีหน้าที่ในการศึกษาถึงความเป็นไปได้และข้อจ�ำกัด
ผลกระทบด้านสังคม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล (Human Capital) รวมถึง
มาตรการควบคุมต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ รวมถึงการรับรู้
จนน�ำไปสู่การยอมรับจากประชาชนในสังคมถึงการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
ดังกล่าวมาใช้งาน (Krawiec et al., 2016)
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 99
นอกจากนี้ยังมีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้จัดตั้ง The Global Blockchain
Council (GBC) โดยมีนครรัฐดูไบเป็นหนึ่งในสมาชิก ซึ่งได้มีการจัดตั้งขึ้นในปี
ค.ศ. 2016 ท�ำหน้าที่ทดสอบและผลักดันโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาและ
การใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ภายในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้เป็น
ไปตามเป้าหมายที่ต้องการผลักดันให้ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กลายเป็นSmart
Future ให้ทันภายในปี ค.ศ. 2020 โดยนครรัฐดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
(United Arab Emirates) ถือได้ว่าเป็นรัฐบาลที่มีความรอบรู้ด้านเทคโนโลยี
(Tech-Savvy)ในอันดับต้นๆของโลกซึ่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UnitedArab
Emirates) ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก โดย The World Economic Forum 2016
ว่าเป็นรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพในการน�ำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
รวมไปถึงการท�ำธุรกรรมผ่านออนไลน์ต่างๆเพื่อให้บริการแก่ประชาชน(Breene,2016)
นครรัฐดูไบได้มีการก�ำหนดยุทธศาสตร์ชาติในการเป็นเมืองหลวงของเทคโนโลยี
Blockchain “The Global Capital of Blockchain” ประกอบไปด้วยเป้าหมาย
3 ด้านด้วยกันคือ
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
100
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในการจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล
ประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยเพื่อ
ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการ
รักษาพยาบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้
อย่างปลอดภัย
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้
ในการออกใบ Certificate ให้กับเพชร
โดย The Dubai Multi Commodities
Centre ได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain
เข้ามาใช้ในการออกใบ Certificate
ให้กับเพชรหรือที่รู้จักกันในชื่อ“Kimberley
Certificates”
1
2
การเพิ่มประสิทธิภาพการท�ำงานของภาครัฐ (Government Efficiency)
โดยตั้งเป้าหมายในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ
การให้บริการภาครัฐแบบเต็มรูปแบบทั้งระบบ
การสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยี Blockchain (Industries Creation)
โดยผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา Blockchain Ecosystem
ขึ้นภายในประเทศ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ รวมถึงบริษัท
สตาร์ทอัพต่าง ๆ
การเป็นผู้น�ำทางด้านเทคโนโลยีBlockchain(InternationalLeadership)
โดยจัดท�ำโครงการน�ำร่องเกี่ยวกับการพัฒนา และการใช้งานเทคโนโลยี
Blockchain ทั้งภายในนครรัฐดูไบ และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ภายใต้การก�ำกับดูแลของ The Global Blockchain Council (GBC)
ซึ่งประกอบไปด้วย 7 โครงการส�ำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 101
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ในการโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต�่ำ ยกตัวอย่าง
เช่น ที่ดิน โดยเทคโนโลยี Blockchain
สามารถเข้ามาช่วยลดขั้นตอนด้านเอกสาร
และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการท�ำ
ธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้
ในกระบวนการพิสูจน์ตัวตน (Identity
Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ลดระยะเวลาในการด�ำเนินการทาง
ธุรกรรมต่าง ๆ กับภาครัฐ
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในการท�ำพินัยกรรมดิจิทัล เพื่อโอน
กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่าง ๆ ให้แก่ทายาท
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในการสร้างโปรแกรมสะสมแต้ม
เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โครงการที่
การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้
ในการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบ
การน�ำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่าง
ประเทศ โดยเฉพาะพิธีการทางเอกสาร
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็ว
ในการจัดส่งและช�ำระเงินระหว่างประเทศ
รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยพบว่าในหลายรัฐ ยกตัวอย่างเช่น
รัฐนิวยอร์กรัฐเวอร์จิเนียรัฐฮาวายรัฐเมน
และรัฐไวโอมิง ต่างก็มีการจัดตั้งคณะ
ท�ำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain
ขึ้นมา โดยคณะท�ำงานดังกล่าวได้ถูก
จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และถูกต้อง
ตามกฎหมาย มีอ�ำนาจหน้าที่ในการ
ศึกษาผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น
หากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ส�ำหรับงานบริการในภาครัฐ
3 6
4
7
5
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
102
การสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Blockchain
Blockchain Ecosystem
ในการขับเคลื่อนรวมถึงการพัฒนาต่อยอดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
Blockchain ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนนั้นมีความจ�ำเป็น
อย่างยิ่งที่จะต้องสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Blockchain ที่เอื้อต่อ
การพัฒนา ยกตัวอย่างเช่น นครรัฐดูไบที่ได้มีการวางนโยบายของประเทศ
ในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐอย่างเต็มรูปแบบ
อีกทั้งยังมีการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้ออ�ำนวย
ต่อการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ
รวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพต่าง ๆ
การสร้างการก�ำกับดูแลการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain
Blockchain Governance
การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี Blockchain โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาครัฐ
มักพบปัญหาในด้านความเชื่อมั่น และการยอมรับจากสังคม ซึ่งสามารถพบเห็น
ได้จากหลาย ๆ โครงการน�ำร่องเมื่อถูกขยายผลไปสู่การใช้งานจริงในระดับ
ประเทศดังนั้นในการขับเคลื่อนการใช้งานเทคโนโลยีBlockchainมีความจ�ำเป็น
อย่างยิ่งที่จะต้องสร้างกรอบ หรือมาตรการในการก�ำกับดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ในเรื่องของกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้เกิด
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 103
กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการ / คณะท�ำงานเพื่อศึกษาข้อดี
ข้อเสียข้อจ�ำกัดรวมถึงความเป็นไปได้ของการน�ำเทคโนโลยีBlockchain
มาใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น รัฐนิวยอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย รัฐฮาวาย รัฐเมน
รัฐไวโอมิง และรัฐเวอร์มอนต์
ความสงบเรียบร้อยในการน�ำเทคโนโลยีBlockchain มาใช้งานยกตัวอย่างเช่น
ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ความส�ำคัญกับ
การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐ นอกจากการให้
ความส�ำคัญในเรื่องของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานแล้ว ประเทศ
สหรัฐอเมริกายังให้ความส�ำคัญกับการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี
Blockchain ทั้งในระดับรัฐ (State Action) และรัฐบาลกลาง (Federal
Action) โดยการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain ของ
ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น สามารถจ�ำแนกได้เป็น 5 กลุ่มด้วยกันดังต่อไปนี้
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
104
กฎหมายว่าด้วยการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้เทคโนโลยี
Blockchain ยกตัวอย่างเช่น รัฐแคลิฟอเนียร์ รัฐเดลาแวร์ รัฐอิลลินอยส์
รัฐเทนเนสซี และรัฐเนวาดา
กฎหมายว่าด้วยการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐในรูปแบบดิจิทัล โดยใช้
เทคโนโลยี Blockchain ยกตัวอย่างเช่น รัฐแคลิฟอเนียร์ รัฐโคโรราโด
รัฐแมริแลนด์ รัฐมิชิแกน รัฐนิวเจอร์ซีย์ รัฐนิวยอร์ก รัฐโอไฮโอ
รัฐแอริโซนา และรัฐอิลลินอยส์
กฎหมายว่าด้วยเงินสกุลดิจิทัล (Digital Currency) ยกตัวอย่างเช่น
รัฐคอนเนตทิคัต รัฐมิชิแกน รัฐเนแบรสกา และรัฐเวอร์มอนต์
กฎหมายว่าด้วยเรื่องสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ยกตัวอย่างเช่น
รัฐคอนเนตทิคัต รัฐฟลอริดารัฐเนแบรสกา รัฐนิวยอร์ก และรัฐโอไฮโอ
การก�ำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain
ถึงแม้เทคโนโลยี Blockchain จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง
รูปแบบการจัดการข้อมูลและขั้นตอนการท�ำธุรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้วยลักษณะเด่นคือการจัดเก็บข้อมูลที่มีการกระจายตัวไปยังผู้ที่อยู่ในระบบ
ทุกคน (Nodes) แทนที่การใช้ตัวกลาง และเมื่อมีข้อมูลใหม่ก็จะอัปเดตพร้อม
กันตลอดเวลา ท�ำให้ช่วยลดระยะเวลาการท�ำธุรกรรมและลดต้นทุนการด�ำเนิน
งานลงได้ อีกทั้งข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ธุรกรรมแรกจนถึงธุรกรรมสุดท้าย
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 105
ISO/TC 307/SG 1
Reference Architecture, Taxonomy and Ontology
ISO/TC 307/SG 2
Use Cases
ISO/TC 307/SG 3
Security and Privacy
ISO/TC 307/SG 4
Identity
ท�ำให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่ด้วยข้อจ�ำกัดเกี่ยวกับกฎระเบียบ
และแนวทางการพัฒนาที่มีความหลากหลาย ขาดการก�ำกับดูแล และรูปแบบ
การพัฒนาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ยังคงเป็นความท้าทายส�ำคัญในการขยาย
ขีดความสามารถของเทคโนโลยี Blockchain ดังนั้นในปัจจุบันพบว่ารูปแบบ
การพัฒนารวมไปถึงกระบวนการทางเทคนิคที่จ�ำเป็นส�ำหรับการใช้เทคโนโลยี
Blockchain นั้นมีความหลากหลาย และแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการออกแบบ
ของผู้ให้บริการนั้น ๆ ซึ่งยังไม่ได้มีการก�ำหนดมาตรฐานออกมาในรูปแบบ
ที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการก�ำหนดมาตรฐาน
(International Organization for Standardization: ISO) ได้มีความพยายาม
ในการก�ำหนดกรอบมาตรฐานส�ำหรับเทคโนโลยี Blockchain คือ ISO/TC 307
Blockchain and Distributed Ledger Technologies ซึ่งประกอบไปด้วย
7 หมวดด้วยกันดังต่อไปนี้
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
106
ISO/TC 307/SG 5
Smart Contracts
ISO/TC 307/SG 6
Governance of Blockchain and Distributed Ledger
Technology Systems
ISO/TC 307/SG 7
Interoperability of Blockchain and Distributed Ledger
Technology Systems
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 107
แต่ความพยายามในการก�ำหนด
มาตรฐานดังกล่าวนั้นยังอยู่ในขั้นตอน
ของการเตรียมการ และการจัดประชุม
ระหว่างคณะกรรมการยกร่างมาตรฐาน
โดยคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศใช้
อย่างเป็นทางการภายในปี ค.ศ. 2021
(Morris, 2018) ทั้งนี้พบว่าในหลาย
ประเทศผู้น�ำด้านเทคโนโลยีBlockchain
ต่างก็เริ่มศึกษาเกี่ยวกับการก�ำหนด
มาตรฐานด้านเทคโนโลยี Blockchain
ของตนเองเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน
ISO/TC 307 Blockchain and
Distributed Ledger Technologies
ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีน ได้มีการ
จัดท�ำมาตรฐานเทคโนโลยี Blockchain
เพื่อประกาศใช้ภายในประเทศเพื่อรองรับ
การขยายตัวของเทคโนโลยีBlockchain
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับมาตรฐาน
เทคโนโลยีBlockchainซึ่งถูกพัฒนาเพื่อ
ใช้งานในระดับประเทศ ไปสู่การพัฒนา
อุตสาหกรรมเทคโนโลยี Blockchain
ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ดังนั้น
การก�ำกับดูแล และรูปแบบการพัฒนา
ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงยังคงเป็น
ความท้าทายส�ำคัญในการขยายขีดความ
สามารถของเทคโนโลยี Blockchain
ต่อไปในอนาคตกา
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
108
การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีBlockchain
(CapacityBuilding)
ปัจจัยที่ส�ำคัญอีกประการหนึ่งของการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกิดใหม่ให้
ประสบความส�ำร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม คือการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้
ความสามารถในเทคโนโลยีนั้น ๆ ส�ำหรับเทคโนโลยี Blockchain ก็เช่น
เดียวกัน โดยสถานการณ์ด้านบุคลากรของเทคโนโลยี Blockchain ในปัจจุบัน
ถือว่ายังขาดแคลนอยู่เป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายที่จะต้องได้รับการ
พัฒนาต่อไปในอนาคต
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 109
ทั้งนี้พบว่าหลายประเทศที่มีแนว
นโยบายในการเป็นผู้น�ำด้านเทคโนโลยี
Blockchain ได้ตระหนักถึงปัญหา
ดังกล่าว โดย 27 มหาวิทยาลัยชั้นน�ำ
ทั่วโลกมีการจัดหลักสูตรการเรียน
การสอน และหลักสูตรอบรม เพื่อพัฒนา
บุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน
เทคโนโลยี Blockchain ให้กับประเทศ
ต่อไป โดย 8 มหาวิทยาลัยจากจ�ำนวน
ดังกล่าว คือ มหาวิทยาลัยที่อยู่ใน
ประเทศจีนยกตัวอย่างเช่นTheTsinghua
University, Zhejiang University,
and Central University of Finance
and Economics ประเทศสหรัฐอเมริกา
ยกตัวอย่างเช่น Princeton University,
Stanford University, and
Massachusetts Institute of
Technology (MIT) และอีก
5 มหาวิทยาลัยจากประเทศอังกฤษ
ยกตัวอย่างเช่น University of Oxford
และ University of Cambridge
ส่วนที่เหลือเป็นมหาวิทยาลัยจาก
ประเทศไซปรัส เดนมาร์ก ไอร์แลนด์
ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ และออสเตรเลีย ซึ่ง
หลักสูตรการเรียนการสอนส่วนใหญ่
ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการสอนเกี่ยวกับ
หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยี
Blockchainเงินสกุลดิจิทัลการวิเคราะห์
สถาปัตยกรรมเชิงเทคนิคของ Platform
เทคโนโลยี Blockchain ที่มีอยู่ใน
ปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น Ethereum และ
Hyperledger กรณีศึกษาการประยุกต์
ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วน
ต่าง ๆ รวมถึงทิศทางและแนวโน้ม
การพัฒนาของเทคโนโลยี Blockchain
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
110
นอกจากการสร้างหลักสูตรการเรียน
การสอนเพื่อพัฒนาบุคลากรด้าน
เทคโนโลยี Blockchain ให้กับประเทศ
แล้วประเด็นที่น่าสนใจคือมหาวิทยาลัย
ต่าง ๆ ในประเทศจีนยังให้ความส�ำคัญ
ด้านความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม
ในการสร้างสถาบันการวิจัยเกี่ยวกับ
เทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้มั่นใจ
ว่าผลงานวิจัยต่าง ๆ สามารถที่จะน�ำไป
ประยุกต์ใช้งานได้จริงทั้งในภาครัฐ และ
ภาคเอกชนต่อไป
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 111
ทั้งนี้จากการศึกษาจากแนวปฏิบัติของต่างประเทศที่เป็น
ผู้น�ำทางด้านเทคโนโลยี Blockchain ดังได้กล่าวมาแล้ว
ข้างต้น ดังนั้นในบทถัดไปเป็นการศึกษาถึงความเป็นไปได้
รวมถึงแนวทางในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้
ในการให้บริการภาครัฐของประเทศไทย ซึ่งจะได้อธิบาย
ในล�ำดับถัดไป
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
112
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับภาครัฐ
ภายใต้บริบทของประเทศไทย
03
หลักการและเหตุผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับภาครัฐไทย
แนวคิดในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ส�ำหรับภาครัฐไทยนั้น
เกิดจากแนวคิดที่ต้องการ “ยกระดับภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่มี
การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน มีการท�ำงานแบบอัจฉริยะ ให้บริการโดยมีประชาชน
เป็นศูนย์กลาง และขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง” ซึ่งแนวคิด
ดังกล่าวเป็นวิสัยทัศน์การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยตาม(ร่าง)แผนพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564 ในการยกระดับขีดความสามารถ
เชิงดิจิทัลของภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลดังวิสัยทัศน์ที่ก�ำหนดไว้นั้น ต้องอยู่
บนพื้นฐานการด�ำเนินการ 4 ประการ ได้แก่ การบูรณาการภาครัฐ (Government
Integration) การด�ำเนินงานแบบอัจฉริยะ (Smart Operation) การให้บริการโดยมี
ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen-Centric Services) และการสนับสนุนให้เกิดการ
ขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลง (Driven Transformation) ดังแสดงในรูปภาพที่ 19
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
114
รูปภาพที่ 19: วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล
ที่มา: ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน), (2560)
ยกระดับภาครัฐไทยสู‹การเปšนรัฐบาลดิจ�ทัลที่มีการบูรณาการระหว‹างหน‹วยงาน
มีการทำงานแบบอัจฉร�ยะ ใหŒบร�การโดยมีประชาชนเปšนศูนยกลาง
และขับเคลื่อนใหŒเกิดการเปลี่ยนแปลงไดŒอย‹างแทŒจร�ง
Smart Operations
การนําเทคโนโลยีและอุปกรณติจ�ทัลมา
สนับสนุน การปฏิบัติงานที่มีการใชŒเทคโนโลยี
ดิจ�ทัลที่เหมาะสม
มีการเชื่อมต‹อระหว‹างเคร�่องมืออุปกรณ
มีระบบการจัดการขŒอมูลขนาดใหญ‹ (Big Data)
มีเคร�่องมือว�เคราะหขŒอมูลเชิงลึก (Analytics)
Government Integration
การบูรณาการระหว‹างหน‹วยงานต‹างๆ
ทั้งการเชื่อมโยง ขŒอมูลและการดําเนินงาน
เพ�่อสามารถ
เห็นขŒอมูลประชาชนเปšนภาพเดียวที่สมบูรณ
ใชŒบร�การทางเทคโนโลยีร‹วมกัน
ใหŒบร�การภาครัฐแบบครบวงจร ณ จ�ดเดียว
Driven Transformation
การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู‹รัฐบาลดิจ�ทัล
ในทุกระดับของบุคลากรภาครัฐ ซึ่งรวมไปถึง
การเปลี่ยนแปลงองคกรในดŒานขั้นตอน
การทํางาน เทคโนโลยี และกฎระเบียบ
Citizen-centric Services
การยกระดับงานบร�การภาครัฐใหŒตรงกับ
ความตŒองการ ของประชาชนที่เปลี่ยนแปลง
อยู‹ตลอดเวลา โดยภาครัฐจะตŒองรักษาสมดุล
ระหว‹างความปลอดภัยในชีว�ต ทรัพยสิน ขŒอมูล
ของประชาชน และการอํานวยความ สะดวก
แก‹ผูŒรับบร�การ
Digital
Government
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 115
การบูรณาการภาครัฐ (Government
Integration) คือ การบูรณาการระหว่าง
หน่วยงานรัฐต่างๆ ตั้งแต่การเชื่อมโยง
ข้อมูล บริการ ไปจนถึงการด�ำเนินงาน
เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการ
ปฏิบัติงานและการให้บริการของรัฐ
ทั้งในระดับหน่วยงานย่อยไปจนถึงระดับ
การบูรณาการภาครัฐ
Government Integration
กระทรวง ซึ่งการเกิดการบูรณาการ
ภาครัฐดังกล่าวจะท�ำให้รัฐบาลตระหนัก
ถึงความต้องการและความจ�ำเป็นในการ
น�ำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการด�ำเนิน
งานต่าง ๆ ในแต่ละหน่วยงาน เพื่อลด
ความซ�้ำซ้อนในด้านการเบิกจ่าย
งบประมาณ ระยะเวลาการด�ำเนินการ
หรือแม้แต่การดูแลรักษาระบบต่าง ๆ
อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพจากการใช้
บริการทางเทคโนโลยีร่วมกัน (Share
Services) และการประหยัดต่อขนาด
(Economies of Scale) ในการลงทุน
โครงสร้างพื้นฐานกลาง นอกจากนี้
การบูรณาการภาครัฐยังน�ำไปสู่การให้
บริการภาครัฐแบบครบวงจร ณ จุดเดียว
(One stop Service) ที่สามารถ
ตอบโจทย์ด้านการอ�ำนวยความสะดวก
แก่ประชาชนได้มากยิ่งขึ้น
1
วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
116
การด�ำเนินงานแบบอัจฉริยะ
Smart Operation
การด�ำเนินงานแบบอัจฉริยะ (Smart
Operation) คือ การน�ำเทคโนโลยีและ
อุปกรณ์ดิจิทัลที่เหมาะสมมาสนับสนุน
การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐไทย
เพื่อให้สามารถด�ำเนินงานอย่างถูกต้อง
แม่นย�ำ รวดเร็ว และตรงจุดมากขึ้น
โดยมีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือ
อุปกรณ์ (Internet of Things) ต่างๆ
อย่างทั่วถึง ท�ำให้เจ้าหน้าที่สามารถ
สื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้เป็น
ปัจจุบันและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นอาจมีการเชื่อมต่อเครื่องมือ
อุปกรณ์ให้สื่อสารถึงกันแบบอัตโนมัติ
โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมของ
เจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อน�ำระบบการ
จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มา
ช่วยจัดระเบียบฐานข้อมูล ประกอบกับ
น�ำเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
(Analytics) มาช่วยท�ำความเข้าใจ
ข้อมูลอย่างลึกซึ้ง จะช่วยท�ำให้เจ้าหน้าที่
ภาครัฐไทยสามารถคาดการณ์ล่วงหน้า
เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและหน่วยงาน
ภาครัฐไทยสามารถจัดท�ำบริการแบบ
เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 117
การให้บริการโดยมีประชาชนเป็น
ศูนย์กลาง (Citizen-centric Services)
คือ การยกระดับงานบริการภาครัฐ
ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน
ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดย
ภาครัฐไทยจะต้องรักษาสมดุลระหว่าง
ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินข้อมูลของ
ประชาชน และการอ�ำนวยความสะดวก
(Rebalancing between Security &
Facilitation) ตลอดจนก�ำหนดระดับ
การให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
Citizen-centric Services
การรักษาความปลอดภัยและระดับความ
เข้มงวดของการยืนยันพิสูจน์ตัวตน
ให้เหมาะสมกับความซับซ้อนของงาน
บริการ ประเภทของงานบริการ และกลุ่ม
ผู้รับบริการต่าง ๆ
3
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
118
การสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนไปสู่การ
เปลี่ยนแปลง (Driven Transformation)
คือการวางแนวทางการขับเคลื่อน
ภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลใน
ทุกระดับของบุคลากรภาครัฐ โดยอาศัย
กระบวนทัศน์การเปลี่ยนแปลงโดย
มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ (Outcome-driven
Transformation) ที่มีการปรับเปลี่ยน
องค์กรแบบครบวงจร (End-to-End
Transformation) ทั้งในด้านทรัพยากร
มนุษย์ (People) ขั้นตอนการท�ำงาน
(Process) เทคโนโลยี (Technology)
และกฎระเบียบ (Regulation) รวมทั้ง
มีการขับเคลื่อนโดยมีการบริหารจัดการ
โครงการและการก�ำกับดูแล (Project
Management and Governance)
ที่ชัดเจน ภายใต้การสนับสนุนของผู้น�ำ
ระดับประเทศที่มีความมุ่งมั่น มีวิสัยทัศน์
และเล็งเห็นความส�ำคัญของการน�ำ
เทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาประเทศ
อย่างแท้จริง (Change Leadership)
อันจะส่งผลให้ภาครัฐสามารถด�ำเนิน
งานตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการได้
อย่างไร้รอยต่อ
การสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อน
ไปสู่การเปลี่ยนแปลง
Driven Transformation
4
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 119
รูปภาพที่ 20: แนวโน้มเทคโนโลยีที่ส�ำคัญส�ำหรับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
ที่มา: ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน), (2560)
Technology
Recommendation for
Digital Gevernment
2017-2021
Virtual Reality /
Augmented Reality
การนําเทคโนโลยี Virtual Reality (VR)
และ Augmented Reality (AR) มา
ปรับใช้ในการจําลองภาพหรือสถานการณ์
เหมือนจริงเพื่อบริหารจัตการความปลอดภัย
สาธารณะ การขยายพื้นที่การรักษาสุขภาพ
ไปยังพื้นที่ห่างไกล (Telemedicine) รวมถึง
การเพิ่มรูปแบบใหม่ๆในการเรียนการสอน
และการท่องเที่ยว
Smart Machine /
Artificial Intelligence
การนําเทคโนโลยีSmartMachineมาปรับใช้
เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการและตอบสนอง
การให้บริการอัตโนมัติ โดยระบบ Smart
Machine จะพัฒนาขึ้น และสามารถ
ประเมินปัญหา และจัดการ สมดุล
ตลอดห่วงโซ่การบริการ
Cyber Security
การคํานึงถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์
(Cyber Security) โดยจัดทํามาตรฐาน
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ปรับปรุงกฎ
ระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ทันต่อเหตุการณ์
และมีความ ยืดหยุ่น อีกทั้งปรับเปลี่ยน
Mindset ในการจัดการประเด็นด้าน ความ
ปลอดภัยทางไซเบอร์
Advanced
Geographic
Information
System
การนําเทคโนโลยี Advanced
GeographicInformationSystem
มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูล
ในเชิงพื้นที่ โดยสามารถประยุกต์
ใช้สําหรับการจัดสรรทรัพยากร
ด้านการเกษตร การบริหารจัดการ
ระบบคมนาคมขนส่ง และด้านอื่นๆ
Cloud
Computing
การนําเทคโนโลยีด้าน Cloud
Computing มาปรับใช้ในการ
เก็บข้อมูล เพื่อลด ความยุ่งยาก
ในการติดตั้งระบบ ลดต้นทุนใน
การดูแลระบบ และต้นทุนสําหรับ
การสร้างเครือข่าย ด้วยตนเอง
Big Data
การนําข้อมูล Big Data มาประมวลผล
และใช้เป็นเครื่องมือในการคาดการณ์
และประเมินสภาพธุรกิจการให้บริการ
โดยอาศัยเทคโนโลยี loT และ Smart
Machine เพื่อให้การวิเคราะห์และ
ตอบสนองต่อผู้รับบริการเป็นแบบ
real-time
Open Any Data
การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่
ผู้รับบริการ โดยปรับปรุงเว็บไซต์ และ
ฐานข้อมูล เพื่อสร้างการเข้าถึงจาก
สาธารณะมากขึ้น และผลักดันให้เกิด
การเชื่อมโยงข้อมูลที่เปิดเผยเหล่านั้น
กับหน่วยงานทุกภาคส่วน
Internet of Things
การอาศัยเทคโนโลยี IoT สร้าง
สภาพแวดล้อมให้ ภาครัฐปรับเปลี่ยน
รูปแบบบริการเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีดังกล่าวยัง
สนับสนุนภาครัฐในด้านต่าง ๆ อาทิ
การสื่อสาร การใช้โมบายเทคโนโลยี
การวิเคราะห์ Big Data รวมไปถึงการ
ประสานงานกับภาคธุรกิจและเอกชน
BlockChain / Distributed LedgerTechnology
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการ จัดเก็บข้อมูลและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเพื่อตรวจสอบ
ความถูกต้อง และลดภาระการพึ่งพาคนกลางในการทําธุรกรรม ภายใต้ความปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือ
ทั้งนี้เพื่อให้การขับเคลื่อนสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้นจ�ำเป็น
ต้องอาศัยเทคโนโลยี และนวัตกรรมในการขับเคลื่อน โดยใน (ร่าง) แผนพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564 ได้มีการกล่าวถึงแนวโน้มของ
เทคโนโลยีส�ำคัญที่มีผลต่อการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ส�ำคัญไว้ 9
เทคโนโลยีด้วยกัน ดังแสดงในรูปภาพที่ 20
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
120
โดยส่วนราชการต่าง ๆ ทั้งในระดับส�ำนัก กรม หรือกระทรวง สามารถที่จะน�ำ
เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหล่านี้เข้ามาปรับใช้กับการท�ำงานของภาครัฐ ตลอดจน
ใช้พัฒนาบริการ หรือกระบวนการด�ำเนินงานต่าง ๆ ได้ โดยจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี
Blockchain หรือ Distributed Ledger Technology ถือเป็น 1 ใน 9 เทคโนโลยี
ส�ำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี
Blockchain ในการจัดเก็บข้อมูลและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเพื่อตรวจสอบ
ความถูกต้อง และลดภาระการพึ่งพาคนกลางในการท�ำธุรกรรม ภายใต้ความ
ปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ใน
รูปแบบต่างๆดังได้กล่าวมาแล้วในบทก่อนหน้านี้เทคโนโลยีBlockchainยังสามารถ
น�ำมาใช้เพื่อบูรณาการบริการและการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐได้อีกด้วย ดังแสดงใน
ตารางที่ 3 ซึ่งเป็นการสรุปความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับงานบริการภาครัฐของประเทศตาม (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของ
ประเทศไทย ทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ ตามขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 121
ตารางที่ 3: ตารางสรุปความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับงานบริการภาครัฐของประเทศไทย
ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้
ยุทธศาสตร์ที่ 1: การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
1. สวัสดิการ
ประชาชน
บูรณาการข้อมูล
ประชาชนจาก
ทุกหน่วยงาน เพื่อให้
สามารถก�ำหนดสิทธิ
รายบุคคลได้อย่าง
ถูกต้องครบถ้วน และ
สามารถให้บริการ
เชิงรุกได้
ระบบบริหารจัดการข้อมูลตัวตน ระบบการ
พิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์
(Digital Identity) ด้วยเทคโนโลยี
Blockchain และระบบเบิกจ่ายสวัสดิการ
แบบรายบุคคลด้วย Smart Contract
2. การเพิ่ม
ประสิทธิภาพ
แรงงาน
บูรณาการข้อมูลตลาด
แรงงานอย่างครบวงจร
เพื่อตอบสนองความ
ต้องการทุกภาคส่วน
เช่น การจัดหางาน
การพัฒนาทักษะ
การทราบภาพรวมตลาด
ระบบจัดเก็บข้อมูลแรงงาน รวมถึงการพิสูจน์
และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital
Identity) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain และ
เชื่อมโยงกับการผลิตห่วงโซ่อุปทาน (Supply
Chain) การน�ำเข้า-ส่งออกของทั้งภาคการผลิต
ภาคบริการ และภาคเศรษฐกิจดิจิทัล
เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการจัดหางานและ
การพัฒนาทักษะแรงงานได้อย่างเหมาะสม
รวมถึงการต่อยอดระบบ Digital Identity
ด้วยการบันทึกประวัติการท�ำงานที่ผ่านมาของ
แรงงาน รวมถึงความสามารถที่มีเพื่อน�ำไปสู่
การออกใบรับรอง (Certificate) การท�ำงาน
ด้วยเทคโนโลยี Blockchain
3. การศึกษา มีระบบกลางเพื่อ
เชื่อมโยงงานบริการ
ด้านการศึกษาแบบ
ข้ามหน่วยงาน เพื่อเพิ่ม
ความเป็นอัตโนมัติ
ส�ำหรับงานบริการ
ด้านการศึกษา
สร้างระบบบันทึกใบรับรอง (Certificate)
ทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Blockchain
ที่เชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาทั้งในระบบ
และนอกระบบ รวมถึงการศึกษาแบบออนไลน์
ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามแนวทาง
ของ Open Education เพื่อสร้างความ
น่าเชื่อถือให้กับเอกสารในการใช้เป็นหลักฐาน
ส�ำหรับการเรียนต่อหรือสมัครงานได้
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
122
ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้
4. การสาธารณสุข มีระบบกลางเพื่อ
เชื่อมโยงงานบริการ
ด้านสาธารณสุขแบบ
ข้ามหน่วยงาน เพื่อให้
การด�ำเนินงานด้าน
สาธารณสุขมีความ
สะดวกและรวดเร็วขึ้น
พัฒนาระบบเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล
สุขภาพแห่งชาติ (National Health
Information Exchange Platform) โดยใช้
เทคโนโลยี Blockchain ที่เชื่อมต่อทุกหน่วยงาน
ด้านสาธารณสุขเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก
หน่วยงานประกันสุขภาพภาครัฐ ประกัน
สุขภาพเอกชน หน่วยงานควบคุมคุณภาพ
หน่วยงานวิจัย และหน่วยงานก�ำกับดูแล
ให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล
ระหว่างกันได้แบบ Realtime ภายใต้
มาตรฐานข้อมูลสุขภาพเดียวกัน มีส่วนติดต่อ
Service ของ Application (API) ที่ครบถ้วน
ยืดหยุ่น และมีความปลอดภัยสูง รวมถึง
ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษา
พยาบาลของตนได้
ยุทธศาสตร์ที่ 2: การยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจ
5. การเพิ่ม
ประสิทธิภาพ
ภาคการเกษตร
บูรณาการข้อมูล
การเกษตรระหว่าง
หน่วยงานเพื่อให้ได้
ข้อมูลที่เหมาะสมกับ
เกษตรกรแบบ
รายบุคคล
พัฒนาระบบ Blockchain ส�ำหรับการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลจากหลายหน่วยงานที่
เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT
ที่น่าเชื่อถือ และน�ำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูล
เศรษฐกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างเป็นข้อมูลและ
ค�ำแนะน�ำที่เหมาะสมกับเกษตรกรแบบ
รายบุคคล รวมถึงการสร้างบริการทางการ
เกษตรภาครัฐด้วยเทคโนโลยี Smart
Contract เพื่อให้เกษตรกร หรือหน่วยงาน
ที่เกี่ยวข้องสามารถน�ำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย
เช่น สัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าด้วย
Smart Contract, Letter of Credit, Letter
of Guarantee หรือกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ
ด้านการเกษตร
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 123
ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้
6. การท่องเที่ยว ยกระดับประสบการณ์
นักท่องเที่ยวใน
ยุคดิจิทัล
(Digital Tourism)
สร้างระบบ Loyalty Token ด้วยเทคโนโลยี
Blockchain เพื่อใช้ในธุรกิจท่องเที่ยวและ
บริการของประเทศ ในการสร้างประสบการณ์
ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล อีกทั้ง
ยังสามารถน�ำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวในการหาความ
ต้องการที่แท้จริง (Unmet Need) เพื่อน�ำไป
ปรับปรุงการให้บริการ และวิเคราะห์หาข้อมูล
เชิงลึก (Insight) เพื่อน�ำไปสร้างบริการ
รูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองความ
ต้องการนักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง รวมถึง
การเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ
ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลการยืนยันตัวตนทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (Digital Identity) ข้อมูล
สุขภาพของนักท่องเที่ยว ผ่านสายการบินและ
ระบบตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้เทคโนโลยี
Blockchain เพื่อยกระดับการให้บริการ
นักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
7. การลงทุน มีระบบกลางเพื่อ
เชื่อมโยงงานบริการ
ด้านการลงทุนระหว่าง
หน่วยงานผู้มีอ�ำนาจ
ในการอนุมัติเพื่อขอ
ใบอนุญาตเริ่มต้นธุรกิจ
พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยง
หน่วยงานด้านการลงทุน ภายในประเทศจาก
ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง
การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุน
ยังต่างประเทศ โดยใช้ Smart Contract ใน
กระบวนการขออนุญาตและอนุมัติ เพื่อสร้าง
ความโปร่งใส่และตรวจสอบได้
8. การค้า
(น�ำเข้า/ส่งออก)
มีระบบบูรณาการ
น�ำเข้า/ส่งออก แบบ
ครบวงจร เพื่อให้ผู้
ประกอบการสามารถ
ท�ำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
กับการน�ำเข้า/ส่งออกได้
พัฒนาระบบ Blockchain โดยใช้ Smart
Contract ในการสร้างบริการภาครัฐเกี่ยวกับ
การน�ำเข้า/ส่งออก เช่น บริการช�ำระเงิน,
บริการ Escrow, การออกใบรับรองแหล่ง
ก�ำเนิดของสินค้า (Certificate of Origin),
ตราสารเครดิต (Letter of Credit: LC),
หนังสือค�้ำประกัน (Letter of Guarantee: LG),
สินเชื่อ Factoring, Trade Finance
โดยร่วมมือกับธนาคารรัฐและเอกชน
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
124
ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้
9. วิสาหกิจ
ขนาดกลางและ
ขนาดย่อม
มีระบบบูรณาการ
เชิงรุกเพื่อให้ข้อมูล
ความรู้และค�ำปรึกษา
ส�ำหรับการประกอบ
ธุรกิจ แก่ SME
แบบครบวงจร ณ จุด
เดียว โดยมีภาครัฐ
เป็นผู้สนับสนุน
ระบบ ICT
พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยง
หน่วยงานด้านวิสาหกิจขนาดกลางและ
ขนาดย่อม โดยใช้ Smart Contract ในการ
สร้างบริการภาครัฐเกี่ยวกับวิสาหกิจขนาดกลาง
และขนาดย่อม เช่น การติดตามผลการให้ทุน
สนับสนุน ระบบสิทธิบัตร และการต่อยอด
นวัตกรรม
10. ภาษีและรายได้ มีการบูรณาการข้อมูล
ระหว่างหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มขีด
ความสามารถในงาน
บริการด้านภาษี
พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยง
หน่วยงานที่ก�ำกับดูแลด้านภาษี และการ
ฟอกเงิน โดยปรับเปลี่ยนขั้นตอนการช�ำระ
ภาษีจากแบบยื่นรายเดือนหรือรายปี เป็น
การเก็บแบบอัตโนมัติด้วย Smart Contract
เพื่อลดขั้นตอนการจัดเก็บภาษี และการ
ตรวจสอบบัญชี
11. การคมนาคม มีการบูรณาการ
ข้อมูลด้านคมนาคม
ในการอ�ำนวยความ
สะดวกและเพิ่มความ
ปลอดภัยต่อภาคธุรกิจ
และภาคประชาชน
พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลผู้ขับขี่ ประวัติ
ผู้ขับขี่ และข้อมูลพาหนะ และต�ำแหน่ง
โดยผสานการท�ำงานระหว่างเทคโนโลยี
Blockchain และ IoT
12. สาธารณูปโภค มีระบบกลางเพื่อ
เชื่อมโยงงานบริการ
ด้านสาธารณูปโภค
ระหว่างหน่วยงาน
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
การให้บริการด้าน
สาธารณูปโภคที่มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยงงาน
บริการด้านสาธารณูปโภคระหว่างหน่วยงาน
โดยน�ำ Smart Contract มาใช้ในขั้นตอน
การขอรับบริการและการช�ำระเงิน เพื่อสร้าง
ความโปร่งใสและตรวจสอบได้
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 125
ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้
ยุทธศาสตร์ที่ 3: การยกระดับความมั่นคงและความปลอดภัย
13. ความปลอดภัย
สาธารณะ
บูรณาการข้อมูลจาก
กล้องวงจรปิดเพื่อ
เฝ้าระวังและตรวจจับ
ความเสี่ยงก่อน
เกิดเหตุ โดยบริหาร
จัดการผ่านระบบ
ศูนย์บัญชาการ
พัฒนาระบบ Identity และ Authentication
ของกล้องวงจรปิดภาครัฐ รวมถึงการอนุญาต
ให้กล้องวงจรปิดของภาคเอกชนสามารถ
เข้าร่วมได้ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
อีกทั้งยังสามารถน�ำเทคโนโลยี Blockchain
มาใช้กับร่วมกับระบบ Preventive
Maintenance ในการก�ำหนดการซ่อมบ�ำรุง
โดยใช้ Smart Contract
14.การบริหาร
จัดการชายแดน
ขยายผลจากระบบ
พิสูจน์ตัวตนด้วย
ลายนิ้วมือให้
ครอบคลุมทุกด้าน
สามารถรองรับพลเมือง
และชาวต่างชาติที่มี
การลงทะเบียน
การเชื่อมโยงข้อมูล Identity ข้อมูล Biometric
และข้อมูลสุขภาพของผู้ผ่านแดน จากระบบ
ตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ควบคุมโรค
หน่วยงานป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ
ผ่านเทคโนโลยี Blockchain เพื่อเพิ่มความ
สะดวกรวดเร็วในการทำ�งานของเจ้าหน้าที่
15. การป้องกัน
ภัยธรรมชาติ
ระบบวิเคราะห์และ
คาดการณ์ภัยธรรมชาติ
จากข้อมูลและระบบ
จำ�ลองสถานการณ์
เพื่อติดตามและบริหาร
จัดการภัยธรรมชาติ
พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อใช้ในการแลก
เปลี่ยนข้อมูลจากหลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ที่น่าเชื่อถือ
และนำ�มาวิเคราะห์ร่วมกับโมเดลการพยากรณ์
โดยสร้างข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Oracle) สำ�หรับ
การจัดทำ�ระบบจำ�ลองสถานการณ์
เพื่อติดตามและบริหารจัดการภัยธรรมชาติ
16. การจัดการใน
ภาวะวิกฤต
บูรณาการข้อมูลจาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในการติดตามและ
บริหารจัดการวิกฤต
การเชื่อมโยงข้อมูล Identity ข้อมูล
Biometric ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเส้นทาง
ทางการเงิน ข้อมูลกล้องวงจรปิด เข้ากับ
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและ
บริหารจัดการภาวะวิกฤต
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
126
ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้
ยุทธศาสตร์ที่ 4: การยกระดับประสิทธิภาพภาครัฐ
17. การจัดซื้อ
จัดจ้าง
มีระบบกลางในการ
จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
เพื่อให้สามารถควบคุม
ความโปร่งใสและ
เพิ่มประสิทธิภาพได้
พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อใช้ในการ
เชื่อมโยงระบบ Identity ของบุคคลและ
นิติบุคคล เข้ากับข้อมูลคู่สัญญาที่ถูกขึ้น
บัญชีดำ� (Blacklist) เพื่อใช้ในกระบวนงาน
จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น
วิธีการประกวดราคา Bidding การประมูล
จัดซื้อจัดจ้าง (Auction) การตรวจรับงาน
และการติดตามผลการดำ�เนินงาน และออก
รายงานประจำ�ปีของแต่ละหน่วยงานด้วย
Smart Contract
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 127
ดังนั้นหากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อสนับสนุนการบูรณาการ
บริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐจริง จะสามารถช่วยสนับสนุนโครงการต่าง ๆ
ที่ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ก�ำลังด�ำเนินการอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น
ระบบยืนยันตัวบุคคลกลาง
e-Authentication Service
1
ระบบยืนยันตัวบุคคลกลาง(e-Authentication
Service) เพื่อให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่
ของหน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าถึงระบบ
สารสนเทศต่าง ๆ ของรัฐ ทั้งที่เป็นระบบ
บริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (e-Service)
และระบบงานภายในของภาครัฐ (Back
Office) ได้ โดยมีการควบคุมและรักษา
ความปลอดภัยด้วยมาตรการอันเหมาะสม
นอกจากนี้ระบบยืนยันตัวบุคคลดังกล่าว
ยังรองรับการเข้าถึงระบบงานแบบรวมศูนย์
(Single Sign-On: SSO) เพื่อให้ผู้ใช้งาน
สามารถลงชื่อเข้าใช้งานระบบบริการ
อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (e-Service) ต่าง ๆ
ได้ด้วยการ Log in ครั้งเดียวโดยไม่จ�ำเป็น
ต้องลงชื่อเข้าใช้งานซ�้ำอีก ทั้งนี้ระบบยืนยัน
ตัวบุคคลกลางเป็นก้าวส�ำคัญไปสู่การ
ให้และรับบริการภาครัฐแบบครบวงจร
ณ จุดเดียว (One Stop Service)
ในลักษณะ Single Window Entry
อันจะเป็นการอ�ำนวยความสะดวกต่อ
ประชาชนในการเข้าถึงบริการของรัฐ
ได้อย่างบูรณาการ
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
128
ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ
(GovernmentDataExchangeCenter:
GDX ) เป็นศูนย์กลาง ในการแลกเปลี่ยน
ข้อมูลและเอกสารทะเบียนดิจิทัลระหว่าง
หน่วยงานภาครัฐ เพื่ออ�ำนวยความ
สะดวกแก่ประชาชนและภาคเอกชน
เมื่อใช้บริการจากภาครัฐช่วยให้หน่วยงาน
ภาครัฐสามารถแลกเปลี่ยนเชื่อมโยง
ข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล และเมื่อภาครัฐ
สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลในรูปแบบ
ดิจิทัลได้ จึงไม่จ�ำเป็นต้องใช้ส�ำเนา
เอกสารในรูปแบบกระดาษต่อไป โดยใน
ระยะแรกจะเริ่มน�ำร่องกับบริการภาครัฐ
ที่มีการเรียกขอส�ำเนาบัตรประจ�ำตัว
ประชาชน ส�ำเนาทะเบียนบ้าน ภายใต้
2
ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ
Government Data Exchange Center : GDX
“โครงการยกเลิกส�ำเนาเอกสาร” และ
ขยายผลไปสู่บริการยกเลิกเรียกขอเอกสาร
ทะเบียนดิจิทัล/ใบอนุญาตอื่น ๆ ต่อไป
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 129
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
เพื่อการบูรณาการบริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ
ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ของภาครัฐไทยในปัจจุบันส่วนใหญ่
ยังขาดการบูรณาการเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service)
ของหน่วยงานอื่น ๆ ท�ำให้ประชาชนที่มาติดต่อหน่วยงานราชการต่าง ๆ ไม่ได้รับ
ความสะดวกเท่าที่ควร อีกทั้งยังจ�ำเป็นต้องใช้ส�ำเนาหลักฐานในการเข้ารับบริการ
ดังนั้นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ
และการสื่อสารได้จัดท�ำ กรอบแนวทางเชื่อมโยงรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ
เวอร์ชัน 2.0 เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบบริการร่วม e-Service ให้สามารถให้บริการ
ภาครัฐแบบครบวงจร ณ จุดเดียว (One Stop Service)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
130
โดยใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบเชิงบริการ Services Oriented Architecture
(SOA) เป็นแนวทางการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลของระบบต่าง ๆ ภายใน
หน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน พัฒนา Web Service ส�ำหรับระบบงานภายใน
ของหน่วยงาน และใช้ช่องทางการสื่อสารท�ำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง Web
Service ต่าง ๆ ที่หน่วยงานรัฐที่จัดท�ำขึ้น ทั้งฝ่ายให้บริการ (Service Provisioning)
และฝ่ายรับบริการ(Service Consumption) โดยใช้ API ในการส่งข้อมูลผ่าน
Enterprise Service Bus (ESB) เป็นเครื่องมือช่วยลดอุปสรรคของความหลากหลาย
ของเทคโนโลยีการเชื่อมโยงข้อมูลในการเปิดช่องทางบริการให้เป็นมาตรฐาน
เดียวกันในการสื่อสารกับระหว่าง Web Service ของหน่วยงานภาครัฐดังแสดง
ในรูปภาพที่ 21
รูปภาพที่ 21: ระบบบูรณาการการให้บริการ
ภาครัฐโดยใช้ EnterpriseServiceBus(ESB)
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Marchionni, 2018)
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 131
ข้อควรพิจารณาการออกแบบสถาปัตยกรรมการส่งข้อมูลผ่าน
Enterprise Service Bus (ESB) มีดังนี้
1	 การเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงจากกระบวนการท�ำงานของ e-Service
ที่ให้บริการ(และบริการที่เกี่ยวข้อง)อาจมีผลต่อหน่วยงานที่ใช้e-Serviceนั้น
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ให้บริการด�ำเนินการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี
ที่ใช้ภายในตัวบริการหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อ Firewall
2	 ทุกครั้งที่มีการเรียกใช้ e-Service กับบริการอื่น ๆ ต้องท�ำการตรวจสอบ
ความสมบูรณ์ของการป้อนข้อมูลหรือทุกพารามิเตอร์ที่เกิดขึ้น ท�ำให้ต้องใช้
เวลาเพิ่มขึ้น และเครื่องแม่ข่ายท�ำงานหนักขึ้นท�ำให้ลดประสิทธิภาพโดยรวม
3	 การบูรณาการระหว่างหน่วยงานอาจกลายเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน
เนื่องจากความแตกต่างของระบบรักษาความปลอดภัยและข้อก�ำหนด
(แม้ว่า Enterprise Service Bus จะท�ำงานได้อย่างถูกต้อง)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
132
4	 ต้องมีการแลกเปลี่ยนใบรับรอง เช่น Certificate Authority (CA)
เพื่อรับรองว่าได้ให้ไว้ซึ่งเอกสารที่น่าเชื่อถือ
5	 การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีราคาแพงส�ำหรับการจัดเตรียมการ
ให้บริการและความปลอดภัยภายในหน่วยงาน
6	 แต่ละหน่วยงานต้องมีการตั้งทีมสนับสนุน (ตาม SLA ที่ตกลง) เพื่อรองรับ
ความล้มเหลวในการให้บริการ
7	 กระบวนการพัฒนา Service ที่ต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน
มีขั้นตอนและใช้ระยะเวลาในการด�ำเนินงานมาก เช่น การท�ำบันทึกข้อตกลง
ร่วมกัน (MOU) การศึกษากระบวนการหรืออาจต้องท�ำการปรับเปลี่ยน
กระบวนการท�ำงานของหน่วยงานเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูล การรับส่งข้อมูล
การพัฒนาระบบ และการทดสอบระบบ
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 133
รูปภาพที่ 22: การเชื่อมโยงบูรณาการการให้บริการภาครัฐโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Marchionni, 2018)
Government Blockchain Network
ดังนั้นการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการเชื่อมโยงงานบริการภาครัฐ
แทนการใช้ Enterprise Service Bus (ESB) ดังแสดงในรูปภาพที่ 22
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
134
โดยเป็นการเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย
แบบ Peer-to-Peer และใช้ APIs ของ
Node แต่ละตัวเชื่อมกับ Web Service
ที่หน่วยงานจัดเตรียมไว้ในการเชื่อมโยง
กับฐานข้อมูลทะเบียนของหน่วยงาน
ในเครือข่าย Blockchain โดยแต่ละ
Node จะท�ำการจัดเก็บข้อมูลชุดเดียวกัน
และใช้กระบวนการ Consensus ในการ
ตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนท�ำการ
จัดเก็บข้อมูลลง Block ทั้งนี้รูปแบบ
การจัดเก็บข้อมูลลงใน Blockchain
อาจอยู่ในรูปแบบ On Chain7
หรือ
Off Chain ตามความเหมาะสมในการ
ออกแบบ และมี CA (Certification
7
ในระดับของ Transaction Layer สามารถแบ่งประเภทของการจัดเก็บข้อมูลบน Blockchain
ได้เป็น 2 ชนิดคือ 1) “On Chain” คือการที่ข้อมูล ถูกบันทึกลง Blockchain โดยตรง 2) “Off
Chain” คือการบันทึกต�ำแหน่งหรือตัวชี้ต�ำแหน่ง (Pointer) ของข้อมูลลงบน Blockchain ข้อดี
ของการบันทึกข้อมูลลงบน Blockchain โดยตรงนั้นคือมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะมีความปลอดภัย
อันเนื่องมาจากคุณสมบัติการท�ำงานของ Blockchain และข้อมูลดังกล่าวสามารถมองเห็นได้
ทันทีส�ำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูล แต่ในเวลาเดียวกันการบันทึกข้อมูลที่ไฟล์ข้อมูลมี
ขนาดใหญ่นั้นย่อมส่งผลต่อเวลาที่ใช้ในการด�ำเนินการสร้าง Block อย่างแน่นอน อีกทั้งอาจจะ
ส่งผลต่อการวางแผนเรื่องของขนาดระบบเพื่อรองรับข้อมูลจ�ำนวนมหาศาลดังกล่าว ในทางตรง
กันข้ามการเข้ารหัสลิงก์ หรือตัวชี้ต�ำแหน่งที่ข้อมูลถูกจัดเก็บอยู่แทนที่ข้อมูลจริง โดยผู้ใช้งานจะ
ใช้ Private Key เพื่ออ่านข้อมูลใน Block ซึ่งก็คือลิงค์ หรือต�ำแหน่งที่จัดเก็บข้อมูลจริงเพื่อน�ำ
ไปสู่การเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งจะเป็นการช่วยลดขนาดของข้อมูลที่ จะถูกบันทึกลงใน
Block ได้ ยกตัวอย่างเช่น ฟิล์ม X-Ray และ MRI ซึ่งเป็นไฟล์รูปที่มีขนาดใหญ่จึงจ�ำเป็นต้อง
เก็บเป็นลิงก์ หรือตัวชี้ต�ำแหน่งของข้อมูลแทน ดังนั้นองค์กรควรจะต้องพิจารณาถึงประเภท
ของข้อมูลด้วยในการออกแบบการจัดเก็บข้อมูลบน Blockchain
Authority) ในการรับรองรายการ
ธุรกรรมว่าเป็นธุรกรรมของหน่วยงาน
นั้นจริง ทั้งนี้หน่วยงานแต่ละหน่วยงาน
จะต้องมี Node ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบ
Light Node หรือ Full Node ติดตั้ง
อยู่ในเครือข่าย Blockchain เมื่อมี
การเรียกใช้บริการระบบจะท�ำการ
แจกจ่าย Smart Contract ตามการ
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 135
รูปภาพที่ 23: องค์ประกอบทางเทคนิคการบูรณาการงานบริการภาครัฐ
บนเทคโนโลยี Blockchain
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Jamsrandorj, 2017)
หน‹วยงาน 1
Service/Micro services
CA CA
CA CA
หน‹วยงาน 2
Service/Micro services
หน‹วยงาน 4
Service/Micro services
หน‹วยงาน 3
Service/Micro services
บริการที่ผู้ใช้งานเลือกใช้ในบริการนั้น ๆ
ไปยัง Node ต่าง ๆ บนเครือข่าย โดย
Smart Contract จะเป็นตัวก�ำหนด
หน้าที่ของแต่ละหน่วยงานระบุไว้ ซึ่งอาจ
มากกว่าหนึ่งหน่วยงานก็ได้ในการด�ำเนิน
การตามเงื่อนไขที่ระบุไว้เมื่อหน่วยงานได้
ด�ำเนินการครบตามเงื่อนไขที่ก�ำหนดไว้
กรณีด�ำเนินการเสร็จสิ้นตามสัญญา
และระบบได้ตรวจสอบความถูกต้อง
(Consensus) ก่อนท�ำการส�ำเนารายการ
การท�ำธุรกรรมดังกล่าวไปยัง Node
ต่าง ๆ บนเครือข่าย Blockchain
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
136
จากรูปภาพที่ 23 เป็นการแสดงองค์ประกอบทางเทคนิคการบูรณาการงาน
บริการภาครัฐบนเทคโนโลยี Blockchain ระหว่างหน่วยงานตั้งแต่สองหน่วยงาน
ขึ้นไป เพื่อเห็นถึงองค์ประกอบและการเชื่อมต่อทางเทคนิค หลักการนี้สนับสนุนให้
หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ โดยใช้การควบคุมการเข้าถึง
(Access Control System) หรือ Smart Contract ที่กระจายอยู่ตาม Node ต่าง ๆ
ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะมี Microservices, Local Storage และ Node บนเครือข่าย
Blockchain ในการสื่อสารระหว่างหน่วยงานบนเครือข่าย โดยมีองค์ประกอบดังนี้
1	 Access Control Application ใช้ Smart Contract เป็นตัวก�ำหนดสิทธิ์
ในการเข้าใช้บริการ โดยแต่ละหน่วยงานสามารถก�ำหนดสิทธิ์ในการขอเข้าใช้
บริการของหน่วยงานได้ด้วยตัวเองผ่าน Smart Contract และเรียกใช้
Services ต่าง ๆ ผ่าน APIs ได้แก่
การก�ำหนด Service หรือ Microservices
การให้สิทธิการเข้าถึงส�ำหรับ Service หรือ Microservices
การโอนสิทธิ์การเข้าถึง
การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึง
การให้สิทธิ์การเข้าถึงส�ำหรับ Service หรือ Microservices
เรียกใช้ Service หรือ Microservices
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 137
2	 Local Database ทุก Node จะมีฐานข้อมูลภายในใช้เป็นแหล่งจัดเก็บ
ข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย Blockchain เพื่อรับประกันว่าข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ
เป็นส�ำเนาเดียวกัน
3	 Services หรือ Microservices เป็นช่องทางการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยน
ข้อมูลระหว่างระบบงานต่าง ๆ ภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน
โดยผ่านตัว Access Control เรียกใช้
4	 Blockchain Cluster กลุ่มเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รูปแบบ Private และ
Permission-BasedBlockchainใช้ในการแชร์ข้อมูลที่ต้องใช้รวมกันและเก็บ
ประวัติรายการข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดจาก Access Control สามารถตรวจสอบ
ย้อนกลับได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายการที่ถูกบันทึกในระบบได้
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
138
จากหลักการที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น ท�ำให้สามารถออกแบบภาพรวมการใช้
เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการบูรณาการบริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ
ดังแสดงในรูปภาพที่ 24
ผูŒใชŒงานสามารถเขŒาถึง
ขŒอมูลพ�้นฐานของพวกเขา
ที่หน‹วยงานภาครัฐจัดเก็บไวŒ
(ขŒอมูลทะเบียนต‹าง ๆ)
การยืนยันการทำธุรกรรม
- KPI
การยืนยันตัวตน
- เลขที่บัตรประชาชน
- เลขที่นิติบุคคล
ประชาชนสามารถเลือกใชŒบร�การต‹าง ๆ
จาก Smart Contract ที่ถูกกำหนดขั้นตอน
การดำเนินงานของหน‹วยงานต‹าง ๆ
ของบร�การนั้น ๆ
ประชาชนสามารถใหŒสิทธิ์
การเขŒาขŒอมูลพ�้นฐานที่จำเปšน
ใหŒแก‹หน‹วยงานต‹าง ๆ ที่ตŒอง
ดำเนินการตามที่กำหนดไวŒ
ใน Smart Contract
ในธุรกรรมนั้นๆ
ขŒอกำหนด
ทางกฎหมายเกี่ยวกับ
การเผยแพร‹ขŒอมูล
จะถูกกำหนดไวŒใน Smart Contract
Smart Contract
- ธุรกรรมทะเบียนราษฎร
- ธุรกรรมทะเบียนสมรส
อ‹าน
(Rand)
เข�ยน
(Write)
เฉพาะไดŒรับสิทธิ์
การเขŒาถึง
(Permission)
อ‹าน
(Rand)
กฎระเบียบ
ขŒอกำหนด
ต‹างๆ
ประชาชน
หน‹วยงานภาครัฐ
เฉพาะไดŒรับสิทธิ์
การเขŒาถึง
(Permission)
หน‹วยงานภาครัฐสามารถดำเนินงานบร�การตามกลไกภายในหน‹วยงาน
และรับขŒอมูลที่จำเปšนตŒองใชŒในการใหŒบร�การแก‹ประชาชนตามสิทธิ์ที่พวกเขา
ไดŒรับอนุญาติในการเขŒาถึงขŒอมูลของหน‹วยงานอื่น
รูปภาพที่ 24: แสดงระบบนิเวศการให้บริการหน่วยงานภาครัฐ
ที่มา: ปรับปรุงจาก (Cheng, Daub, Domeyer, & Lundqvist, 2017)
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 139
การให้บริการประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลทะเบียนต่าง ๆ ของตนหรือการให้
หน่วยงานรัฐสามารถแชร์ข้อมูลที่จ�ำเป็นระหว่างการท�ำธุรกรรม รายการข้อมูลต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นในระบบจะถูกเข้ารหัสเก็บในฐานข้อมูลเฉพาะใน Blockchain ในรูปแบบ
Private หรือ Permissioned Blockchain ที่ประชาชนต้องท�ำการยืนยันตัวตนผ่าน
เลขที่บัตรประชาชน เลขที่นิติบุคคล รหัสผ่านของผู้ใช้บริการของหน่วยงานนั้น ๆ
การก�ำหนดสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเพื่อเรียกดู(อ่าน)และการเพิ่มรายการธุรกรรมใหม่(เขียน)
หรือให้หน่วยงานมีสิทธิ์ในการอ่านหรือเปลี่ยนแปลงรายการข้อมูลธุรกรรมของ
ประชาชนโดยใช้กุญแจสาธารณะ (Public Key) ในการแชร์ข้อมูลที่จ�ำเป็นต้องตรวจ
สอบข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการจัดท�ำธุรกรรมให้บริการแก่ประชาชนและ
กุญแจส่วนตัว (Private Key) ส�ำหรับแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล ผ่าน Smart Contract
ซึ่งเป็นข้อตกลงส�ำหรับการควบคุมการด�ำเนินการจัดท�ำธุรกรรมตามที่ก�ำหนดไว้ใน
Smart Contract ของธุรกรรมนั้น ๆ เป็นกลไกในการควบคุมล�ำดับขั้นตอน
การด�ำเนินการ ว่าใครจะเป็นผู้เห็น เห็นอะไรได้บ้าง เมื่อไร และด�ำเนินการอย่างไร
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
140
การด�ำเนินงานกอง
บังคับการตรวจคน
เข้าเมือง
หน่วยงานรับการด�ำเนินงาน ระบบงานอ้างอิง
ตรวจสอบข้อมูลคน
ต่างด้าวขอเข้ามาใน
ราชอาณาจักร
สนง.ตรวจคนเข้าเมือง ระบบบัญชีเฝ้าดู
สนง.ต�ำรวจแห่งชาติ - ระบบบัญชีเฝ้าดูขอหมายจับสากล
- ทะเบียนประวัติอาชญากร
กรมการจัดหางาน
กระทรวงแรงงาน
ตรวจสอบประวัติการท�ำงาน
คนต่างด้าว
โรงพยาบาล ระบบเวชระเบียนหรือระบบนัดหมาย
สถานกงสุล NON-IMMIGRANT VISA
ตัวอย่างการบูรณาการงานบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยี Blockchain
(Government Service Blockchain)
กรณีการด�ำเนินการขออนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อเข้ารับ
การรักษาพยาบาลของคนต่างด้าวของเจ้าหน้าที่ประจ�ำด่านตรวจคนเข้าเมือง
ที่ประจ�ำอยู่ตามแนวชายแดน ดังแสดงในรูปภาพที่ 25
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 141
รูปภาพที่ 25: แผนภาพจ�ำลองขั้นตอนการขออนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราว
เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล
ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการเชื่อมโยงงานบริการภาครัฐ
สามารถจ�ำแนกได้ตามผู้ใช้งาน ดังต่อไปนี้
หน่วยงานผู้ให้บริการ
การเผยแพร่ข้อมูล (Shared Data) การเปิดข้อมูลที่จ�ำเป็นใช้งานร่วมกัน
การท�ำงานร่วมกัน (Multiple Parties) การบันทึกหรืออ่านข้อมูลจากฐาน
ข้อมูลในการด�ำเนินการจัดท�ำรายการธุรกรรมเพื่อให้บริการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
อาจมีหน่วยงานภาครัฐมากกว่าหนึ่งร่วมด�ำเนิน การโดยก�ำหนดพื้นที่
การเข้าถึงแหล่งข้อมูลแบบ Permissionless (Public Blockchain),
Permissioned (Private หรือ Consortium Blockchain)
Read & Write
เร��มตŒนการทํางาน
กองบังคับการตรวจคนเขŒาเมือง
รับเร�่องขอ โดยสรŒาง Smart
Contract กระจายไปยัง
หน‹วยงานต‹างๆ
หน‹วยงานที่เกี่ยวขŒอง
รŒองขอขŒอมูลที่จําเปšนที่ระบุไวŒ
ตามกลไกของ Smart Contract
สิ�นสุดการทำงาน
แต‹ละหน‹วยงาน
ตรวจสอบระบบทะเบียน
และส‹งผลดำเนินการ
สำนักงานตรวจคนเขŒาเมือง
เพ��มหร�อปรับปรุง
ระบบงานทะเบียนคนเขŒาเมือง
Read only
Read only
Read only
กองบังคับการตรวจ
คนเขŒาเมือง
สถานกงสุล
สำนักงานตรวจคนเขŒาเมือง
สํานักงานตํารวจ
โรงพยาบาล
Government
Blockchain Network
เมื่อดำเนินการครบตามเง�่อนไข
ใน Smart Contract ระบบ
จะทำสำเนารายการธุรกรรม
และแจกจ‹ายไปยังทุก Node
บนเคร�อข‹าย
การด�ำเนินงานกอง
บังคับการ
ตรวจคนเข้าเมือง
หน่วยงาน
รับการด�ำเนินงาน หน่วยงานอ้างอิง แจ้งผล
การด�ำเนิน
ตรวจสอบข้อมูลคนต่างด้าว
ขอเข้ามาในราชอาณาจักร
ตรวจคนเข้าเมือง ระบบบัญชีเฝ้าดู มีหรือไม่มี
สนง.ต�ำรวจแห่งชาติ - ระบบบัญชีเฝ้าดูขอหมายจับสากล
- ทะเบียนประวัติอาชญากร
มีหรือไม่มี
กรมการจัดหางาน
กระทรวงแรงงาน
ตรวจสอบประวัติการท�ำงาน
คนต่างด้าว
มีหรือไม่มี
โรงพยาบาล ระบบเวชระเบียนหรือระบบนัดหมาย มีหรือไม่มี
สถานกงสุล NON-IMMIGRANT VISA มีหรือไม่มี
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
142
ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง
สามารถตรวจสอบ (Auditability) การบันทึกรายการธุรกรรม (จากการ
ให้บริการ) ภายในเครือข่าย Blockchain ได้ เมื่อเขียนแล้วจะไม่สามารถ
เปลี่ยนแปลงหรือลบได้
มีAccessControlการก�ำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆในการอนุญาตหรือปฏิเสธ
เช่น รายการการร้องขอต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบว่าจะอนุญาตหรือปฏิเสธ
เช่น สิทธิ์การเข้าใช้ทะเบียนข้อมูล การอ่าน การเขียน การแชร์ข้อมูล
ของกลไกการด�ำเนินทางธุรกิจที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการ
กับหน่วยงานหรือระหว่างหน่วยงาน
การด�ำรงอยู่ของหลักฐาน (Proof of Existence) สามารถพิสูจน์ความเป็น
เจ้าของจากหลักฐานที่ได้รับการท�ำธุรกรรม
ผู้รับบริการ (ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ)
ประชาชนผู้ยื่นค�ำขอไม่จ�ำเป็นต้องจัดเตรียมหลักฐานด้านเอกสารต่าง ๆ
ที่มีการเก็บอยู่ระบบงานทะเบียน ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ
ไม่ต้องรับรองส�ำเนาเอกสารช่วยลดโอกาสในการทุจริต
หน่วยงานภาครัฐแต่ละแห่งด�ำเนินการตามกระบวนการภายในของตนเอง
หากมีหน่วยงานรัฐหนึ่งเปลี่ยนแปลงกระบวนการหรืออุปกรณ์ภายใน
หน่วยงานจะไม่มีผลกระทบหน่วยงานอื่น ๆ เนื่องจาก Node แยกกัน
เป็นอิสระ
ไม่มีข้อก�ำหนดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อโดยตรง เนื่องจากได้รับการรับรอง
โดยพื้นฐานโปรโตคอลการแจกจ่ายของโปรโตคอล Blockchain และ
APIs แบบมาตรฐาน
ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูล
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 143
กรณีศึกษาการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
การพัฒนาระบบต้นแบบ e-Referral
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เกิดจาก
แนวคิดในการพัฒนาระบบเชื่อมโยง
และแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพแห่งชาติ
(NationalHealthInformationExchange
Platform) ที่เชื่อมต่อทุกหน่วยงานด้าน
Healthcare เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น
โรงพยาบาล คลินิก หน่วยงานประกัน
สุขภาพหน่วยงานวิจัยและหน่วยงานอื่นๆ
ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
ให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยน
ข้อมูลระหว่างกันได้แบบเรียลไทม์
ภายใต้มาตรฐานข้อมูลสุขภาพเดียวกัน
อีกทั้งยังจะต้องค�ำนึงถึงความปลอดภัย
และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วย
เป็นส�ำคัญ
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
144
โดยแนวคิดดังกล่าวอ้างอิงและ
สอดคล้องกับรายงานการวิเคราะห์
ยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
สุขภาพ (eHealth) จัดท�ำโดยศูนย์
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจ�ำปี 2558 ในกลยุทธ์ที่ 2: ว่าด้วยการ
พัฒนาคลังข้อมูลสุขภาพ โดยมีเป้าหมาย
ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการให้ผู้ป่วยที่ต้อง
ส่งต่อไปรับการรักษายังสถานบริการอื่น
จะต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
โดยสถานบริการต้นทางมีข้อมูลด้าน
การแพทย์และสุขภาพรายบุคคลเพื่อ
การก�ำกับติดตาม เฝ้าระวัง และดูแล
ปัญหาสุขภาพของประชาชนในเขตพื้นที่
รับผิดชอบ ดังนั้นส่วนหนึ่งของมาตรการ
เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้
ก็คือการพัฒนาระบบการแลกเปลี่ยน
และส่งต่อผู้ป่วยระหว่างสถานบริการ
ทุกระดับจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ทางการแพทย์เพื่อการส่งต่อผู้ป่วย
(Medical Record Exchange) ทั้งแบบ
ผู้ป่วยทั่วไปและเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ป่วย
สามารถไปรับบริการจากสถานบริการ
ใดก็ได้
รวมถึงรายงานการวิเคราะห์
ยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
สุขภาพ (eHealth) จัดท�ำโดยศูนย์
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
ประจ�ำปี 2560-2569 ในยุทธศาสตร์ที่ 3:
ว่าด้วยการสร้างมาตรฐานของระบบ
ข้อมูลสุขภาพ การบูรณาการข้อมูล
สารสนเทศ และการเชื่อมโยงแลก
เปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ โดย
เฉพาะในกลยุทธ์ที่ 1: ว่าด้วยการสร้าง
มาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพที่สามารถ
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 145
แลกเปลี่ยนและเชื่อมโยง (Standards
and Interoperability) กันได้อย่าง
มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงยุทธศาสตร์
ที่ 4: ว่าด้วยการขับเคลื่อนและพัฒนา
นวัตกรรมระบบบริการและโปรแกรม
ประยุกต์ด้าน eHealth ที่เป็นประโยชน์
ต่อระบบบริการสุขภาพ (Healthcare
Service Delivery) และประชาชน
โดยสนับสนุนให้มีโครงการต้นแบบที่
ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกในการ
ขับเคลื่อน eHealth ที่มีประสิทธิภาพ
ประกอบกับการขับเคลื่อนการ
ปฏิบัติงานในระบบบริการสุขภาพให้มี
ประสิทธิภาพจ�ำเป็นต้องอาศัยการแลก
เปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ(HealthInformation
Exchange) ที่สะดวกรวดเร็วและ
ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการตรวจ
รักษาผู้ป่วย การส่งต่อผู้ป่วย การเข้าถึง
ข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชน
การเบิกจ่ายประกันสุขภาพ การป้องกัน
โรคระบาดไปจนถึงการตัดสินใจวางแผน
และพัฒนานโยบายด้านสุขภาพ
โดยเฉพาะในเรื่องการส่งต่อผู้ป่วย
(Patient Referral) การขาดประสิทธิภาพ
ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพระหว่าง
โรงพยาบาลได้สร้างปัญหาตามมา
มากมาย ทั้งกับแพทย์ที่ไม่สามารถเข้าถึง
ข้อมูลทั้งหมดของผู้ป่วยได้ก่อนรับการ
ส่งต่อ ทั้งกับผู้ป่วย และโรงพยาบาลหรือ
คลินิกที่มีความไม่สะดวกในการเบิกจ่าย
รวมไปถึงหน่วยงานประกันสุขภาพที่
ไม่สามารถติดตามและตรวจสอบการ
ส่งต่อเพื่อน�ำไปปรับปรุงนโยบายและ
กฎระเบียบให้ดียิ่งขึ้นได้
ปัญหาหลักในปัจจุบันของระบบ
ข้อมูลสุขภาพของประเทศซึ่งเป็นอุปสรรค
ต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเกิด
จากการท�ำงานเก็บข้อมูลซ�้ำซ้อนของ
บุคลากรด้านสาธารณสุข การไม่มี
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
146
มาตรฐานของข้อมูล การไม่มีระบบกลาง
แลกเปลี่ยนข้อมูลของประเทศ ปัญหา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของการ
แลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามองค์กร ปัญหา
เกณฑ์การก�ำกับดูแลที่ไม่ชัดเจน
ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบกับ
หน่วยงานผู้ให้บริการทางสาธารณสุข
เท่านั้น ตัวประชาชนเจ้าของข้อมูลเอง
ก็ไม่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์
ข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อีกด้วย โดย
ปัญหาการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ
ดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยี
Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มี
ศักยภาพส�ำหรับการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยน
ข้อมูลระหว่างระบบ (Interoperability)
ที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลมีความถูกต้อง
โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ซึ่งสามารถ
เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาด้าน
ข้อมูลสุขภาพของประเทศได้
ดังนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าวไปแล้ว
ข้างต้น ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
องค์การมหาชน (สพร.) จึงได้ร่วมมือกับ
ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
เขต 13 กรุงเทพมหานคร ในการพัฒนา
ระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี
Blockchain โดยมีวัตถุประสงค์
เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการน�ำ
เทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อ
ต่อยอดนวัตกรรมการบริการของหน่วย
งานภาครัฐ รวมถึงผลกระทบต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี
Blockchain จนน�ำไปสู่การยกระดับ
ภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ที่มี
การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ตั้งแต่
การเชื่อมโยงข้อมูล การบริการ ไปจนถึง
การด�ำเนินงานได้
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 147
ภาพรวมสถาปัตยกรรมระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain
ภาพรวมของระบบต้นแบบe-ReferralบนเทคโนโลยีBlockchainประกอบไปด้วย
Blockchain Node จ�ำนวน 4 Node เพื่อแทน Node ของโรงพยาบาลปฐมภูมิ
โรงพยาบาลทุติยภูมิโรงพยาบาลตติยภูมิและผู้บริหารระบบดังแสดงในรูปภาพที่26
V Node
With document
storage
V Node
With document
storage
V Node
V Node
With document
storage
Using web-based eRefer
with NHSO's document
storage
HYPERLEDGER
Virtual Hospital #1
(รพ.ตติยภูมิ) + HIS
Virtual Hospital #2
(รพ.ทุติยภูมิ) + HIS
Virtual Hospital #3
(รพ.ปฐมภูมิ) + no HIS
Patient
Virtual NHSO
eRefer Portal
Dashboard & Report
รูปภาพที่ 26: ภาพรวมสถาปัตยกรรมระบบต้นแบบ e-Referral
บนเทคโนโลยี Blockchain
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
148
การออกแบบระบบต้นแบบดังกล่าว
จะไม่เชื่อมต่อกับระบบบริหารข้อมูล
โรงพยาบาล (Hospital Information
System: HIS) โดยตรง แต่จะเชื่อมต่อ
กับฐานข้อมูลเสมือน เพื่อจ�ำลอง
สถานการณ์การเชื่อมต่อผ่าน Database
View ที่โรงพยาบาลสร้างขึ้นไว้บนระบบ
Cloudส่วนตัวส�ำหรับงานระบบแลกเปลี่ยน
ข้อมูลสุขภาพโดยเฉพาะ (ซึ่งปัจจุบัน
ติดตั้งอยู่บนระบบ G-Cloud ของ สพร.)
รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูล
สิทธิประกันสุขภาพที่ได้สมมติขึ้นด้วยทั้งนี้
ในการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral
ได้ค�ำนึงถึงสิทธิในการเป็นเจ้าของข้อมูล
ของผู้ป่วยเป็นส�ำคัญ ดังนั้นข้อมูลที่ถูกใช้
ในการทดสอบระบบต้นแบบ e-Referral
ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูล
โรงพยาบาล จึงเป็นข้อมูลสมมติเพื่อใช้
ในการทดสอบระบบต้นแบบ e-Referral
เท่านั้น
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 149
ทั้งนี้ในการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain ได้เลือก
โครงสร้างฐานข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพเพื่อการส่งต่อผู้ป่วย OPD,
IPD และ AE/ER ส�ำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือที่รู้จักกันในชื่อระบบ 13 แฟ้ม มาเป็นมาตรฐานข้อมูล
สุขภาพในโครงการนี้ โดยมาตรฐานข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
ข้อมูลผู้ป่วย (PID- Patient Identification)
ข้อมูลบุคคลอ้างอิง (NK1- Contact Person)
ข้อมูลการแพ้ (AL1- Patient Allergy)
ข้อมูลการส่งต่อ (RF1- Referral Information)
ข้อมูลการวินิจฉัยโรค (DG1- Diagnosis)
ข้อมูลอาการเจ็บป่วย (Vital Signs)
ข้อมูลการเข้ามารับการรักษา (PV1- Patient Visit)
ข้อมูลท�ำหัตถการและผ่าตัด (PR1- Procedure)
ข้อมูลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
(OBL- Observation LAB Result)
ข้อมูลผลตรวจจากภาพถ่ายทางการแพทย์
(OXB- Observation X-Ray Result)
ข้อมูลยาและเวชภัณฑ์
(RXO- Pharmacy/ Treatment Order)
ข้อมูลผู้ให้บริการ (PRD- Provider Data)
ข้อมูลการนัดหมายต่อเนื่อง
(APP- Appointment Information)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
150
โดยเลือกใช้ Hyperledger Fabric
เวอร์ชัน1.0ซึ่งเป็นOpenSourceในการ
พัฒนาระบบต้นแบบดังกล่าว โดย
Hyperledger Fabric คือ Blockchain
Platformซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ
Hyperledger ของ Linux Foundation
และเป็นเทคโนโลยี Blockchain ประเภท
PrivateหรือPermissionedBlockchain
ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Modular และ
สามารถเขียน Smart Contract เพื่อให้
ท�ำงานตามเงื่อนไขได้ โดยบรรจุขั้นตอน
การตรวจสอบต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น
การเรียกดูข้อมูลผู้ป่วย ประวัติการ
รักษา การนัดหมาย รวมถึงข้อมูลที่
จ�ำเป็นส�ำหรับการส่งต่อผู้ป่วยของโรง
พยาบาลที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ Smart
Contract ในการควบคุมขั้นตอน
Frontend
PIN code
React
Library/
Runtime
HTML
CSS
API Server
Hospital
Create, Update,
Get Hospital By ID,
Get Hospital List
Patient
Create, Update,
Get Hospital By ID,
Get Hospital List
Refer
Refer, Approve,
Reject Defer,
Get Refer Order
System
Login,GetPatientView,
Get Patient History,
Get Hospital Report
Hyperledger Composter
REST
Server
Refer,
Approve,
Reject,
Defer
Request Profile,
Approve Request,
Clear Profile,
Reject request
MEMBERSHIP
Hyperledger Fabric 1.0
BLOCKCHAIN TRANSACTIONS CHAINCODE
Registration
Membership
Services
Identity
Management
Auditability
Blockchain Services
Event Stream
Chaincode
Service
Consensus
Manager
P2P
Protocol
Ledger
Storage
Distributed
Ledger
Secure
Registry
Secure
Cortianner
Services
รูปภาพที่ 27: รายละเอียดการออกแบบระบบต้นแบบ e-Referral
บนเทคโนโลยี Blockchain
การตรวจสอบต่าง ๆ ซึ่งใช้ Chaincode
เป็นเครื่องมือในการจัดท�ำSmartContract
ทั้งนี้ในการพัฒนาระบบต้นแบบดังกล่าว
ได้น�ำเอา Business Logic มาเป็น
เงื่อนไขในการสร้างSmartContractและ
Deploy ลง Hyperledger Fabric ผ่าน
Composer และสร้าง API ด้วย REST
Sever ของ Composer เพื่อเป็นส่วน
ติดต่อกับระบบ ดังแสดงในรูปภาพที่ 27
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 151
ทั้งนี้ REST Server ของ Hyperledger Composer จะสร้าง REST API
ขึ้นมาให้อัตโนมัติจาก Composer Model ซึ่ง API ของระบบต้นแบบ e-Referral บน
REST Sever ประกอบไปด้วย 8 API ดังต่อไปนี้
Refer: ใช้เพื่อเริ่มการขอส่งต่อผู้ป่วย
Approve: รับการส่งต่อผู้ป่วย
Reject: ปฎิเสธการส่งต่อผู้ป่วย
CancelReject: ยกเลิกการปฎิเสธการส่งต่อ
Defer: ขอเลื่อนเวลาส่งต่อ
RequestProfile: ขอดูข้อมูลผู้ป่วย
ApproveRequest: ผู้ป่วยเจ้าของข้อมูลอนุญาตให้ดูข้อมูลของตนเอง
ClearProfile: ปิดการเข้าถึงข้อมูลเมื่อหมดเวลาที่อนุญาตให้เข้าดูข้อมูล
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
152
Hospital: API เกี่ยวกับโรงพยาบาล
End point: /v1/api/hospital
Method: POST Create Hospital
PUT Update Hospital
GET Get Hospital List
GET Get Hospital By ID
DEL Delete Hospital
Patient: API เกี่ยวกับผู้ป่วย
End point: /v1/api/patient
Method: POST Create Patient
PUT Update Patient
GET Get Patient List
GET Get Patient By ID
DEL Delete Patient
แต่เนื่องจากAPIบนRESTServerที่
ถูกสร้างโดยอัตโนมัติจาก Hyperledger
Composer นั้นเป็น API ทั้งหมด
ของระบบดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
ซึ่งหลายตัวเป็น API ที่ไม่ต้องการเปิด
ให้ระบบภายนอกเรียกใช้ หรือมี Data
Format ที่เข้าใจยากส�ำหรับผู้ที่ไม่มีส่วน
เกี่ยวข้องกับระบบ Blockchain ดังนั้น
การพัฒนาระบบต้นแบบ e-Referral
ด้วยเทคโนโลยี Blockchain จึงสร้าง
API Server ขึ้นมาเป็น Middle Tier
โดยท�ำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อAPIส�ำหรับ
การเรียกใช้งานซึ่งประกอบไปด้วย5API
ดังต่อไปนี้
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 153
End point: /v1/api/queries/
selectpatient/
Method: GET Select Patient
GET Select Refer Order
GET Select Refer Order copy
Other
Method: POST Login
GET Get Refer Incoming List
GET Get Refer Outgoing List
POST Hospital Refer
GET Get Patient View
Transaction: API
เกี่ยวกับการส่งต่อผู้ป่วย
End point: /v1/api/transaction/refer
Method: GET Get Refer
POST Refer
POST Approve
GET Get Refer Order
POST Cancel Reject
POST Reject
POST Defer
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
154
Trusted Execution
Environment (TEE)
Referral
Refer
Collect
2. get patient
historicdata
Hospital A
Hospital B
Hospital B
Hospital C
3.GotPatientdata
1. refer to Hospital C 4. notify patient
referral
5. accept/reject
ในส่วนสุดท้ายของการออกแบบ
ระบบต้นแบบ e-Referral คือ การพัฒนา
ส่วนของ Front End เพื่อใช้โต้ตอบกับ
ผู้ใช้งาน โดยการพัฒนาในส่วนดังกล่าว
ใช้ ReactJS เป็น Framework และ
Cascading Style Sheet หรือ CSS
ในการจัดรูปแบบการแสดงผลของ
เอกสาร HTML
โดยในล�ำดับถัดไปเป็นการแสดง
ตัวอย่างเพียงบางส่วนของ ขั้นตอน
การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ดังแสดง
ในรูปภาพที่ 28
รูปภาพที่ 28: แผนภาพแสดงขั้นตอนการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 155
การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล
ซึ่งในกรณีนี้จะเกิดขึ้นจากการประเมิน
ของแพทย์จ�ำเป็นต้องส่งต่อการรักษาโดย
ส่งให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปฐมภูมิ
(โรงพยาบาล A) เป็นผู้คีย์ข้อมูลการ
ส่งต่อผู้ป่วยให้โรงพยาบาลที่มีความ
พร้อมมากกว่า เริ่มจากเจ้าหน้าที่ของ
โรงพยาบาล A เข้าใช้ระบบ e-Referral
จาก Username Password ของ
โรงพยาบาล A เพื่อเข้าสู่หน้าจอการ
ด�ำเนินงานซึ่งเทียบได้กับ Wallet ของ
Blockchain และได้รับ Public Key และ
Private Key เพื่อใช้ส�ำหรับการเข้ารหัส
รายการธุรกรรม โดยรายการธุรกรรม
ดังกล่าว คือ การขอส่งต่อผู้ป่วย เมื่อ
เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล A กดปุ่ม
เพื่อส่งรายการขอส่งต่อผู้ป่วยไปยัง
โรงพยาบาลทุติยภูมิ (โรงพยาบาล C)
ระบบ e-Referal จะท�ำการส่งรายการขอ
ส่งต่อผู้ป่วยซึ่งถูกเข้ารหัสด้วยPublicKey
พร้อมSmartContractว่าด้วยข้อก�ำหนด
ต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งต่อผู้ป่วย ไปยัง
Node อื่น ๆ บนเครือข่าย Blockchain
ของระบบ e-Referral และในกรณีที่
โรงพยาบาล C ตอบรับการส่งต่อเพื่อรับ
เข้าเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาล C ดังนั้น
โรงพยาบาล C จะสามารถเรียกดูประวัติ
การรักษาพยาบาลของผู้ป่วยที่เคยเข้ารับ
การรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลอื่น ๆ
ที่อยู่ในเครือข่าย Blockchain ของระบบ
e-Referral ได้จากข้อก�ำหนดที่เขียน
ไว้ใน Smart Contract ว่าด้วยเรื่อง
ข้อก�ำหนดในการส่งต่อผู้ป่วย
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
156
ในล�ำดับถัดไปเป็นการแสดงตัวอย่าง
หน้าจอการท�ำงานเพียงบางส่วนของระบบ
e-Referral
รูปภาพที่ 29: ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมของการบริหารสิทธิในการเข้าถึงและใช้งาน
ข้อมูลผู้ป่วย โดยใช้ Smart Contract
โรงพยาบาลตŒนทางสามารถส‹งต‹อผูŒป†วยผ‹านหนŒาจอระบบ e-Referral
ตัวอย่างที่1การบริหารสิทธิในการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลผู้ป่วยโดยใช้SmartContract
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 157
รูปภาพที่ 30: โรงพยาบาลต้นทางสามารถส่งต่อผู้ป่วยผ่านหน้าจอระบบ e-Referral
ตัวอย่างที่ 2 ตัวอย่างหน้าจอการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลปฐมภูมิ
โรงพยาบาลทุติยภูมิ และโรงพยาบาลตติยภูมิ
โรงพยาบาลตŒนทางสามารถส‹งต‹อผูŒป†วยผ‹านหนŒาจอระบบ e-Referral
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
158
รูปภาพที่31:โรงพยาบาลปลายทางสามารถส่งค�ำขอส่งต่อผู้ป่วยผ่านหน้าจอระบบe-Referral
รูปภาพที่32:โรงพยาบาลปลายทางสามารถเข้าดูข้อมูลผู้ป่วยในระบบ13แฟ้มได้
โรงพยาบาลปลายทางสามารถส‹งคำขอส‹งต‹อผูŒป†วยผ‹านหนŒาจอระบบ e-Referral
โรงพยาบาลปลายทางสามารถเขŒาดูขŒอมูลผูŒป†วยในระบบ 13 แฟ‡มไดŒ
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 159
รูปภาพที่ 33: โรงพยาบาลปลายทางสามารถตอบรับ ปฏิเสธ
หรือขอเลื่อนเวลาการส่งต่อผู้ป่วยได้
โรงพยาบาลปลายทางสามารถตอบรับ ปฏิเสธ หร�อขอเลื่อนเวลาการส‹งต‹อผูŒป†วยไดŒ
โรงพยาบาลปลายทางสามารถตอบรับ ปฏิเสธ หร�อขอเลื่อนเวลาการส‹งต‹อผูŒป†วยไดŒ
รูปภาพที่ 34: ตัวอย่าง Log การส่งต่อผู้ป่วยของระบบ e-Referral
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
160
ตัวอย่างที่ 2 ตัวอย่างหน้าจอแสดงรายงาน
รูปภาพที่ 35: หน้าจอ Dashboard แสดงรายงานต่าง ๆ ของระบบ e-Referral
หนŒาจอ Dashboard แสดงรายงานต‹าง ๆ ของระบบ e-Referral
หนŒาจอสำหรับการ Performance Monitoring , Report และ Throughput ใน Component ต‹าง ๆ
ของระบบ Hyperledger Blockchain
รูปภาพที่ 36: หน้าจอส�ำหรับการ Performance Monitoring , Report และ Throughput
ใน Component ต่าง ๆ ของระบบ Hyperledger Blockchain
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 161
ทั้งนี้ผลจากการศึกษาการพัฒนาระบบต้นแบบ e-Referral พบว่าปัจจัย
ความส�ำเร็จในการพัฒนาต่อยอดระบบต้นแบบ e-Referral เพื่อน�ำไปสู่การยกระดับ
การให้บริการประชาชน ประกอบด้วย
การก�ำหนดมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ
(Health Data Standard) เนื่องจาก
ระบบสุขภาพของไทยได้รับการพัฒนาขึ้น
จากหลายหน่วยงาน จึงมีความแตกต่าง
และหลากหลาย โดยแต่ละระบบจะมีการ
ออกแบบฐานข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะ
ของตนเอง จึงท�ำให้มีความแตกต่าง
และหลากหลายของโครงสร้าง ดังนั้น
จึงจ�ำเป็นต้องมีการออกแบบมาตรฐาน
ข้อมูลสุขภาพขึ้นมา เพื่อให้สามารถ
แลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลได้
การก�ำหนดมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ
Health Data Standard
1
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
162
การประสานความร่วมมือ(Cooperation)
ระหว่างหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั้งใน
ภาครัฐและภาคเอกชน ในการเชื่อมต่อ
กับระบบบริหารจัดการข้อมูลโรงพยาบาล
(Hospital Information System: HIS)
ยกตัวอย่างเช่น HosXP, HosOS,
Trackcare รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบ
2
การประสานความร่วมมือ
Cooperation
หลักประกันสุขภาพ ดังนั้นหากสามารถ
เชื่อมโยงระบบ e-Referral เข้ากับ
ฐานข้อมูลของระบบเหล่านี้ได้ จะช่วย
ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูล
การท�ำงานที่ซ�้ำซ้อน รวมถึงต้นทุนใน
การท�ำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการ
เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ อีกทั้ง
ยังสามารถท�ำให้เกิดการใช้ประโยชน์
จากข้อมูลทางการแพทย์ในการสร้าง
นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม
การแพทย์ต่อไปในอนาคตได้
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 163
โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT Infrastructure)
โครงสร้างพื้นฐานทางไอทีเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผล
ให้การน�ำระบบ e-Referral บนเทคโนโลยี
Blockchain มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องสามารถ
จ�ำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ดังต่อไปนี้
3 โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที
IT Infrastructure
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล
Storage
เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่จ�ำเป็นส�ำหรับ
เทคโนโลยี Blockchain โดยท�ำหน้าที่ใน
การเก็บข้อมูลร่วมกัน รวมถึงเก็บข้อมูล
ที่มีมูลค่า ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลสุขภาพ
ประวัติการเข้ารับการตรวจรักษา
ส่วนต่อเชื่อมกับระบบไอที
ของโรงพยาบาล
Hospital Interface
เนื่องจากระบบ e-Referral ต้องอ้างอิง
ข้อมูลจากฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ
โรงพยาบาลดังนั้นส่วนต่อเชื่อมกับระบบ
ไอทีของโรงพยาบาลจึงเป็นโครงสร้าง
พื้นฐานหลักที่ส�ำคัญ เพื่อให้ระบบ
สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้แบบ
Real-Time และมีความถูกต้อง
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
164
ระบบการสื่อสาร
เนื่องจากผู้เข้าร่วมหรือสมาชิกในระบบ
Blockchain จ�ำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อ
สื่อสารถึงกันตลอด ดังนั้นระบบการ
สื่อสารจึงเป็นโครงสร้างที่ส�ำคัญเพื่อ
ให้เกิดการสื่อสารกันภายในเครือข่าย
ยกตัวอย่างเช่น การส่งข้อมูลสถานะ
ทั่วไป การยืนยันตัวตนผู้เข้าร่วมระบบ
ไปจนถึงข้อมูลการถ่ายโอนสินทรัพย์ที่มี
มูลค่าภายในเครือข่าย
เนื่องจากเทคโนโลยี Blockchain
มีลักษณะเป็นโครงสร้างแบบกระจาย
(Distributed Architecture) ดังนั้น
หน่วยงานหรือสมาชิกที่เข้ามาร่วม
ภายในเครือข่าย จ�ำเป็นต้องเตรียมความ
พร้อมของอุปกรณ์ ทั้งฝั่งองค์กรเอง
และระบบการสื่อสาร เพื่อให้ระบบโดย
รวมสามารถด�ำเนินการต่อไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 165
การเตรียมความพร้อมของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง
Human Resource Management
4
ก�ำลังคนและศักยภาพของบุคลากรด้าน
สาธารณสุขทั้งในส่วนของภาครัฐและภาค
เอกชน เป็นอีกปัจจัยส�ำคัญที่ส่งผลต่อ
ความส�ำเร็จของการประยุกต์ระบบ
e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain
โดยสามารถจ�ำแนกกลุ่มของบุคลากรที่
เกี่ยวข้องตามการด�ำเนินงานออกเป็น
4 กลุ่ม ดังต่อไปนี้
ผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรม
สาธารณสุข
ผู้ดูแลระบบ
System Administrators
มีหน้าที่ในการวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อ
รองรับการใช้งานเทคโนโลยีวางนโยบาย
และกฎระเบียบต่าง ๆ ในการด�ำเนินการ
สั่งการ มอบหมายงาน และประเมิน
ผลการท�ำงานแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง
มีหน้าที่ในการดูแลระบบ กิจกรรมภายใน
ระบบ การสื่อสารของระบบให้สามารถ
ด�ำเนินการได้ปกติรวมทั้งท�ำหน้าที่ในการน�ำ
ระบบขึ้นใช้งาน(Deployment)การต่อเชื่อม
และการปรับตั้งค่า (Configuration)
ระบบของหน่วยงานให้เชื่อมต่อกับระบบ
e-Referral ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
166
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ
System Operators
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ
Auditors
มีหน้าที่ในการดูแล ตรวจสอบการท�ำงาน
(Monitoring)เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่าง
ระบบ e-Referral และ Application
ที่เกี่ยวข้องสามารถท�ำงานได้อย่างปกติ
และต่อเนื่อง
มีหน้าที่ในการตรวจสอบการท�ำงานของ
ระบบ ว่ามีความถูกต้องเหมาะสมตาม
ข้อตกลงที่ก�ำหนดหรือไม่ เริ่มตั้งแต่การ
ตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในระบบ
สิทธิการเข้าถึงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้งหมดรวมถึงตรวจสอบความเที่ยงตรง
(Integrity) ของธุรกรรมที่เกิดขึ้นและ
บัญชีที่จัดเก็บ เพื่อให้สอดคล้องกับ
กฎระเบียบที่มีการก�ำหนดขึ้น
แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ
ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 167
เอกสารแนบท้าย 1
ตารางสรุปตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain
ส�ำหรับงานบริการภาครัฐในต่างประเทศ
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
ประเทศ
ออสเตรเลีย
วุฒิสมาชิกประเทศออสเตรเลียได้มี
การจัดตั้งคณะทำ�งานขึ้น เพื่อทำ�หน้าที่
ขับเคลื่อนการนำ�เทคโนโลยี Blockchain
มาใช้ในประเทศออสเตรเลียทั้งภาครัฐ
และภาคเอกชน
ประกาศในปี
2017
(Martinovic,
Kello, &
Sluganovic,
2017)
ตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX)
ได้ประกาศจะนำ�เทคโนโลยี Blockchain
มาใช้เพื่อแทนที่ระบบการหักบัญชี
และการชำ�ระบัญชีปัจจุบัน ซึ่งก็คือ
ระบบ CHESS (The Clearing House
Electronic Sub- Register System)
ประกาศในปี
2017 และเริ่ม
ใช้จริงในปี
2018
(Martinovic
et al., 2017)
ประเทศจีน ระบบบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
(Social Security Funds Management
System)
ประกาศในปี
2016
(Martinovic
et al., 2017)
การประเมินมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัย
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
(Mortgage Valuations on
Blockchain)
ประกาศในปี
2016
(Martinovic
et al., 2017)
ระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
(Blockchain-Based Asset Custody
System (PSBC))
ประสบความ
สำ�เร็จในการ
ใช้งาน โดยใช้
งานจริงตั้งแต่ปี
2016
(Martinovic
et al., 2017)
เอกสารแนบท้าย 169
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
การพัฒนาโครงการเมืองนวัตกรรม
ด้านพลังงาน (The Smart City
Project of Energy Innovation)
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain รวมกับ
เทคโนโลยีด้านอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น
Cloud Computing, Big Data, IoT
และ AI ขึ้นที่เมือง Hangzhou
ประกาศในปี
2016
(Buterin,
Mccaleb,
Shen, & Bai,
2018)
ระบบการจัดเก็บภาษี (Intelligent Tax
System) โดยทำ�งานร่วมกับระบบ
ใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic
Invoice System) ซึ่งทำ�งานอยู่บน
เทคโนโลยี Blockchain เพื่อป้องกัน
การหลีกเลี่ยงภาษี โดยใช้เอกสาร
ใบแจ้งหนี้ปลอม
ประกาศในปี
2018
(Sundararajan,
2018)
ระบบการตรวจสอบความปลอดภัย
ของอาหารทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Food
Supply Chain Traceability System)
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
ประกาศในปี
2016
(Mao, Wang,
Hao, & Li,
2018)
นครรัฐดูไบ
ประเทศสหรัฐ
อาหรับเอมิเรต
ระบบบริหารจัดการข้อมูลและเอกสาร
ภาครัฐ (Government Documents
Management System)
อยู่ระหว่าง
ดำ�เนินการ
(Martinovic
et al., 2017)
หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์
(Digital Passport) โดยใช้เทคโนโลยี
Blockchain
ประกาศในปี
2017
(Martinovic
et al., 2017)
ระบบข้อมูลการขนส่งสินค้าแบบ
เรียลไทม์ (Real-time Shipment
Information System)
ประกาศในปี
2017
(Martinovic
et al., 2017)
ระบบจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล
ประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย
(Electronic Health Record
System: EHRs)
ประกาศในปี
2017
(Kong, 2018)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
170
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
ระบบการออกใบรับรองเพชร
(Diamond Certificate) โดย The Dubai
Multi Commodities Centre ได้นำ�
เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ใน
การออกใบ Certificate ให้กับเพชร
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Kimberley
Certificates”
ประกาศในปี
2017
(Ngo, 2017)
การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry) ภายใต้
ชื่อโครงการ “Dubai Real-Estate
Blockchain”
ประกาศในปี
2017
(Journo,
2018)
ประเทศ
เอสโตเนีย
eID (electronic ID management
system)
ใช้งานจริง
แล้ว ปัจจุบัน
อยู่ระหว่าง
การอัพเกรด
เวอร์ชัน
(Shen, 2016)
ระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ
หรือ e-Health (Medical Information
Management System)
ใช้งานจริงแล้ว
ปัจจุบันอยู่
ระหว่างการ
อัพเกรดเวอร์ชัน
(Basu, 2018)
ระบบเอกลักษณ์ดิจิทัลข้ามชาติ หรือ
e-Residency (A First-of-a-Kind
A Transnational Digital Identity)
ใช้งานจริงแล้ว
ตั้งแต่ปี 2015
(Sullivan
& Burger,
2017)
ระบบศาลดิจิทัล (Digital Court
System: e-Court) โดยใช้เทคโนโลยี
KSI Blockchain มาช่วยในเรื่องของ
การป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร
หรือที่เรียกว่าระบบ e-File
ใช้งานจริงแล้ว
ตั้งแต่ปี 2015
(Jun, 2018)
ระบบ Document Registries ต่าง ๆ
เช่น Business Registry, Property
Registry, Succession Registry
และ Healthcare Registry
ใช้งานจริงแล้ว
ตั้งแต่ปี 2015
(Martinovic
et al., 2017)
เอกสารแนบท้าย 171
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
ระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
(i-Voting) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
ใช้งานจริงแล้ว
ตั้งแต่ปี 2015
(Electronic
Voting
Committee,
2016)
ประเทศฝรั่งเศส ระบบการการซื้อขายหลักทรัพย์
ที่ไม่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ประกาศในปี
2017
(Martinovic
et al., 2017)
ประเทศกานา การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry) โดย
NGO “Bitland”
อยู่ระหว่าง
ดำ�เนินการ
(Aitken,
2016)
ประเทศจอร์เจีย การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry)
อยู่ระหว่าง
ดำ�เนินการ
(Jardine,
2018)
ประเทศฮอนดูรัส การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry)
ประกาศในปี
2015
แต่โครงการ
ล้มเหลว
ประเทศรัสเซีย ระบบบริหารจัดการข้อมูลและเอกสาร
ภาครัฐ (Government Documents
Management System)
ประกาศในปี
2016
(Higgins,
2016)
ระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ
หรือ e-Health (Medical Information
Management System)
ประกาศในปี
2017
(Jun, 2018)
ประเทศสิงคโปร์ ระบบการชำ�ระเงินระหว่างธนาคาร
ข้ามพรมแดน (Cross-Border
Interbank Payments)
ประกาศในปี
2016 และอยู่
ระหว่างการทำ�
Proof-of-
Concept
(Jun, 2018)
ระบบการออกตราสาร การชำ�ระและ
แลกเปลี่ยนเงินตราและหลักทรัพย์
ระหว่างธนาคาร และทดลองใช้งาน
เงินสกุลแห่งชาติในรูปแบบ
Cryptocurrency
อยู่ระหว่าง
ดำ�เนินการ
(Jun, 2018)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
172
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
ประเทศสวีเดน ระบบการจดทะเบียนถือครอง
กรรมสิทธิ์ที่ดิน (Land Title Registry)
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และ
Smart Contract
อยู่ระหว่างการ
ทดสอบระบบ
ในปี 2017
(Verhulst &
Young, 2018)
ประเทศสวิต
เซอร์แลนด์
ระบบการชำ�ระค่าธรรมเนียมโดยใช้
เงินสกุลดิจิทัล เช่น Bitcoin
ใช้งานจริงแล้ว
ตั้งแต่ปี 2016
(Jun, 2018)
ระบบการจัดเก็บอัตลักษณ์ทางดิจิทัล
(Digital Identity) โดยใช้หลักการ
ของ Self-Sovereign Identity
บนเทคโนโลยี Blockchain
ประกาศในปี
2017
(Verhulst &
Young, 2018)
ประเทศยูเครน ระบบลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง e-Vox
(Ethereum Blockchain-Based
Election Platform)
ประกาศในปี
2016
(Abouzeid,
2016)
ระบบการประมูลแบบดิจิทัลโดยใช้
เทคโนโลยี Blockchain
(Blockchain-Based Auction
System)
ประกาศในปี
2016
(Ngo, 2016)
การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry)
ประกาศในปี
2017
(Graglia
& Mellon,
2018)
ประเทศอังกฤษ ระบบการจ่ายสวัสดิการภาครัฐโดยใช้
เทคโนโลยี Blockchain
ประกาศในปี
2016 และ
ประสบความ
สำ�เร็จในการ
ทดสอบการใช้
งานระบบ
(Hebblethwaite,
2017)
ระบบการบริการภาครัฐต่าง ๆ
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
ใช้งานจริง
ตั้งแต่ปี 2016
(Jun, 2018)
ระบบการชำ�ระเงินระหว่างธนาคาร
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
ประกาศในปี
2017
(Jun, 2018)
เอกสารแนบท้าย 173
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
ประเทศ
สหรัฐอเมริกา
ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล
ด้านสุขภาพ
ประกาศในปี
2016 และ
อยู่ระหว่าง
การทดสอบ
ระบบซึ่งเป็น
โครงการนำ�ร่อง
(Jun, 2018)
อนุญาตให้สามารถทำ�การซื้อขายหุ้น
Bitcoin
ประกาศในปี
2015
(Jun, 2018)
อนุญาตให้ Blockchain Smart
Contract มีผลบังคับใช้ได้ทาง
กฎหมาย
ประกาศเป็น
กฎหมายแห่ง
รัฐอริโซนา และ
มีผลบังคับใช้
ในปี 2017
(De, 2018)
อนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี Blockchain
กับตลาดหลักทรัพย์ในการซื้อขายหุ้น
และจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ ได้
และถูกต้องตามกฎหมาย
ประกาศเป็น
กฎหมายแห่ง
รัฐเดลาแวร์
และมีผลบังคับ
ใช้ในปี 2017
(Jun, 2018)
ระบบ Identity Management
บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน
การเก็บสูติบัตรของเด็กทารกแรกเกิด
(Birth Registration) ของรัฐอิลลินอยส์
ประกาศในปี
2017
(Verhulst &
Young, 2018)
ประเทศไต้หวัน ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทาง
อิเล็กทรอนิกส์ (Citizen Identification)
อยู่ระหว่าง
การพัฒนา
(Rueter,
2018)
ประเทศญี่ปุ่น อนุญาตให้ Bitcoin และ
Cryptocurrency สามารถใช้ชำ�ระหนี้
ได้ตามกฎหมาย
ประกาศในปี
2016
ประเทศ
ยิบรอลตาร์
อนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี Blockchain
กับตลาดหลักทรัพย์ในการซื้อขายหุ้น
และจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ ได้
และถูกต้องตามกฎหมาย
ประกาศในปี
2017
(Khatri, 2018)
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
174
ประเทศ โครงการ
สถานะ
โครงการ
อ้างอิง
ประเทศบราซิล การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry)
ประกาศในปี
2016
(Graglia
& Mellon,
2018)
ประเทศ
เซียร์ราลีโอน
ระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain
ประกาศในปี
2018 และอยู่
ระหว่างการทำ�
Proof-of-
Concept
(Verhulst &
Young, 2018)
ประเทศอินเดีย การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์
ที่ดิน (Land Title Registry)
ประกาศในปี
2017
(Graglia
& Mellon,
2018)
เอกสารแนบท้าย 175
บรรณานุกรม
Abouzeid, N. (2016). Ukraine Government Plans to Trial Ethereum
Blockchain-Based Election Platform. Retrieved from https://
bitcoinmagazine.com/articles/ukraine-government-plans-to-
trial-ethereum-blockchain-based-election-platform-
1455641691/
Aitken, R. (2016). Bitland’s African Blockchain Initiative Putting Land
on The Ledger. Retrieved from https://www.forbes.com/
sites/rogeraitken/2016/04/05/bitlands-african-blockchain-
initiative-putting-land-on-the-ledger/#2f7b8c007537
Baran, P. (1964). On distributed communications: I. Introduction to
distributed communications networks. Retrieved from
Basu, M. (2018). Estonia Using Blockchain to Secure Health Records:
Blockchain’s Public Sector Use Goes Beyond Payments.
Retrieved from https://govinsider.asia/innovation/estonia-
using-blockchain-to-secure-health-records/
Belinky, M., Rennick, E., & Veitch, A. (2015). The Fintech 2.0 Paper:
Rebooting Financial Services. In: Santander InnoVentures.
Breene, K. (2016). The 10 Countries Best Prepared for the New
Digital Economy. Retrieved from https://www.weforum.org/
agenda/2016/07/countries-best-prepared-for-the-new-digital-
economy/
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
176
Buterin, V. (2014). A next-generation smart contract and decentralized
application platform. white paper.
Buterin, V., Mccaleb, J., Shen, B., & Bai, S. (2018). Wanxiang Smart
City Global Blockchain Challenge. Retrieved from http://
www.wblockchain.com/global/index_en.html
Chase, K. (2017). Japan Plans Blockchain Test for Government
Procurement Process. Retrieved from https://dcebrief.com/
japan-plans-blockchain-test-for-government-procurement-
process/
Cheng, S., Daub, M., Domeyer, A., & Lundqvist, M. (2017). Using
Blockchain to Improve Data Management in The Public
Sector. Retrieved from https://www.mckinsey.com/business-
functions/digital-mckinsey/our-insights/using-blockchain-to-
improve-data-management-in-the-public-sector
Crosby, M., Pattanayak, P., Verma, S., & Kalyanaraman, V. (2016).
Blockchain Technology: Beyond Bitcoin. Applied Innovation,
2, 6-10.
De, N. (2018). Arizona’s Governor Signs Latest Blockchain Bill Into Law.
Retrieved from https://www.coindesk.com/arizonas-governor-
signs-latest-blockchain-bill-into-law
Deloitte. (2018). Blockchain in Public Sector: Transforming Government
Services through Exponential Technologies. In (pp. 1-28).
India: Deloitte Tohmatsu Limited.
เอกสารแนบท้าย 177
Electronic Voting Committee. (2016). General Framework of Electronic
Voting and Implementation Thereof at National Elections
in Estonia. Tallin Univrsity of Technology, 1-21.
Futter, D., Hale, A., Elverston, N., & Waters, T. (2017). Blockchain
101: An introductory Guide to Blockchain. Retrieved from
https://www.ashurst.com/en/news-and-insights/insights/
blockchain-101/
Graglia, J. M., & Mellon, C. (2018). Blockchain and Property in 2018:
At The End of The Beginning. Paper presented at the 2018
World Bank Conference on Land and Poverty Washington
DC.
Hebblethwaite, C. (2017). GovCoin Aims to Disrupt UK Welfare System.
Retrieved from https://www.blockchaintechnology-news.
com/2017/11/28/govcoin-aims-disrupt-uk-welfare-system/
Higgins, S. (2016). The Russian Government is Testing Blockchain for
Document Storage. Retrieved from https://www.coindesk.
com/the-russian-government-is-testing-blockchain-for-
document-storage
Holgate, R. (2018). Blockchain for Government State of Washington.
Retrieved from
Jamsrandorj, U. (2017). Decentralized Access Control Using Blockchain
(Master Degree), University of Saskatchewan Saskatoon,
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
178
Jardine, B. (2018). Georgia Stakes Place on Wild Frontier of Blockchain
Governance. Retrieved from https://eurasianet.org/georgia-
stakes-place-on-wild-frontier-of-blockchain-governance
Journo, A. H. (2018). Dubai Developments will be Built on Blockchain.
Retrieved from https://digit.fyi/dubai-blockchain/
Jun, M. (2018). Blockchain Government-A Next form of Infrastructure
for The Twenty-First Century. Journal of Open Innovation:
Tecnology, Market, and Complexity, 4(7), 1-12. doi:http://dx.
doi.org/10.1186/s40852-018-0086-3
Khatri, Y. (2018). Gibraltar Stock Exchange Wins License for Blockchain
Subsidiary. Retrieved from https://www.coindesk.com/gibraltar-
stock-exchange-wins-license-for-blockchain-subsidiary
Kohut, I. (2018). How Companies Can Leverage Private Blockchains
toImprove Efficiency and Streamline Business Processes.
Retrieved from https://perfectial.com/blog/leveraging-
private-blockchains/
Kong, J. (2018). Blockchain UAE: Global Healthcare Implications.
Retrieved from http://www.milliman.com/insight/2018/
Blockchain-UAE-Global-healthcare-implications/
Krawiec, R., Housman, D., White, M., Filipova, M., Quarre, F., Barr, D., . . .
Tsai, L. (2016). Blockchain: Opportunities for Health Care.
In (pp. 1-16): Deloitte Development LLC.
เอกสารแนบท้าย 179
Mao, D., Wang, F., Hao, Z., & Li, H. (2018). Credit Evaluation System
Based on Blockchain for Multiple Stakeholders in the
Food Supply Chain. International Journal of Environmental
Research and Public Health, 15, 1627-1647. doi:http://dx.doi.
org/10.3390/ijerph15081627
Marchionni, P. (2018). Next Generation Government Service Bus:
The Blockchain Landscape. SSRN, 1-42. doi:http://dx.doi.
org/10.2139ssrn.3141749
Martinovic, I., Kello, L., & Sluganovic, I. (2017). Blockchains for
Governmental Services: Design Principles, Applications,
and Case Studies. Center for Technology and Global
Affairs, 1(7), 1-16.
Morris, N. (2018). ISO Blockchain Standards Planned for 2021.
Retrieved from https://www.ledgerinsights.com/iso-
blockchain-standards/
Nakamoto, S. (2008). Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System.
Ngo, D. (2016). Feature Interview: Lasha Antadze on Ukraine’s
Blockchain-Powered State Property Auction System.
Retrieved from https://btcmanager.com/feature-interview-
state-property-auction-system/
Ngo, D. (2017). Dubai’s Global Blockchain Council Combats “Conflict
Diamonds” Trading. Retrieved from https://bitcoinmagazine.
com/articles/dubais-global-blockchain-council-combats-
conflict-diamonds-trading/
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
180
Nuuneoi. (2016). Blockchain for Geek. Retrieved from https://nuuneoi.
com/blog/blog.php?read_id=901
Parker, L. (2017). Procivis sets out to replace government services
with blockchain alternatives. Retrieved from https://
bravenewcoin.com/insights/procivis-sets-out-to-replace-
government-services-with-blockchain-alternatives
Rueter, T. (2018). New Distributed Ledger Digital ID Project Faces a Test
in Taiwan. Retrieved from https://www.secureidnews.com/
news-item/new-distributed-ledger-digital-id-project-faces-
a-test-in-taiwan/
Serrano, O. L. (2017). Is Blockchain Really Immutable? Retrieved
fromhttps://www.bbva.com/en/blockchain-really-immutable/
Shen, J. (2016). e-Estonia: The power and Potential of Digital Identity.
Retrieved from https://blogs.thomsonreuters.com/answerson/
e-estonia-power-potential-digital-identity/
Sullivan, C.,  Burger, E. (2017). e-Residency and Blockchain.
Computer Law  Security Review, 33(4), 470-481.
doi:http://dx.doi.org/10.1016/j.clsr.2017.03.016
Sundararajan, S. (2018). Chinese City to Use Blockchain In Fight
Against Tax Evasion. Retrieved from https://www.coindesk.
com/tencent-partners-with-city-authority-to-combat-tax-
evasion-with-blockchain
เอกสารแนบท้าย 181
Umeh, J. (2016). Blockchain Double Bubble or Double Trouble?
ITNOW, 58(1), 58-61. doi:http://dx.doi.org/10.1093/itnow/
bww026
Veedvil. (2017). ทำ�ความเข้าใจเทคโนโลยี Blockchain จุดเปลี่ยน
ของหลายอุตสาหกรรม. Retrieved from http://
www.veedvil.com/news/blockchain/
Verhulst, S. G.,  Young, A. (2018). Blockchange: Blockchain
Technologies for Social Change. GovLab, 1-98.
Yaga, D., Mell, P., Roby, N.,  Scarfone, K. (2018a). Blockchain Technology
Overview. National Institute of Standards and Technology (NIST),
8202, 1-68. doi:https://doi.org/10.6028/NIST.IR.8202
Yaga, D., Mell, P., Roby, N.,  Scarfone, K. (2018b). Blockchain technology
overview. Draft NISTIR, 8202.
Yermack, D. (2017). Corporate governance and blockchains. Review
of Finance, 21(1), 7-31.
Zheng, Z., Xie, S., Dai, H.-N.,  Wang, H. (2016). Blockchain challenges
and opportunities: A survey. International Journal of Web
and Grid Services, 1, 1-25.
สำ�นักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน). (2560). (ร่าง) แผนพัฒนา
รัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564. ประเทศไทย
อาชวานันทกุล, ส. (2016). จาก “สัญญาอัจฉริยะ” สู่ “องค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์”
(decentralized autonomous organization – DAO).
Retrieved from http://thaipublica.org/2016/09/decentralized-
autonomous-orgs/
BLOCKCHAIN
for GOVERNMENT SERVICES
182
Blockchain for Government Services
This book is printed using
eco - friendly soy inks
อาคารบางกอกไทยทาวเวอร 108 ถนนรางน้ำ
แขวงถนนพญาไท เขตราชเทว� กรุงเทพฯ 10400
โทรศัพท : (+66) 0 2612 6000
โทรสาร : (+66) 0 2612 6011 , (+66) 0 2612 6012
Contact Center : (+66) 0 2612 6060
อีเมล : contact@dga.or.th
ดาวนโหลด e-Magazine ฟร�

More Related Content

PDF
มารยาทไทย1
PDF
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
PDF
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
PDF
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
PDF
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
PDF
ฝึกอ่าน ป.2
PDF
การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์
XLS
ปพ5 ปีการศึกษา2553 รายปี ชั้น ม3 วิชาคณิตศาสตร์
มารยาทไทย1
แบบฝึกเสริมทักษะ ชุด มาตราตัวสะกด ป.4
บทที่ 1 ที่มาและความสำคัญ
แบบทดสอบ พระพุทธ ม.6
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ฝึกอ่าน ป.2
การเขียนชื่อวิทยาศาสตร์
ปพ5 ปีการศึกษา2553 รายปี ชั้น ม3 วิชาคณิตศาสตร์

What's hot (20)

PDF
บทที่ 4 การสรรหาและคัดเลือก.compressed
PDF
พระมหาชนกพร้อมแบบฝึกหัด
PDF
กิตติกรรมประกาศ
PDF
ลักษณะของดอกไม้และการจัดดอกไม้
PDF
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
PPT
เรื่องที่ 1 การนับเวลาและการเทียบศักราช
DOCX
ตัวอย่างข้อสอบภาษากับการสื่อสาร
PDF
ชาเขียว..เครื่องดื่มยอดนิยม
PPTX
ประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย
PPT
ประวัติศาสตร์ ม.2
PDF
การบริหารจิตและเจริญปัญญา
PDF
สำนวนไทย พร้อมระบายสี
PDF
ศ.ดร นิพนธ์ ศาสตร์พระราชา
DOC
กิตติกรรมประกาศ
PDF
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
PDF
แบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
PDF
ประวัติ2
PDF
สามัคคีเภทคำฉันท์
PPTX
ประวัติการศึกษา สมัยธนบุรีถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ.2311-2411)
PDF
งานภาษาไทย (อนุสรา)
บทที่ 4 การสรรหาและคัดเลือก.compressed
พระมหาชนกพร้อมแบบฝึกหัด
กิตติกรรมประกาศ
ลักษณะของดอกไม้และการจัดดอกไม้
แบบฝึกหัดการวัดตำแหน่งของข้อมูล (สถิติ)
เรื่องที่ 1 การนับเวลาและการเทียบศักราช
ตัวอย่างข้อสอบภาษากับการสื่อสาร
ชาเขียว..เครื่องดื่มยอดนิยม
ประวัติศาสตร์การเมืองการปกครองของไทย
ประวัติศาสตร์ ม.2
การบริหารจิตและเจริญปัญญา
สำนวนไทย พร้อมระบายสี
ศ.ดร นิพนธ์ ศาสตร์พระราชา
กิตติกรรมประกาศ
การติดต่อสื่อสารในองค์กร
แบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต
ประวัติ2
สามัคคีเภทคำฉันท์
ประวัติการศึกษา สมัยธนบุรีถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น (พ.ศ.2311-2411)
งานภาษาไทย (อนุสรา)
Ad

Similar to Blockchain for Government Services (20)

PDF
การประยุกต์เทคโนโลยีอุบัติใหม่เพื่อการศึกษา Emerging Technology for Education
PPT
e-Government Thailand
PPT
Information Technology for Knowledge society
PDF
20190220 digital-archives
PDF
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 7 ประจำเดือนตุลาคม 2565
PPT
PDF
Traps and Opportunities in Digital Era
PDF
New Technology for Information Services
PDF
Ega แนวทางการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประเทศไทย 20140917_k.airada
PDF
Digital economy plan
PDF
Digital Economy Plan of Thailand
PPT
200809026 Thai E Commerce Government
PDF
Data strategy พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
PDF
สร้างสังคมดีด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
ODP
NSTDA Bio Technology Industry
PPTX
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
PDF
การจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร#1
PDF
พลังงานวิจัยขับเคลื่อนธุรกิจไทย ก้าวไกล ยั่งยืน - The Power of R&D
การประยุกต์เทคโนโลยีอุบัติใหม่เพื่อการศึกษา Emerging Technology for Education
e-Government Thailand
Information Technology for Knowledge society
20190220 digital-archives
NSTDA Newsletter ปีที่ 8 ฉบับที่ 7 ประจำเดือนตุลาคม 2565
Traps and Opportunities in Digital Era
New Technology for Information Services
Ega แนวทางการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประเทศไทย 20140917_k.airada
Digital economy plan
Digital Economy Plan of Thailand
200809026 Thai E Commerce Government
Data strategy พันเอก ดร. เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ
สร้างสังคมดีด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ
NSTDA Bio Technology Industry
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
การจัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร#1
พลังงานวิจัยขับเคลื่อนธุรกิจไทย ก้าวไกล ยั่งยืน - The Power of R&D
Ad

More from Peerasak C. (20)

PDF
เสวนาเจาะเกณฑ์ระดมทุนและการลงทุนกับ LiVex
PDF
e-Conomy SEA 2020
PDF
A Roadmap for CrossBorder Data Flows: Future-Proofing Readiness and Cooperati...
PDF
๙ พระสูตร ปฐมโพธิกาล
PDF
TAT The Journey
PDF
FREELANCING IN AMERICA 2019
PDF
How to start a business: Checklist and Canvas
PDF
The Multiple Effects of Business Planning on New Venture Performance
PDF
Artificial Intelligence and Life in 2030. Standford U. Sep.2016
PDF
Testing Business Ideas by David Bland & Alex Osterwalder
PDF
Royal Virtues by Somdet Phra Buddhaghosajahn (P. A. Payutto) translated by Ja...
PDF
e-Conomy SEA Report 2019
PDF
นิตยสารคิด (Creative Thailand) ฉบับเดือนตุลาคม 2562
PDF
เจาะเทรนด์โลก 2020: Positive Power โดย TCDC
PDF
RD Strategies & D2rive
PDF
คู่มือการใช้ระบบ Biz Portal ส าหรับผู้ยื่นคำขอ (Biz Portal User Manual)
PDF
K SME INSPIRED September 2019 Issue 65
PDF
หนังสือ BlockChain for Government Services
PDF
General Population Census of the Kingdom of Cambodia 2019
PDF
SMD FY 2019 President’s Budget Request to Congress
เสวนาเจาะเกณฑ์ระดมทุนและการลงทุนกับ LiVex
e-Conomy SEA 2020
A Roadmap for CrossBorder Data Flows: Future-Proofing Readiness and Cooperati...
๙ พระสูตร ปฐมโพธิกาล
TAT The Journey
FREELANCING IN AMERICA 2019
How to start a business: Checklist and Canvas
The Multiple Effects of Business Planning on New Venture Performance
Artificial Intelligence and Life in 2030. Standford U. Sep.2016
Testing Business Ideas by David Bland & Alex Osterwalder
Royal Virtues by Somdet Phra Buddhaghosajahn (P. A. Payutto) translated by Ja...
e-Conomy SEA Report 2019
นิตยสารคิด (Creative Thailand) ฉบับเดือนตุลาคม 2562
เจาะเทรนด์โลก 2020: Positive Power โดย TCDC
RD Strategies & D2rive
คู่มือการใช้ระบบ Biz Portal ส าหรับผู้ยื่นคำขอ (Biz Portal User Manual)
K SME INSPIRED September 2019 Issue 65
หนังสือ BlockChain for Government Services
General Population Census of the Kingdom of Cambodia 2019
SMD FY 2019 President’s Budget Request to Congress

Blockchain for Government Services

  • 2. คณะผู้จัดท�ำ : ดร.มณฑา ชยากรวิกรม นายเกียรติศักดิ์ วงศ์ประเสริฐ นายสมมนัส เกตุผ่อง นายชฎิล อินทระนก นายสถาพน พัฒนะคูหา ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA) อาคารบางกอกไทยทาวเวอร์ 108 ถนนรางน�้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท์ : (+66) 0 2612 6000 โทรสาร : (+66) 0 2612 6011 , (+66) 0 2612 6012 Contact Center : (+66) 0 2612 6060 อีเมล : [email protected] ฝ่ายศิลป์ และครีเอทีฟ : นายสุวินันท์ ฤกษ์สง่า นายธามัน ศิริกุล นางสาววริยา สรรคชา นายวิรุฬห์ ดารากัย บรรณาธิการบริหาร : ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด บรรณาธิการ : นายวิบูลย์ ภัทรพิบูล นายพิสิษฐ์ ปิยพสุนทรา จัดทำ�โดย : ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) พิมพ์ครั้งที่ 1 : พ.ศ. 2562 จ�ำนวน : 700 เล่ม
  • 4. ค�ำน�ำ เทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมโลกในยุคดิจิทัล ซึ่งได้รับความสนใจและท�ำการศึกษากันอย่าง กว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากเทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามา ปฏิวัติโลกธุรกิจ และแวดวงการเงินการธนาคารแล้ว ยังมีบทบาทในการยกระดับ การบริหารงานภาครัฐเพื่อเข้าสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) รวมถึง การเปลี่ยนวิถีชีวิตของประชาชนไปสู่ความสะดวกสบายมากขึ้นเช่นเดียวกับอิทธิพล ของโลกออนไลน์ในขณะนี้ ดังนั้นนักวางแผน นักกลยุทธ์ ตลอดจนผู้ก�ำหนดนโยบาย ภาครัฐ จึงควรตระหนักถึงอิทธิพล และผลกระทบของเทคโนโลยี Blockchain ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อโอกาสและความท้าทาย ในอนาคตที่จะท�ำให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบ เมื่อเทคโนโลยี Blockchain ถูกน�ำมาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA มีภารกิจหลัก ที่ส�ำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาลดิจิทัล โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมและสนับสนุน การบูรณาการและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ การเปิดเผยข้อมูล ภาครัฐผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล และเป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนทะเบียนข้อมูล ดิจิทัลภาครัฐเพื่ออ�ำนวยความสะดวกให้ประชาชนและการด�ำเนินงานของหน่วยงาน ภาครัฐ ดังนั้น Blockchain จึงเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่ส�ำคัญเหมาะสมในการ น�ำมาใช้ในงานบริการภาครัฐ ในด้านการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ เนื่องจากมีคุณลักษณะ ที่มีความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity) ความโปร่งใสในการเข้าถึง ข้อมูล (Data Transparency) และมีความสามารถในการท�ำงานได้อย่างต่อเนื่อง ของระบบ (Availability) สามารถมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ เป็นการ เปิดโอกาสให้ประชาชน มีสิทธิเป็นเจ้าของข้อมูลของตนเองอย่างแท้จริง รวมไปถึง โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐต่าง ๆ ง่ายขึ้น ซึ่ง สพร. ได้มีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาพัฒนาเพื่อให้บริการแก่ภาครัฐและประชาชนในอนาคตอันใกล้นี้
  • 5. คณะผู้จัดท�ำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ทั้งภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐสามารถน�ำไป ประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพบริการให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย ถูกใจประชาชน มากยิ่งขึ้น ส�ำหรับหนังสือฉบับนี้ สพร. ได้จัดท�ำเป็น e-Magazine แจกฟรี สามารถ ดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ www.dga.or.th และเพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วน “รู้ รับ ปรับใช้” เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง สพร. จึงได้จัดท�ำหนังสือ การใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับภาครัฐ (BlockchainforGovernmentServices)ฉบับภาษาไทยขึ้นเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ เกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain รวมถึงบทวิเคราะห์การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain โดยเนื้อหาในหนังสือแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ดังต่อไปนี้ การให้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหลักการท�ำงาน ของเทคโนโลยี Blockchain การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย คณะผู้จัดท�ำ
  • 6. สารบัญ ค�ำน�ำ อภิธานศัพท์ บทที่ 1 บทน�ำ เทคโนโลยี Blockchain หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain ประเภทของ Blockchain คุณลักษณะพื้นฐานที่ส�ำคัญของเทคโนโลยี Blockchain • ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity) • ความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล (Data Transparency) • ความสามารถในการท�ำงานได้อย่างต่อเนื่องของระบบ (Availability) เกณฑ์การพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain • เงินดิจิทัล (Cryptocurrency) • บริการพิสูจน์ทราบ (Proof of Services) • สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) • ระบบ/บริการอัตโนมัติ (Decentralized Autonomous Systems/ Services) บทที่ 2 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ 02 13 18 19 22 25 37 45 45 45 46 47 48 51 51 53 58 60 61 70
  • 7. ข้อจ�ำกัดของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่องานบริการภาครัฐ รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ • การพิสูจน์ตัวตน (Identity Management) • การบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูล (Data Record Management) • การติดตามธุรกรรม (Transaction Traceability) ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ • การจัดตั้งคณะท�ำงานแห่งชาติ (The National Blockchain Council) • การสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Blockchain (Blockchain Ecosystem) • การสร้างการก�ำกับดูแลการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain (Blockchain Governance) • การก�ำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain • การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยี Blockchain บทที่ 3 แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย หลักการและเหตุผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับภาครัฐไทย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการบูรณาการบริการ และแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ กรณีศึกษาการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เอกสารแนบท้าย 1 74 80 82 86 93 98 99 103 103 105 109 113 114 130 144 168
  • 8. ระบบแบบ Centralised, Decentralised และ Distributed รูปภาพที่ 2 รูปภาพที่ 3 รูปภาพที่ 1 รูปภาพที่ 4 รูปภาพที่ 5 การเชื่อมโยงข้อมูล ของเทคโนโลยี Blockchain หลักการท�ำงาน ของเทคโนโลยี Blockchain องค์ประกอบของ เทคโนโลยี Blockchain โครงสร้างการ เชื่อมโยง Block 19 20 23 25 26 สารบัญภาพ 27 รูปภาพที่ 6 โครงสร้างภายใน Block ของ Bitcoin 30 รูปภาพที่ 7 ตัวอย่างการแสดง Block Information ของ Bitcoin 31 รูปภาพที่ 8 หลักการ Hash ข้อมูล ชุดใหญ่โดยใช้รูปแบบ Hash Tree 37 รูปภาพที่ 9 Public Blockchain
  • 9. รูปภาพที่ 10 รูปภาพที่ 11 รูปภาพที่ 12 รูปภาพที่ 13 รูปภาพที่ 14 Private Blockchain กระบวนการตัดสินใจ ก่อนการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ การประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วนต่าง ๆ การจ�ำแนกกลุ่ม Blockchain Application การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchainส�ำหรับงานบริการ ภาครัฐของประเทศต่าง ๆ 39 47 49 50 62 BLOCKCHAIN 63 รูปภาพที่ 15 ผลการส�ำรวจความคาดหวังใน การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในภาครัฐ 82 รูปภาพที่ 16 การจัดกลุ่มการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับงาน บริการภาครัฐ 84 รูปภาพที่ 17 ระบบยืนยันและพิสูจน์ตัวตน บนเทคโนโลยี Blockchain 98 รูปภาพที่ 18 ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ งานบริการภาครัฐ
  • 10. รูปภาพที่ 19 สารบัญภาพ (ต่อ) 115 120 131 134 136 วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล รูปภาพที่ 20 แนวโน้มเทคโนโลยีที่ ส�ำคัญส�ำหรับการ พัฒนารัฐบาลดิจิทัล รูปภาพที่ 21 ระบบบูรณาการการให้บริการ ภาครัฐโดยใช้ Enterprise Service Bus(ESB) รูปภาพที่ 22 การเชื่อมโยง บูรณาการ การให้บริการภาครัฐ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain รูปภาพที่ 23 องค์ประกอบทาง เทคนิคการบูรณาการ งานบริการภาครัฐ บนเทคโนโลยี Blockchain 139 รูปภาพที่ 24 แสดงระบบนิเวศการให้บริการ หน่วยงานภาครัฐ 142 รูปภาพที่ 25 แผนภาพจ�ำลองขั้นตอนการ ขออนุญาตการเข้ามาใน ราชอาณาจักรชั่วคราว เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล 148 รูปภาพที่ 26 ภาพรวสถาปัตยกรรมระบบต้นแบบ e-ReferralบนเทคโนโลยีBlockchain 151 รูปภาพที่ 27 รายละเอียดการออกแบบ ระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain
  • 11. 155 157 158 159 159 for GOVERNMENT SERVICES รูปภาพที่ 28 แผนภาพแสดงขั้นตอน การส่งต่อผู้ป่วย ระหว่างโรงพยาบาล รูปภาพที่ 29 ตัวอย่างการเขียนโปรแกรม ของการ บริหารสิทธิในการ เข้าถึงและใช้งานข้อมูลผู้ป่วย โดยใช้ SmartContract รูปภาพที่ 30 โรงพยาบาลต้นทาง สามารถส่งต่อผู้ป่วย ผ่านหน้าจอระบบ e-Referral รูปภาพที่ 31 โรงพยาบาลปลายทางสามารถ ส่งค�ำขอส่งต่อผู้ป่วย ผ่านหน้าจอระบบ e-Referral รูปภาพที่ 32 โรงพยาบาลปลายทาง สามารถเข้าดูข้อมูล ผู้ป่วยในระบบ 13 แฟ้มได้ 160 รูปภาพที่ 33 โรงพยาบาลปลายทางสามารถ ตอบรับ ปฏิเสธ หรือขอเลื่อนเวลา การส่งต่อผู้ป่วยได้ 160 รูปภาพที่ 34 ตัวอย่าง Log การส่งต่อผู้ป่วย ของระบบ e-Referral 161 รูปภาพที่ 35 หน้าจอ Dashboard แสดงรายงาน ต่าง ๆ ของระบบ e-Referral 161 รูปภาพที่ 36 หน้าจอส�ำหรับการ Performance Monitoring,ReportและThroughput ใน Component ต่าง ๆ ของระบบ Hyperledger Blockchain
  • 12. BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 122 81 41 ตารางที่ 1 ตารางเปรียบเทียบ คุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain ในแต่ละประเภท ตารางที่ 2 ตารางแสดงการประยุกต์ ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการ ภาครัฐในต่างประเทศ ตารางที่ 3 ตารางสรุป ความเป็นไปได้ ในการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการ ภาครัฐของประเทศไทย สารบัญตาราง
  • 13. อภิธานศัพท์ Blockchain เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ Shared Database หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “Distributed Ledger Technology (DLT)” โดยเป็นรูปแบบการบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่า ข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข ซึ่งทุกผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูลชุดเดียวกันทั้งหมด โดยใช้หลักการ Cryptography และความสามารถของ Distributed Computing เพื่อสร้างกลไกความน่าเชื่อถือ Block ชุดบรรจุข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของข้อมูล ต่าง ๆ ที่ต้องการบรรจุลงใน Block เรียกว่า Block Data เช่น ข้อมูลการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ และส่วนของ Block Header ที่ใช้เก็บข้อมูลประจ�ำ Block นั้น ๆ ได้แก่ หมายเลข Block, ค่าNounce,ค่าPreviousHashและค่าCurrentHashเป็นต้น Nonce ค่าที่ถูกสุ่มขึ้นมา เพื่อใช้ในการค้นหาค่า Hash ของ Block ซึ่งจะต้องเป็นไปตามกฎของระบบที่ได้ก�ำหนดไว้ โดยค่า Hash ที่ได้นั้นจะต้องมีค่าต�่ำกว่าค่า Target หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ ค่า Difficulty นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ในการออกแบบ โครงสร้าง Block ของ Bitcoin Previous Hash ค่า Current Hash ของ Block ก่อนหน้า ซึ่งเปรียบได้กับ ค่า Digital Signature ของ Block ก่อนหน้าโดยจะถูกจัดเก็บ อยู่ในโครงสร้างของ Block ถัดไปเสมอ และหากมีการแก้ไข ข้อมูลในBlockก่อนหน้าจะท�ำให้ค่าHashของBlockไม่เท่ากัน ทั้งนี้ในการออกแบบโครงสร้าง Block แต่ละแพลตฟอร์มอาจ มีการใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป Current Hash ค่าHashของข้อมูลทั้งหมดในBlockนั้นๆรวมถึงค่าPrevious Hash ของ Block ก่อนหน้านั้นด้วย ทั้งนี้ในการออกแบบ โครงสร้าง Block แต่ละแพลตฟอร์มอาจมีการใช้ชื่อเรียก ที่แตกต่างกันออกไป บทน�ำ 13
  • 14. Hash Value ค่าผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการท�ำHashFunctionโดยการท�ำ HashFunctionคือการน�ำข้อมูลต้นฉบับที่ต้องการแปลงข้อมูล มาผ่านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นฟังก์ชันทางเดียว ในการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะของข้อมูล และมีขนาดความยาวที่คงที่เสมอโดยข้อมูลต้นฉบับที่ผ่านการท�ำ HashFunctionแล้วจะไม่สามารถด�ำเนินการย้อนกลับเพื่อให้ได้ ซึ่งข้อมูลเดิม Consensus การก�ำหนดข้อตกลงและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสมาชิก ในเครือข่าย Blockchain โดยสมาชิกต้องยอมรับกฎระเบียบ ร่วมกัน ด้วยกลไกในการควบคุมความถูกต้องของข้อมูลใน ทุก Node ผ่านอัลกอริทึมต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้อง เที่ยงตรงและเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลมีการจัดเก็บ ที่สอดคล้องและมีล�ำดับการจัดเก็บตรงกัน ทั้งนี้ กระบวน Consensus มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี โดยการเลือกใช้วิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของ Blockchain ในแต่ละประเภท Proof-of-Work เป็นกระบวนการ Consensus วิธีหนึ่ง โดยใช้การแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการ แก้ปัญหานั้นๆจากNodesต่างๆที่อยู่ในเครือข่ายหรือเรียกว่า “Miner” เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่จะถูกบันทึก เข้ามาในเครือข่าย โดย Miner จะได้รับค่าตอบแทนจากการท�ำ Proof-of-Work และด้วยวิธีการดังกล่าวท�ำให้การแก้ไขข้อมูล ที่ถูกบันทึกลงในระบบ Blockchain แล้วนั้นท�ำได้ยากโดยที่ไม่ แก้ไขข้อมูลใน Block ถัด ๆ ไป ซึ่งจะต้องท�ำ Proof-of-Work ในทุกBlock ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลาในการค�ำนวณ พอสมควรอีกทั้งยังจะต้องท�ำการแก้ไขทุกBlockในเวลาเดียวกัน ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะเวลาที่จ�ำกัดจึงเป็นเรื่องที่ เป็นไปได้ยากมากด้วยความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันดังนั้นเป้าหมายการท�ำProof-of-Workในเทคโนโลยี Blockchain จึงเป็นการป้องกันการโจมตีระบบด้วยการเพิ่ม ต้นทุนทางเศรษฐศาสตร์ให้กับผู้โจมตีเพื่อให้เกิดความไม่คุ้มค่า ที่จะท�ำการโจมตี BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 14
  • 15. Proof-of-Stake เป็นกระบวนการ Consensus วิธีหนึ่ง โดยใช้หลักการ วาง“สินทรัพย์”ของผู้ตรวจสอบ(Validator)ในการยืนยันธุรกรรม ผู้ตรวจสอบที่ท�ำการวางสินทรัพย์จ�ำนวนมากจึงมีโอกาสสูง ที่จะได้รับสิทธิ์ในการเขียนข้อมูลธุรกรรมบนBlockถัดไปโดยผู้ที่ ท�ำการเขียนข้อมูลบน Block ถัดไปจะได้รับค่าธรรมเนียม การด�ำเนินงานเป็นรางวัลตอบแทน Proof-of-Authority เป็นกระบวนการ Consensus วิธีหนึ่ง โดยท�ำข้อตกลงร่วมกัน ในการก�ำหนดสิทธิ์ผู้ใช้งานหรือองค์กรที่เชื่อถือได้ ส�ำหรับ การท�ำธุรกรรมด้วยวิธีการระบุชื่อผู้ใช้อย่างเป็นทางการให้กับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละ Node บนเครือข่าย Blockchain ในการท�ำธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบสิทธิ์จากบัญชีที่ได้รับอนุมัติ หรือเรียกว่า ผู้ตรวจสอบ (Validator) ซึ่งท�ำหน้าที่ในการรักษา ความปลอดภัย โดยใช้รูปแบบการหมุนเวียนสิทธิเพื่อกระจาย ความรับผิดชอบและเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงาน อย่างเป็นธรรม Practical Byzantine Fault Tolerance (PBFT) เป็นกระบวนการConsensusวิธีหนึ่งโดยใช้หลักการเสียงข้างมาก ซึ่งต้องมีจ�ำนวนผู้ตรวจสอบ (Validator) ทั้งสิ้นจ�ำนวน 3f+1 Node เพื่อรับประกันความถูกต้องของระบบ โดย f คือ จ�ำนวน ผู้ตรวจสอบที่ไม่สามารถท�ำงานได้ในขณะนั้น Public Blockchain/ Permissionless Blockchain Blockchain วงเปิดที่อนุญาตให้ทุกคนสามารถเข้าใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน หรือการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ โดยไม่จ�ำเป็นต้องขออนุญาต ตัวอย่างของระบบ Blockchain แบบเปิดสาธารณะ เช่น Bitcoin, Ethereum Private Blockchain/ Permission Blockchain Blockchain วงปิดที่เข้าใช้งานได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาต เท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการสร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในองค์กร ดังนั้นข้อมูลการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกจ�ำกัดอยู่เฉพาะภายใน เครือข่าย ซึ่งประกอบไปด้วยสมาชิกที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ตัวอย่างของระบบ Blockchain แบบปิด เช่น Hyperledger, Corda, Tendermint บทน�ำ 15
  • 16. Consortium Blockchain Blockchain ที่เปิดให้ใช้งานได้เฉพาะกลุ่มเท่านั้น ซึ่งส่วนมาก จะเป็นการรวมตัวกันขององค์กรที่มีลักษณะธุรกิจเหมือนกัน และต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ยกตัวอย่างเช่น เครือข่ายระหว่างธนาคาร ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลการท�ำ ธุรกรรม หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ภายในกลุ่มของธนาคาร เช่น Japanese Bank และ R3CEV Merkle Root ค่าHashที่อยู่บนสุดของHashTreeโดยค่าดังกล่าวจะถูกแสดง ใน Block Information ซึ่ง Hash Tree จะใช้กับการออกแบบ Block ที่มีการรวบเอา Transaction ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน รวมเข้าไว้ใน Block เดียวกัน โดยท�ำการ Hash รายการ Transaction ทั้งหมดใน Block ซึ่งเป็นวิธีการ Hash ข้อมูล ชุดใหญ่ โดยใช้รูปแบบ Hash Tree ซึ่งจะ Hash Transactions ทั้งหมดใน Block ให้กลายเป็น Hash Value ขนาด 32 ไบต์ Ethereum เป็นPlatformของBlockchainแบบเปิด(PublicBlockchain) โดยEthereumมีความแตกต่างจากBitcoinเนื่องจากEthereum ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถปรับตัวได้และมีความยืดหยุ่น อีกทั้งยังเป็นOpenSourceโดยความสามารถของEthereum ถือว่าทัดเทียมกับ Bitcoin แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมา คือ ฟีเจอร์ที่เรียก ว่า Smart Contract ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ หรือนักพัฒนาโปรแกรม สามารถเขียนโปรแกรมลงไปในข้อมูลของสกุลเงิน Ether ได้ เพื่อให้ท�ำงานอัตโนมัติเมื่อเงื่อนไขเป็นไปตามที่ก�ำหนด ในสัญญาดังนั้นจึงท�ำให้สามารถสร้างApplicationต่างๆขึ้นมา บนเครือข่าย Ethereum อีกชั้นหนึ่งได้ ท�ำให้เกิดรูปแบบ ที่หลากหลายในการใช้งานซึ่งแตกต่างจาก Bitcoin ที่เน้นการ ท�ำธุรกรรมเพียงอย่างเดียว Cryptocurrency สกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีมูลค่าเหมือนกับธนบัตรในสกุลเงินประเทศ ต่าง ๆ และถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแบบดิจิทัล โดยการแลกเปลี่ยนรูปแบบดิจิทัลได้เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2009 ซึ่ง Blockchain Application ในกลุ่มเงินดิจิทัลได้ถูกพัฒนา ขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจการให้บริการทางการเงินทั้งการโอนและ การจ่ายเงิน ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin และ Ripple BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 16
  • 17. Ledger บัญชีประวัติการท�ำธุรกรรมซึ่งจะถูกบันทึกและท�ำส�ำเนา แจกจ่ายให้กับทุก Node ที่อยู่ในเครือข่าย Blockchain Oracle แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้จากภายนอกระบบBlockchain(Trusted3rd PartySource)ซึ่งSmartContractจะน�ำมาอ้างอิงเพื่อบังคับใช้ สัญญาตามที่เขียนโปรแกรมไว้ เช่น แหล่งข้อมูลระดับน�้ำ ของแต่ละพื้นที่เพื่อให้กรมธรรม์ประกันอุทกภัยที่เขียนด้วยSmart Contract ใช้ส�ำหรับอ้างอิงการเคลมประกันแบบอัตโนมัติ Smart Contract สัญญาอัจฉริยะโดยจะเก็บเงื่อนไขหรือข้อตกลงของสัญญาต่างๆ ไว้ในรูปแบบ Code คอมพิวเตอร์ ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในเครือข่าย Blockchain Node อุปกรณ์ในเครือข่าย Blockchain เปรียบได้กับเครื่อง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรืออื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อ อินเทอร์เน็ตและประมวลผลได้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่ส�ำคัญในการกระจายและเชื่อมโยงกันในเครือข่ายเพื่อให้ ระบบสามารถท�ำงานและประมวลผลได้ทั้งนี้ประเภทของNode ในเครือข่าย Blockchain สามารถจ�ำแนกได้เป็น 1. Nodeที่ท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บส�ำเนาข้อมูลเท่านั้นประกอบด้วย Full Node และ Light Node 2. Nodeที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้นหรือที่รู้จักกัน ในชื่อ Consensus Node บทน�ำ 17
  • 19. รูปภาพที่ 1: ระบบแบบ Centralised, Decentralised และ Distributed ที่มา: ปรับปรุงจาก (Baran, 1964) Centralised Decentralised Distributed Blockchain คือเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ Shared Database หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ “Distributed Ledger Technology (DLT)” โดยเป็นรูปแบบ การบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้น ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไขได้ ซึ่งทุกผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูลชุดเดียวกัน ทั้งหมด โดยใช้หลักการ Cryptography และความสามารถของ Distributed Computing เพื่อสร้างกลไกความน่าเชื่อถือ (Yermack, 2017) จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยี Blockchain เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2008 โดยการ น�ำเสนอของ “Satoshi Nakamoto” จากเอกสาร Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System เป็นการน�ำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการสร้าง Platform ที่สามารถสร้างความปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลที่มีชื่อว่า “Bitcoin” โดยใช้ทฤษฎีเกี่ยวกับการท�ำ Cryptography และ Distributed Computing ดังแสดงในรูปภาพที่ 1 เทคโนโลยี Blockchain บทน�ำ 19
  • 20. รูปภาพที่ 2: การเชื่อมโยงข้อมูล ของเทคโนโลยี Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Belinky, Rennick, & Veitch, 2015) CENTRALISED LEDGER DISTRIBUTED LEDGER RALISED LEDGER DISTRIBUTED LEDGER ซึ่งไม่จ�ำเป็นต้องมีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจ่ายเงิน โดยได้รับความสนใจอย่างแพร่หลาย รวมทั้ง ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพ และสามารถ น�ำมาประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจอื่นๆได้ไม่จ�ำเพาะแค่ภาคธุรกิจการเงินและการธนาคาร เท่านั้นแต่ยังรวมถึงภาครัฐก็ได้มีการตื่นตัวและศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีBlockchain กันอย่างแพร่หลายเช่นกัน การท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain อาศัยการจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology) โดยทุกข้อมูลจะมีการเชื่อมโยงกันทั้งระบบ และเมื่อมีรายการธุรกรรมใหม่เกิดขึ้นจะต้องมีการประกาศบอกทุกเครื่องในระบบ ให้รับรู้ ดังแสดงในรูปภาพที่ 2 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 20
  • 21. นอกจากนี้รายการธุรกรรมดังกล่าวจะต้องผ่านการตรวจสอบ (Consensus) จากทั้งเครือข่ายเสียก่อน จึงจะสามารถบันทึกข้อมูลเข้า Block ได้ ดังนั้น เทคโนโลยี Blockchain จึงไม่จ�ำเป็นต้องมีตัวกลางคอยท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บ รายการธุรกรรม แต่ข้อมูลทั้งหมดจะถูกจัดเก็บอยู่ภายใต้โครงสร้างของเทคโนโลยี Blockchain และถูกกระจายไปยังเครื่องของสมาชิกทุกคนในเครือข่าย และถ้ามีคน พยายามสร้างรายการธุรกรรมปลอมขึ้นมา ข้อมูลก็จะขัดแย้งกับข้อมูลในเครื่อง ของสมาชิกอื่น ๆ ในเครือข่าย เนื่องจากทุกเครื่องจะต้องมีข้อมูลเหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นระบบจะไม่อนุญาตให้สร้างรายการดังกล่าว โดยจะมีแต่รายการที่ทุกคน ในเครือข่ายยอมรับเท่านั้นที่จะสามารถบันทึกเข้าสู่ระบบ Blockchain ได้ และข้อมูล ที่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ Blockchain ไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข ย้อนหลังได้ จึงท�ำให้เทคโนโลยี Blockchain ได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยี การจัดเก็บข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือสูง บทน�ำ 21
  • 22. หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain คือ ฐานข้อมูลจะถูกแชร์ให้กับ ทุกNode1 ที่อยู่ในเครือข่ายและการท�ำงานของเทคโนโลยีBlockchainจะไม่มีเครื่อง ใดเครื่องหนึ่งเป็นศูนย์กลางหรือเครื่องแม่ข่าย ซึ่งการท�ำงานแบบกระจายศูนย์นี้ จะไม่ถูกควบคุมโดยคนเพียงคนเดียว แต่ทุก Node จะได้รับส�ำเนาฐานข้อมูลเก็บไว้ และจะมีการอัปเดตฐานข้อมูลแบบอัตโนมัติเมื่อมีข้อมูลใหม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ส�ำเนา ฐานข้อมูลของทุกคนในเครือข่ายจะต้องถูกต้อง และตรงกันกับของสมาชิกคนอื่น ในเครือข่าย อีกทั้งการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ Block ยังอาศัยหลักการท�ำ Cryptography และการท�ำ Consensus2 จากสมาชิกในเครือข่ายด้วยกันก่อนท�ำการบรรจุข้อมูลลง หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain 1 Node คือ อุปกรณ์ในเครือข่าย Blockchain เปรียบได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ หรืออื่น ๆ ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและประมวลผลได้ ซึ่งถือว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่ส�ำคัญในการกระจายและเชื่อมโยงกันในเครือข่ายเพื่อให้ระบบสามารถท�ำงานและประมวลผลได้ ทั้งนี้ประเภทของ Node ในเครือข่าย Blockchain สามารถจ�ำแนกได้เป็น 1) Node ที่ท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บส�ำเนาข้อมูลเท่านั้น ประกอบด้วย Full Node และ Light Node 2) Node ที่ท�ำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องเท่านั้น หรือที่รู้จักกันในชื่อ Consensus Node 2 Consensus คือ การก�ำหนดข้อตกลงและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสมาชิกในเครือข่าย Blockchain โดยสมาชิกต้องยอมรับกฎระเบียบร่วมกัน ด้วยกลไกในการควบคุมความถูกต้อง ของข้อมูลในทุก Node ผ่านอัลกอริทึมต่าง ๆ เพื่อให้ข้อมูลมีความถูกต้องเที่ยงตรงและเป็น ข้อมูลชุดเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลมีการจัดเก็บที่สอดคล้องและมีล�ำดับการจัดเก็บตรงกัน ทั้งนี้ กระบวน Consensus มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี โดยการเลือกใช้วิธีใดนั้น ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ของ Blockchain ในแต่ละประเภท BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 22
  • 23. Block และเพิ่มเข้าสู่ระบบ Blockchain เพื่อเป็นการป้องกัน และรับประกันความ ปลอดภัยของข้อมูล โดยแต่ละเครือข่าย Blockchain จะมีการก�ำหนดกฎเกณฑ์ ในการตรวจสอบหรือที่เรียกว่า “Consensus Protocol” หรือ “Consensus Mechanism” ขึ้นมาเพื่อใช้ในเครือข่าย โดยหลักการท�ำงานพื้นฐานที่ส�ำคัญ ของเทคโนโลยี Blockchain อย่างน้อยจะต้องประกอบไปด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ๆ ดังแสดงในรูปภาพที่ 3 รูปภาพที่ 3: หลักการท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Veedvil, 2017) The block then can be added to the chain, which providesanindelible and transparent record of transactions The block is broadcast every party in the network The transaction is represented online as a “block” A wants to send money to B The money moves frome A to B Those in the network approve the transaction is valid HOW A BLOCKCHAIN WORKS END ADD TO CHAIN VALIDATION BROADCAST CREATE START บทน�ำ 23
  • 24. อย่างไรก็ดี ในการออกแบบการ ท�ำงานของระบบ Blockchain ใน การท�ำงานจริง อาจจะมีการออกแบบ ขั้นตอนการท�ำงานที่แตกต่างไปจากนี้ได้ ขึ้นอยู่กับการออกแบบของแต่ละผู้ผลิต หรือแต่ละ Platform แต่อย่างน้อย จะต้องมี 4 ขั้นตอนหลักนี้ซึ่งถือได้ ว่าเป็นหัวใจส�ำคัญของการท�ำงาน Blockchain นั่นเอง START END CREATE ADD TO CHAIN คือ การสร้าง Block ที่บรรจุค�ำสั่งขอท�ำรายการ ธุรกรรม BROADCAST VALIDATION ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนที่ 4 คือ ท�ำการกระจาย Block ใหม่นี้ให้กับทุก Node ในระบบ และบันทึกรายการธุรกรรมลง Ledger ให้กับทุก Node เพื่ออัปเดตว่ามี Block ใหม่เกิดขึ้นมา คือ Node อื่น ๆ ในระบบท�ำการยืนยันและตรวจสอบข้อมูล ของ Block นั้นว่าถูกต้องตามเงื่อนไข Validation โดยกระบวนการท�ำ Consensus ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการท�ำ Validation คือ น�ำ Block ดังกล่าวมาเรียง ต่อจาก Block ก่อนหน้านี้ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 24
  • 25. องค์ประกอบของเทคโนโลยีBlockchainประกอบด้วย4องค์ประกอบส�ำคัญคือ 1) Block 2) Chain 3) Consensus และ 4) Validation ดังแสดงในรูปภาพที่ 4 องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain รูปภาพที่ 4: องค์ประกอบของเทคโนโลยี Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Veedvil, 2017) การจัดเก็บข้อมูลของเทคโนโลยี Blockchain จะถูกจัดเก็บในรูปแบบของ Block โดยแต่ละBlockจะเชื่อมโยงเข้าหาBlockก่อนหน้าด้วยค่าHashFunctionของBlock ก่อนหน้านี้เสมอ และจะเรียงร้อยต่อกันเป็น Chain ท�ำให้ยากต่อการปลอมแปลง แก้ไข และสามารถตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้ทุกๆ Block ตลอดทั้ง Chain ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปจนถึง Block เริ่มต้น หรือ Genesis Block ได้ (Yaga, Mell, Roby, & Scarfone, 2018) ดังแสดงในรูปภาพที่ 5 บทน�ำ 25
  • 26. รูปภาพที่ 5: โครงสร้างการเชื่อมโยง Block ที่มา: ปรับปรุงจาก (Yaga, Mell, Roby, & Scarfone, 2018b) ดังนั้น Block คือ ชุดบรรจุข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของ Block Header เพื่อใช้บอกให้คนอื่นทราบว่าภายในบรรจุข้อมูลอะไรไว้ และส่วนของ Block Data เพื่อใช้ในการบรรจุข้อมูลต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลจ�ำนวนเงิน ข้อมูล การโอนเงิน ข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาล หรือข้อมูลอื่น ๆ โดยโครงสร้าง ของแต่ละ Block จะประกอบไปด้วยข้อมูล 7 ส่วน ดังแสดงในรูปภาพที่ 6 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 26
  • 27. รูปภาพที่ 6: โครงสร้างภายใน Block ของ Bitcoin ที่มา: ปรับปรุงจาก (Nakamoto, 2008) 1 หมายเลขBlockคือตัวเลขจ�ำนวนเต็มเรียงกันตั้งแต่1,2,3,4,5ไปเรื่อยๆ โดยมีความหมายแสดงถึงล�ำดับก่อนหลัง คือ Block หมายเลข 1 เกิดขึ้น ก่อน Block หมายเลข 2 และ Block หมายเลข 1 อยู่ติดกับหมายเลข 2 เป็นต้น 2 Timestamp คือ เวลาที่ Block นั้น ๆ ถูกสร้างขึ้นมา 3 Nonce คือ ค่าที่ใช้ในการค้นหาค่า Hash ของ Block ตามกฎของระบบ ที่ได้ก�ำหนดไว้ ซึ่งกฎดังกล่าวคือ Proof-of-Work หมายความว่า หากเรา ต้องการจะสร้าง Block ขึ้นมาสัก Block หนึ่งในระบบ Blockchain เราจะต้องแสดงให้คนอื่น ๆ ที่อยู่ในระบบเห็นว่า เราได้ท�ำการแก้ปัญหา หรือท�ำงาน (Work) ตามกฎที่ก�ำหนดไว้แล้ว บทน�ำ 27
  • 28. 4 Difficulty Target คือ ค่าระดับความยากที่จะถูกใช้ในการค้นหาค่า Nonce โดยค่า Hash ที่ได้นั้นจะต้องมีค่าต�่ำกว่าค่า Difficulty Target นั่นเอง 5 Previous Hashคือค่าCurrentHashของBlockก่อนหน้าซึ่งเปรียบได้กับ ค่าDigitalSignatureของBlockก่อนหน้าโดยจะถูกจัดเก็บอยู่ในโครงสร้าง ของBlockถัดไปเสมอและหากมีการแก้ไขข้อมูลในBlockก่อนหน้าจะท�ำให้ ค่า Hash ของ Block ไม่เท่ากัน ทั้งนี้ในการออกแบบโครงสร้าง Block แต่ละแพลตฟอร์มอาจมีการใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป 6 Data คือ ข้อมูลที่ถูกบันทึกอยู่ใน Block ซึ่งข้อมูลนี้จะเป็นอะไรก็ได้ที่เรา จะบันทึก เช่น ข้อมูล Transaction ต่าง ๆ เป็นต้น 7 Merkle Root คือ ค่า Hash ของ Transactions ทั้งหมดใน Block ซึ่งเป็นวิธีการ Hash ข้อมูลชุดใหญ่ โดยใช้รูปแบบ Hash Tree ซึ่งจะ Hash Transactions ทั้งหมดใน Block ให้กลายเป็น Hash Value3 ขนาด 32 ไบต์ 3 Hash Value คือ ค่าผลลัพธ์ที่ได้จากกระบวนการท�ำ Hash Function โดยการท�ำ Hash Function คือ การน�ำข้อมูลต้นฉบับที่ต้องการแปลงข้อมูลมาผ่านกระบวนการทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นฟังก์ชันทางเดียวในการแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะของข้อมูลและ มีขนาดความยาวที่คงที่เสมอโดยข้อมูลต้นฉบับที่ผ่านการท�ำ Hash Function แล้วจะไม่สามารถ ด�ำเนินการย้อนกลับเพื่อให้ได้ซึ่งข้อมูลเดิม BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 28
  • 29. วิธีการค�ำนวณหาค่า Nonce Nonce คือ ค่าที่ใช้ในการค้นหาค่า Hash ของ Block ซึ่งจะต้องเป็นไป ตามกฎของระบบที่ได้ก�ำหนดไว้ โดยค่า Hash ที่ได้นั้นจะต้องมีค่าต�่ำกว่าค่า Target หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ ค่า Difficulty นั่นเอง โดยค�ำสั่งดังกล่าวก็คือ “จงท�ำให้ Hash ของ Block_Header มีค่า <= Target” โดยค่า Nonce จะถูกวางไว้ใน Block Header ดังแสดงในรูปภาพที่ 7 เพื่อให้เราวนหาค่า ไปเรื่อย ๆ จนกว่าค่า Hash จะต�่ำกว่าค่า Target ดังนั้นการหาค่า Nonce ก็คือ การเปลี่ยนค่า Block Header จนกระทั่งได้ค่า Hash ที่ต�่ำกว่า ค่า Target ให้ได้ ใครหาได้ก่อนคนนั้นชนะซึ่งก็คือ คนที่ได้เป็นคนยืนยัน ความถูกต้องของ Block นั้น ๆ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อได้ค่า Nonce แล้ว ค่า Hash ที่ได้จากการหาค่า Nonce นั้นก็จะถูกใช้เป็นค่า Hash ของ Block นั้นทันที ซึ่งก็คือ Current Hash ของ Block นั้น ๆ นั่นเอง บทน�ำ 29
  • 30. ตัวอย‹างการแสดง BLOCK INFORMATION ของ BITCOIN รูปภาพที่ 7: ตัวอย่างการแสดง Block Information ของ Bitcoin ที่มา: ปรับปรุงจาก (Nuuneoi, 2016) ค่า Target หรือ Difficulty จะถูกก�ำหนดโดยระบบภายใต้สูตร Difficulty = 0x00ffff0000000000000000000000000000000000000000000000000000 CurrentTarget นอกจากนี้ค่า Target หรือ Difficulty จะถูกค�ำนวณค่าใหม่ในทุก 2016 Blocks (ประมาณ 2 สัปดาห์) และถูกค�ำนวณตรง ๆ เลย ถ้า 2016 Blocks ที่ผ่านมาใช้ เวลาเกิน 2 สัปดาห์ ก็จะลดค่า Difficulty ลง แต่ถ้าใช้เวลาน้อยกว่า 2 สัปดาห์ ก็จะปรับค่า Difficulty ขึ้น BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 30
  • 31. Top hash Hash 0 Hash 0-0 Hash 0-1 Hash 1 Hash 1-0 Hash 1-1 Hash 1-1-1 Hash 1-1-0 Hash 1-0-1 Hash 1-0-0 Hash 0-1-1 Hash 0-1-0 Hash 0-0-1 Hash 0-0-0 Data block 007 Data block 006 Data block 005 Data block 004 Data block 003 Data block 002 Data block 001 Data block 000 รูปภาพที่ 8: หลักการ Hash ข้อมูลชุดใหญ่โดยใช้รูปแบบ Hash Tree ที่มา: ปรับปรุงจาก (Futter, Hale, Elverston, & Waters, 2017) จากตัวอย่างการแสดง Block Information ในรูปภาพที่ 7 ซึ่งเป็นตัวอย่าง Block Information ของ Bitcoin จะเห็นค่า Merkle Root ซึ่งก็คือ ค่า Hash ของ Transactions ทั้งหมดใน Block ซึ่งเป็นวิธีการ Hash ข้อมูลชุดใหญ่ โดยใช้ รูปแบบ Hash Tree ซึ่งจะ Hash Transactions ทั้งหมดใน Block ให้กลายเป็น Hash Value ขนาด 32 ไบต์ ดังแสดงในรูปภาพที่ 8 บทน�ำ 31
  • 32. ดังนั้นค่า Merkle Root ก็คือ ค่า Hash ที่อยู่บนสุดของ Hash Tree นั่นเอง โดยค่าดังกล่าวจะถูกแสดงใน Block Information ซึ่ง Hash Tree จะใช้กับ การออกแบบ Block ที่มีการรวบ Transaction ที่เกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันรวม เข้าไว้ใน Block เดียวกัน เนื่องจากการก�ำหนดให้ทุก ๆ Node จะต้องท�ำการแก้ปัญหาทาง คณิตศาสตร์ (A Mathematical Puzzle) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Proof-of-Work" โดย Block ที่ ถูกยอมรับจะต้องมีค�ำตอบของการ แก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ดังกล่าว รวมอยู่ใน Block ด้วยซึ่งก็คือการ หาค่า Nonce นั่นเอง ดังนั้นจึงเป็นไป ไม่ได้ที่ผู้โจมตีจะสร้าง Transaction ปลอมขึ้นมาโดยที่ไม่ท�ำการแก้ไข ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของ Block นั้น ๆ รวมไปถึง Block อื่น ๆ ที่อยู่ใน Chain ด้วย อีกทั้งจะต้องท�ำ พร้อม ๆ กันในทุก ๆ Block เพื่อให้ ได้รับการยอมรับจาก Node อื่น ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากและแทบจะเป็นไป ไม่ได้เลยด้วยความสามารถของ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน จึงท�ำให้ Blockchain ได้รับการ ยอมรับว่าเป็นรูปแบบของการบันทึก ข้อมูลที่มีความปลอดภัยสูง BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 32
  • 33. Consensus การก�ำหนดข้อตกลงและความเห็นชอบร่วมกันระหว่างสมาชิกในเครือข่าย Blockchain โดยสมาชิกต้องยอมรับกฎระเบียบร่วมกัน ด้วยกลไกในการ ควบคุมความถูกต้องของข้อมูลในทุก Node ผ่านอัลกอริทึมต่าง ๆ เพื่อให้ ข้อมูลมีความถูกต้องเที่ยงตรงและเป็นข้อมูลชุดเดียวกัน รวมทั้งข้อมูลมีการ จัดเก็บที่สอดคล้องและมีล�ำดับการจัดเก็บตรงกัน ทั้งนี้ กระบวน Consensus มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ยกตัวอย่างเช่น Chain Chain คือ หลักการจดจ�ำทุก ๆ ธุรกรรมของทุก ๆ คนในระบบและบันทึก ข้อมูลพร้อมจัดท�ำเป็นส�ำเนาบัญชี Ledger แจกจ่ายให้กับทุกคนในระบบ ส�ำเนา บัญชี Ledger ที่ว่านั้นจะถูกกระจายส่งต่อไปให้ทุกๆ Node ในระบบเพื่อให้ ทุกคนรับทราบว่ามีธุรกรรมอะไรเกิดขึ้นมาบ้างตั้งแต่เปิดระบบ Blockchain นั้นขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะมี Node ใด Node หนึ่งเสียหายไปก็สามารถยืนยัน หรือกู้ข้อมูล Ledger จาก Node อื่น ๆ กลับมาอัปเดตให้ทั้งระบบได้เหมือนเดิม บทน�ำ 33
  • 34. Proof-of-Work คือ กระบวนการท�ำ Consensus โดยใช้การแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหานั้น ๆ จาก Nodes ต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือข่ายหรือเรียกว่า “Miners” เพื่อยืนยัน ความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่จะถูกบันทึกเข้ามาในเครือข่าย โดย Miner จะได้รับค่าตอบแทนจากการท�ำ Proof-of-Work และด้วยวิธีการดังกล่าว ท�ำให้การแก้ไขข้อมูลที่ถูกบันทึกลงในระบบ Blockchain แล้วนั้นท�ำได้ ยากโดยที่ไม่แก้ไขข้อมูลใน Block ถัด ๆ ไป ยกตัวอย่างเช่น Bitcoins ซึ่ง เป็น Public Blockchain ใช้วิธีการยืนยันรายการแบบ Proof-of-Work Proof-of-Stake คือ กระบวนการท�ำ Consensus โดยใช้หลักการวาง “สินทรัพย์”ของผู้ตรวจสอบ(Validator)ในการยืนยันธุรกรรมผู้ตรวจสอบ ที่ท�ำการวางสินทรัพย์จ�ำนวนมากจึงมีโอกาสสูงที่จะได้รับสิทธิ์ใน การเขียนข้อมูลธุรกรรมบน Block ถัดไป โดยผู้ที่ท�ำการเขียนข้อมูล บน Block ถัดไปจะได้รับค่าธรรมเนียมการด�ำเนินงานเป็นรางวัล ตอบแทน ยกตัวอย่างเช่น Ethereum ซึ่งเป็น Public Blockchain ใช้วิธีการยืนยันรายการแบบ Proof-of-Stake BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 34
  • 35. Proof-of-Authority คือ กระบวนการ Consensus โดยใช้การท�ำ ข้อตกลงร่วมกันในการก�ำหนดสิทธิผู้ใช้งานหรือองค์กรที่เชื่อถือได้ ส�ำหรับการท�ำธุรกรรมด้วยวิธีการระบุชื่อผู้ใช้อย่างเป็นทางการให้กับ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละ Node บนเครือข่าย Blockchain ในการท�ำ ธุรกรรมจะได้รับการตรวจสอบสิทธิ์จากบัญชีที่ได้รับอนุมัติหรือเรียกว่า ผู้ตรวจสอบ (Validator) ซึ่งท�ำหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย โดยใช้รูปแบบการหมุนเวียนสิทธิเพื่อกระจายความรับผิดชอบ และ เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานอย่างเป็นธรรม Practical Byzantine Fault Tolerance (PBFT) คือ กระบวนการท�ำ Consensus โดยใช้หลักการเสียงข้างมาก ซึ่งต้องมีจ�ำนวนผู้ตรวจสอบ (Validator) ทั้งสิ้นจ�ำนวน 3f+1 node เพื่อรับประกันความถูกต้อง ของระบบ โดย f คือ จ�ำนวนผู้ตรวจสอบที่ไม่สามารถท�ำงานได้ ในขณะนั้น ยกตัวอย่างเช่น HyperLedger ซึ่งเป็น Private Blockchain ใช้วิธีการยืนยันรายการแบบ PBFT จากตัวอย่างที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นConsensus Mechanisms ที่ได้รับการยอมรับและถูกน�ำไปใช้ ในเครือข่ายBlockchainที่มีชื่อเสียงหลายๆเครือข่าย ด้วยกัน แต่วิธีการดังกล่าวก็เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ของ Consensus Mechanisms เท่านั้น ซึ่งในการ ใช้งานจริงยังมีอีกหลายวิธี เช่น Ledger Based, Proprietary Distributed Ledger Consensus, Federated Consensus, N2N, Delegated Proof of Stake และ Round Robin โดยการเลือกใช้ วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของ Blockchain ในแต่ละประเภท รวมถึงแนวทางการออกแบบ ระบบ Blockchain บทน�ำ 35
  • 36. Validation Validation คือ การตรวจสอบความถูกต้องแบบทบทวนทั้งระบบและทุก NodeในระบบBlockchainเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ว่าจะมา จากส่วนใดก็ตาม ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของ Consensus ที่เรียกว่า Proof-of-Work ซึ่งในหลักการแล้วการท�ำ Validation นั้นมีจุดประสงค์อยู่ 3 ประการคือ 1 วิธีการในการยอมรับ/ปฏิเสธ รายการใน Block นั้น ๆ 2 วิธีการตรวจสอบที่ทุกคนในระบบยอมรับร่วมกัน 3 วิธีตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละ Block ยกตัวอย่างเช่น หมายเลข Block โดยตรวจสอบ Block ก่อนหน้าที่ติดกันก่อนว่าเป็น Block ที่ถูกต้องหรือไม่โดยเวลาที่ Block ถูกสร้างขึ้นต้องมากกว่า เวลาของ Block ก่อนหน้า ค่า Nonce โดยการตรวจสอบค่า Nonce ซึ่งก็คือค่า Hash ของ Block ที่ได้มาจากการท�ำ Proof-of-Work นั่นเอง ค่า Previous Hash และ ค่า Current Hash โดยการตรวจสอบสถานะ เริ่มต้นใน Block ต้องมีข้อมูลตรงตามสถานะสุดท้ายของ Block ก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ดีวิธีการตรวจสอบความถูกต้องของแต่ละ Block หรือการท�ำ Validation นั้นอาจจะมีขั้นตอนมากกว่านี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบการเก็บข้อมูล ใน Block ของแต่ละค่ายนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น ค่าย Ethereum นั้นจะมีขั้นตอน การ Validation ถึง 5 ขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งจะต้องสัมพันธ์กับการเก็บข้อมูลใน Block BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 36
  • 37. ประเภทของ Blockchain รูปภาพที่ 9: Public Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Kohut, 2018) Blockchain สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยพิจารณาจากข้อก�ำหนด ในการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของเครือข่าย คือ Blockchain แบบเปิดสาธารณะ (Public Blockchain) Blockchain แบบปิด (Private Blockchain) และ Blockchain แบบ เฉพาะกลุ่ม (Consortium Blockchain) Public Blockchain Public Blockchain คือ Blockchain วงเปิดที่อนุญาตให้ทุกคนสามารถ เข้าใช้งานไม่ว่าจะเป็นการอ่าน หรือการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ โดย ไม่จ�ำเป็นต้องขออนุญาตหรือรู้จักกันในอีกชื่อคือPermissionlessBlockchain ดังแสดงในรูปภาพที่ 9 PUBLIC BLOCKCHAIN บทน�ำ 37
  • 39. Private Blockchain Private Blockchain คือ Blockchain วงปิดที่เข้าใช้งานได้เฉพาะผู้ที่ ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้งานภายในองค์กร ดังนั้น ข้อมูลการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกจ�ำกัดอยู่เฉพาะภายในเครือข่ายซึ่งประกอบ ไปด้วยสมาชิกที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ดังแสดงในรูปภาพที่ 10 รูปภาพที่ 10: Private Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Kohut, 2018) PRIVATE BLOCKCHAIN โดยภายในเครือข่ายจะมี Node หลักคอยท�ำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินใจเลือกเกณฑ์ ส�ำหรับการตรวจสอบความถูกต้องรวมถึงการบันทึกและการท�ำธุรกรรมของทุกNode ซึ่งผู้เข้าร่วมในกลุ่มสามารถตกลงที่จะเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ส�ำหรับตรวจสอบและ บันทึกรายการได้ จึงเหมาะสมส�ำหรับการประยุกต์ใช้เพื่อเก็บข้อมูลที่เป็นความลับ หรือข้อมูลที่ไม่ต้องการเผยแพร่ให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องภายนอกองค์กรทราบ อย่างไร ก็ตามหน่วยงานที่มีการสร้าง Blockchain แบบปิดเป็นของตนเอง จ�ำเป็นต้องมี บทน�ำ 39
  • 40. Consortium Blockchain Consortium Blockchain คือ Blockchain ที่เปิดให้ใช้งานได้เฉพาะกลุ่ม เท่านั้นโดยเป็นการผสมผสานแนวคิดระหว่างPublicBlockchainและPrivate Blockchain ซึ่งส่วนมากเป็นการรวมตัวกันขององค์กรที่มีลักษณะธุรกิจ เหมือนกัน และต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันอย่างสม�่ำเสมออยู่แล้ว มารวมตัวกันตั้งวง Blockchain ขึ้นมา ทั้งนี้เนื่องจากธุรกรรมและข้อมูล ที่จัดเก็บ เป็นข้อมูลที่เป็นความลับ หรือข้อมูลส่วนตัวภายในองค์กร ส่งผลให้ ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งหมดแก่สาธารณชนได้ ดังนั้นผู้เข้าร่วม Blockchain เฉพาะกลุ่ม จ�ำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากตัวแทนเสียก่อน จึงจะสามารถเข้าใช้งานได้ ยกตัวอย่างเช่น เครือข่ายระหว่างธนาคาร ที่ใช้ในการ แลกเปลี่ยนข้อมูลการท�ำธุรกรรม หรือแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ภายในกลุ่ม ของธนาคาร ยกตัวอย่างเช่น Japanese Bank และ R3CEV (Buterin, 2014) การลงทุนในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ของอุปกรณ์ ระบบเครือข่ายใน การเชื่อมต่อองค์ความรู้เกี่ยวกับ ระบบ Blockchain ที่น�ำมาใช้งาน รวมทั้งการดูแลรักษา เพื่อให้ระบบ สามารถด�ำเนินการต่อไปได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ซึ่งโดยส่วนมากมักใช้ ในงานระหว่างองค์กรธุรกิจหรือ ระหว่างองค์กรภาครัฐ ตัวอย่าง ของระบบ Blockchain แบบปิด ยกตัวอย่างเช่น Hyperledger, Corda, Tendermint BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 40
  • 41. ตารางที่ 1: ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain ในแต่ละประเภท คุณลักษณะ (Characteristic) Private Permissioned (Private Blockchain) Public Permissioned: Single Industry Public Permissioned: Multi-Industry Permissionless (Public Blockchain) ผู้มีอ�ำนาจ (Authority), การควบคุม (Control) และ ความน่าเชื่อถือ (Trust) การบริหาร จัดการบัญชี แยกประเภท ภายในเพียง องค์กรเดียว (Centralized Trust) การจัดการบัญชี แยกประเภท โดยมีประโยชน์ อุตสาหกรรม เป็นส�ำคัญ และเปิดใช้ กับรูปแบบ สาธารณะอย่าง จ�ำกัดภายใน อุตสาหกรรม (Semi- Centralized Trust) การจัดการบัญชี แยกประเภท โดยมีประโยชน์ อุตสาหกรรม เป็นส�ำคัญ และ เปิดการใช้แบบ สาธารณะ (Semi- Centralized Trust) การจัดการบัญชี แยกประเภท โดยเครือข่าย แบบกระจาย ศูนย์ไม่มีระบบ ข้อมูลกลาง (Distributed Consensus) บริบททางธุรกิจ (Business Context) การใช้งาน ภายในองค์กร เท่านั้น (Intra- Company) การใช้งาน ระหว่างบริษัท หรือภายใน อุตสาหกรรม (Inter- Company) การใช้งาน ระหว่างบริษัท หรือข้าม อุตสาหกรรม (Inter- Company) บริษัทและ บุคคลทั่วไป สาธารณะที่ อยู่ระหว่าง เครือข่ายหรือ ระบบนิเวศของ Blockchain (Inter-Entity) สิทธิ์การเข้าถึง (Access Rights) การอนุญาต สิทธิ์การใช้งาน วัตถุประสงค์ เดียวของหนึ่ง องค์กร การอนุญาต ให้ใช้สิทธิ์ใน อุตสาหกรรม เดี่ยว การก�ำหนด สิทธิ์ใน อุตสาหกรรม/ วัตถุประสงค์ หลายแบบ อนุญาตให้ ผู้เข้าร่วมหลาย อุตสาหกรรม/ ผู้เข้าร่วมการ ศึกษาค้นคว้า และผู้ที่ต้องการ ใช้งานหลาย ประเภท บทน�ำ 41
  • 42. คุณลักษณะ (Characteristic) Private Permissioned (Private Blockchain) Public Permissioned: Single Industry Public Permissioned: Multi-Industry Permissionless (Public Blockchain) การเป็นสมาชิก (Membership) Static Static Semi-Static Fluid ความรับผิด ชอบ (Accountability), สถานะทาง กฎหมาย (Legal Standing) ผู้รับผิดชอบ ตามกฎหมาย ผู้ที่รับผิดชอบ ตามกฎหมาย และอาจได้รับ การควบคุม ผู้ที่รับผิดชอบ ตามกฎหมาย และอาจได้รับ การควบคุม ผู้ที่รับผิดชอบ จ�ำกัด/ไม่มี กฎหมายรับรอง และผู้ใช้ ไม่ได้รับ การควบคุม รูปแบบการน�ำ ไปใช้ (Deployment Style) อาจแก้ไขได้ กึ่งสามารถ แก้ไขได้ กึ่งสามารถ แก้ไขได้ ส่วนใหญ่ ไม่สามารถ แก้ไขได้ รูปแบบการ บันทึก ความไม่ เปลี่ยนแปลง (Record Immutability) อาจแก้ไขได้ กึ่งสามารถ แก้ไขได้ กึ่งสามารถ แก้ไขได้ ส่วนใหญ่ ไม่สามารถ แก้ไขได้ Consensus Mechanism Proof of Stake, Federated Byzantine Fault Tolerance Agreement, Proof of Authority, Proof of Identity Proof of Stake, Practical Byzantine Fault Tolerance, Deposit-Based, Federated Byzantine Agreement Proof of Stake, Practical Byzantine Fault Tolerance, Deposit-Based, Federated Byzantine Agreement Proof of Work (Ethereum Kovan Testnet, POA Chain, R3 (Banks), EWF (Energy), B3i (Insurance), Corda) (Bitcoin, Ethereum, etc..) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 42
  • 43. คุณลักษณะ (Characteristic) Private Permissioned (Private Blockchain) Public Permissioned: Single Industry Public Permissioned: Multi-Industry Permissionless (Public Blockchain) ข้อดี (Advantages) 1. การรับรองความถูกต้องและการรักษา ความปลอดภัยด้วยสิทธิของผู้ใช้ที่ไว้วางใจ ได้อย่างน่าเชื่อถือ 2. การปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพของโปรโตคอล และเครือข่ายได้ 3. ค่าใช้จ่ายในการจัดการระบบเครือข่ายและ การจัดการใช้งานร่วมกัน 4. การก�ำกับดูแลและการบังคับใช้นโยบาย 5. การก�ำกับดูแลกฎระเบียบ 6. การพัฒนามาตรฐานและการควบคุม 7. ความสามารถในการท�ำงานที่รวดเร็วขึ้น 8. การปกป้องข้อมูล สินค้า บริการ หรือกลยุทธ์ ทางธุรกิจ ให้มีเสถียรภาพมั่นคงและปลอดภัย 1. ข้อมูล ทั้งหมด จะเป็นข้อมูล สาธารณะ 2. ความสามารถ ในการ ป้องกัน การถูกโจมตี 3. ไม่มี ศูนย์กลาง ในการ ควบคุม (No Centralized) 4. ไม่มีการ แยกผู้ใช้ ออกจาก นักพัฒนา Application 5. การเติบโต ของระบบ นิเวศ ผ่านทาง เครือข่าย 6. โอเพ่นซอร์ส (Opensource) 7. การมี นักพัฒนา ซอฟต์แวร์ ร่วมกัน พัฒนา บทน�ำ 43
  • 44. คุณลักษณะ (Characteristic) Private Permissioned (Private Blockchain) Public Permissioned: Single Industry Public Permissioned: Multi-Industry Permissionless (Public Blockchain) ข้อเสีย (Disadvantages) 1. จุดเดียวของความล้มเหลว (Single Point of Failure) 2. อาจไม่สามารถเปิดแหล่งที่มาได้ 3. การเสริมสร้างรูปแบบธุรกิจ และชุดกระบวนการที่มีอยู่ 4. การที่ต้องดูแลระบบและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ 5. ผู้จัดหาเป็นศูนย์ข้อมูลกลาง (ในกรณีผู้ซื้อหรือลูกค้าเป็นศูนย์กลาง) 6. การจัดหาทรัพยากรบุคคลส�ำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่มีอยู่จ�ำกัด 7. การใช้งานต้องมีมติหรือข้อตกลงเป็นเอกฉันท์ ขององค์กร 1. ปัญหา ความสามารถ ในการรองรับ การปรับ ขยายขนาด ธุรกรรม ท�ำให้เกิด ความล่าช้า ในการท�ำ ธุรกรรม 2. การก�ำกับ ดูแลที่ ซับซ้อน 3. การมีส่วนร่วม ของผู้เกี่ยวข้อง ที่ไม่น่า เชื่อถือ 4. ศักยภาพ ในการ ตรวจสอบ ธุรกรรม (Minner) 5. ศักยภาพ บางประการ ที่อาจ ผิดกฎหมาย 6. สิ่งจูงใจ ทางการเงิน ที่ต้องใช้ เพื่อรักษา เครือข่าย ที่มา: ปรับปรุงจาก (Zheng, Xie, Dai, & Wang, 2016) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 44
  • 45. คุณลักษณะพื้นฐานที่ส�ำคัญของเทคโนโลยี Blockchain การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของ Block โดยเชื่อมต่อแต่ละ Block ด้วย Hash Function และกระจายให้ทุก ๆ Node เก็บ ท�ำให้เกิดคุณสมบัติที่ส�ำคัญ ของ Blockchain 3 ประการ คือ ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity) ความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล (Data Transparency) และความสามารถในการ ท�ำงานได้อย่างต่อเนื่องของระบบ (Availability) (Serrano, 2017) ความถูกต้องเที่ยงตรงของข้อมูล (Data Integrity) เนื่องจากการเชื่อมโยง Block ปัจจุบันและ Block ก่อนหน้าด้วย Hash Function และท�ำการกระจายให้ทุก Node เก็บ ท�ำให้ข้อมูลที่ถูกบันทึกลงใน Blockchain แล้วไม่สามารถแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ (Immutability) ดังนั้นหากมีความพยายามในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ถูกบันทึกลงใน Block แล้วจะท�ำให้ทราบได้ทันทีเนื่องจากข้อมูลใน Node ดังกล่าวจะมีข้อมูล ที่ต่างออกไปจาก Node อื่น ๆ ในระบบ และไม่สามารถสร้าง Consensus กับ Node อื่นได้ ท�ำให้ถูกแยกออกจาก Chain หลักไปในที่สุด ความโปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูล (Data Transparency) เนื่องจากทุก Node ในระบบ Blockchain จะเก็บข้อมูลเดียวกันทั้งหมด โดยไม่มี Node ใด Node หนึ่งเป็นตัวกลางที่มีอ�ำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการ เก็บข้อมูล ดังนั้นการเข้าถึงข้อมูลใด ๆ จึงท�ำได้จาก Node ตัวเองทันที โดยไม่จ�ำเป็นต้องร้องขอข้อมูลจากตัวกลาง จึงเรียกว่าเป็นระบบที่มีความ โปร่งใสในการเข้าถึงข้อมูลสูงมาก บทน�ำ 45
  • 46. ความสามารถในการท�ำงานได้อย่างต่อเนื่องของระบบ (Availability) เนื่องจากทุก Node ในระบบ Blockchain จะเก็บข้อมูลเดียวกันทั้งหมด จึงสามารถท�ำงานทดแทนกันได้เมื่อมี Node ที่ไม่สามารถให้บริการได้ในขณะนั้น โดยระบบจะท�ำการคัดลอกส�ำเนาข้อมูลให้เป็นข้อมูลชุดเดียวกันเมื่อ Node กลับขึ้นมาให้บริการได้อีกครั้ง BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 46
  • 47. รูปภาพที่ 11: กระบวนการตัดสินใจก่อนการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน ที่มา: ปรับปรุงจาก (Yaga, Mell, Roby, & Scarfone, 2018a) เกณฑ์การพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain เกณฑ์ในการพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีBlockchainเพื่อพิจารณาความเหมาะสม และความจ�ำเป็นในมิติต่าง ๆ ตามข้อค�ำถามทั้ง 6 ค�ำถาม ส�ำหรับใช้ในการ ตัดสินใจเพื่อให้องค์กรสามารถเลือกใช้เทคโนโลยี Blockchain ได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อแก้ปัญหาการท�ำงานในอดีต และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการวางแผนการท�ำงานในอนาคตได้ดังแสดงในรูปภาพที่11 6 คำถามก‹อนตัดสินใจใชŒ เทคโนโลยี Blockchain คุณตŒองการแชรขŒอมูลชุดเดียวกัน ใหŒกับผูŒที่มีส‹วนเกี่ยวขŒองทั้ง ระบบใช‹หร�อไม‹? คุณไม‹จําเปšนตŒองใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก Blockchain จะช‹วยใหŒคุณสามารถเก็บขŒอมูลที่มีความถูกตŒองตรงกันไดŒ โดยรับประกันว‹าขŒอมูลจะไม‹ถูกเปลี่ยนแปลง/ ถูกแกŒไขเมื่อเวลาผ‹านไป ถŒาขŒอมูลของคุณถูกสรŒางข�้นโดยคน /องคกรใดองคกรหนึ่งเท‹านั้น คุณไม‹จำเปšนตŒองใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก Blockchain ถูกสรŒางข�้นมาเพ�่อแกŒป˜ญหาความไม‹ไวŒวางใจระหว‹างกัน (Trustless) ถŒาขŒอมูลของคุณเปšนขŒอมูลที่ตŒองมีการอัพเดต / เปลี่ยนแปลงแกŒไข รายการอยู‹เสมอๆ คุณไม‹ควรใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก ขŒอมูลที่ถูกเก็บบนBlockchainแลŒวไม‹สามารถเปลี่ยนแปลงหร�อแกŒไขไดŒ ถŒาขŒอมูลของคุณเปšนขŒอมูลที่มีความละเอียดอ‹อน / ขŒอมูลที่สามารถ ระบุตัวบุคคลไดŒ(PersonallyIdentifiableInformation:Pll)คุณไม‹ควร ใชŒเทคโนโลยี Blockchain ถึงแมŒขŒอมูลดังกล‹าวจะถูกเขŒารหัสก็ตาม ถŒาคุณไม‹ตŒองการพ�สูจนทราบว‹ามีอะไรเกิดข�้นกับขŒอมูลของคุณบŒาง / ขŒอมูลมีการถูกแกŒไข (Data Provenance) หร�อไม‹ คุณไม‹จำเปšนตŒองใชŒ เทคโนโลยี Blockchain ถŒาคุณเชื่อถือ / ไวŒใจ คนที่มีส‹วนเกี่ยวขŒองในการสรŒางขŒอมูลของคุณ อยู‹แลŒว คุณไม‹จำเปšนตŒองใชŒเทคโนโลยี Blockchain เนื่องจาก Blockchainถูกออกแบบมาเพ�่อแกŒป˜ญหาความไม‹เชื่อใจกัน(Trustless) โดยไม‹จำเปšนตŒองมีคนกลางมาคอยสรŒางความน‹าเชื่อถือ การสรŒางรายการขŒอมูลของคุณ มีผูŒเกี่ยวขŒองมากกว‹า 1 ราย ใช‹หร�อไม‹? คุณตŒองการบันทึกรายการขŒอมูลที่ไม‹สามารถเปลี่ยนแปลง แกŒไข หร�อลบไดŒนอกจากเพ��มรายการขŒอมูลใหม‹ (Immutability) ใช‹หร�อไม‹? ขŒอมูลของคุณที่ตŒองการบันทึกเขŒาสู‹ระบบนั้นตŒองไม‹เปšน ขŒอมูลที่มีความละเอียดอ‹อน / ขŒอมูลที่สามารถระบุ ตัวบุคคลไดŒใช‹หร�อไม‹? คุณตŒองการระบบที่สามารถสรŒางความเชื่อใจระหว‹าง ผูŒที่มีส‹วนเกี่ยวขŒองในการสรŒางขŒอมูลโดยไม‹จำเปšน ตŒองมีคนกลางมาคอยควบคุมใช‹หร�อไม‹? คุณตŒองการระบบที่รับประกันไดŒว‹าขŒอมูลที่ผ‹าน การอนุมัติร‹วมกันแลŒวจะไม‹สามารถถูกปลอมแปลง หร�อแกŒไขไดŒใช‹หร�อไม‹? ควรใชŒเทคโนโลยี Blockchain เร��ม ใช‹ ไม‹ใช‹ ไม‹ใช‹ ไม‹ใช‹ ไม‹ใช‹ ไม‹ใช‹ ไม‹ใช‹ ใช‹ ใช‹ ใช‹ ใช‹ บทน�ำ 47
  • 48. รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในปัจจุบันเทคโนโลยี Blockchain ถือได้ว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการ น�ำไปใช้งาน โดยอ้างอิงข้อมูลจาก World Economic Forum Survey (2015) พบว่า มูลค่ารวมของธุรกรรมที่มีการใช้งานอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain รวมไปถึง Bitcoin นั้นยังมีปริมาณค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ GDP ของโลก โดยมีปริมาณเพียง 0.025% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณสองหมื่นล้านเหรียญสหรัฐนั่นเอง (Global GDP มีมูลค่า 80 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ) แต่จากรายงาน ได้แสดงให้เห็นว่า การใช้งานเทคโนโลยี Blockchain มีแนวโน้มจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดดภายใน 10 ปีนี้ เนื่องจากภาคธุรกิจต่าง ๆ ได้เห็นถึงประโยชน์และความส�ำคัญของการ น�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้งาน โดยในปี 2015 มีตัวเลขการลงทุนในธุรกิจ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain สูงถึง 474 ล้านดอลลาร์สหรัฐซึ่งโตขึ้น BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 48
  • 49. ภาครัฐ (GOVERNMENT SECTOR) การบร�หารจัดการห‹วงโซ‹อุปทาน (SUPPLY CHAIN MANAGEMENT) ธุรกิจประกันภัย (INSURANCE) ธุรกิจพลังงาน (ENERGY BUSINESS) การชำระและโอนเง�น (PAYMENT AND TRANSFER SYSTEM) สถาบันการศึกษา (EDUCATION) ธุรกิจออนไลนเพลง (MUSIC ONLINE) ธุรกิจการแชรรถร‹วมกัน (RIDE SHARING) การเช‹าและซื้อขายรถ (CAR RENTAL AND TRADING SYSTEM) เคร�อข‹ายและอินเตอรเน็ตในทุกสิ�ง (NETWORKING AND INTERNET OF THING: IOT) งานว�จัยและคาดการณ (RESEARCH AND FORECASTING) การออกเสียง (VOTING) บัตรกํานัลและโปรแกรม สรŒางความภักดี (GIFT CARDS AND LOYALTY PROGRAMS) แหล‹งเก็บขŒอมูลแบบออนไลน (CLOUD STORAGE) ธุรกิจสุขภาพ (HEALTHCARE) ธุรกิจกีฬา (SPORT BUSINESS) การซื้อขายหุŒน (STOCK TRADING) อสังหาร�มทรัพย (REAL ESTATE) ความปลอดภัยทางไซเบอร (CYBERSECURITY) การเง�นการธนาคาร (FINANCE AND BANKING) รูปภาพที่ 12: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วนต่าง ๆ ถึง 59% จากปีก่อนหน้านี้ โดยในปัจจุบันได้มีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นไม่จ�ำเพาะแค่เพียงภาคการเงินและการธนาคาร เท่านั้น ดังแสดงในรูปภาพที่ 12 ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ Supply Chain ธุรกิจประกันภัย ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพสถาบันการศึกษา หรือแม้แต่ธุรกิจเพลงออนไลน์ รวมไปถึง ภาครัฐก็ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับการท�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ในการบริหาร งานภาครัฐกันมากขึ้นเช่นกัน บทน�ำ 49
  • 50. ดังนั้นจากข้อมูลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วนต่าง ๆ ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นท�ำให้สามารถจัดกลุ่มการพัฒนา Application ที่ท�ำงาน อยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchain ได้เป็น 4 กลุ่มดังแสดงในรูปภาพที่ 13 Transportation Healthcare Online Storage Mesh Networks Wagers Bounties Family trust Escrows Examples: Lo Zooz, Storj, MaidSafe, OpenGarden, Bitnation Examples: (Ethereum) Mist, SmartContract, Secure Asset Exchange Identity Ownership Membership Voting Examples: OneName, Mine, Streamium OpenBazaar, Swarm Examples: Bitcoin, Coinbase, etc, Key Blockchain Application Groupings Increasing complexity and time-to-delivery Transfers Payments Tips Crowd Funding รูปภาพที่ 13: การจ�ำแนกกลุ่ม Blockchain Application ที่มา: ปรับปรุงจาก (Umeh, 2016) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 50
  • 51. เงินดิจิทัล (Cryptocurrency) สกุลเงินดิจิทัลซึ่งมีมูลค่าเหมือนกับธนบัตรในสกุลเงินประเทศต่าง ๆ และ ถูกใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนแบบดิจิทัล โดยการแลกเปลี่ยนรูปแบบ ดิจิทัลได้เริ่มขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2009 ซึ่ง Blockchain Application ในกลุ่มเงิน ดิจิทัลได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในธุรกิจการให้บริการทางการเงินทั้งการโอนและ การจ่ายเงิน ยกตัวอย่างเช่น Bitcoin และ Ripple บริการพิสูจน์ทราบ (Proof of Services) การบริการพิสูจน์ทราบ คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการ บรรจุข้อมูลแบบอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูลเอกลักษณ์ (Identity) กรรมสิทธิ์ (Ownership) และสมาชิกภาพ (Membership) ซึ่งส่วนใหญ่ Application ดังกล่าวมักจะถูกน�ำไปประยุกต์ใช้โดยหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งท�ำหน้าที่เกี่ยวกับการบริการประชาชนยกตัวอย่างเช่นMITDigitalCurrency Initiative ได้ร่วมมือกับหลายภาคส่วนรวมไปถึงภาครัฐเพื่อสร้างโครงการ น�ำร่องเกี่ยวกับการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ในการออกใบสูติบัตร ใบมรณะบัตร ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ชื่อสถานประกอบการ รวมไปถึง วุฒิการศึกษา ซึ่งในหลาย ๆ โครงการได้มีการพัฒนาจนเป็นรูปธรรม และ ได้มีการน�ำไปใช้จริงแล้ว ยกตัวอย่างเช่น บริการยืนยันเอกลักษณ์ (Identity Based Service) โดย BitNation มีจุดมุ่งหมายเพื่อกระจายการอ�ำนาจ การก�ำกับดูแลในระดับโลก ได้ท�ำการพัฒนา A World Citizenship ID บน Blockchain Protocol (Umeh, 2016) บทน�ำ 51
  • 52. นอกจากนี้ยังมี Proof of Service อีกประเภทหนึ่งหรือที่รู้จักกันในชื่อ Proof of Existence คือการพิสูจน์การมีอยู่จริงของเอกสารต่างๆ โดยหลักการ คือ การเก็บข้อมูลโดยสรุปของเอกสารที่สามารถยืนยันการมีอยู่จริงของข้อมูลภายใน เอกสารต้นฉบับได้ หรือที่เรียกว่า Cryptographic Digest รวมไปถึงเวลาที่จัดส่ง เอกสารไปยังผู้รับซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะถูกจัดเก็บลงใน Blockchain ดังนั้นผู้ใช้งาน มั่นใจได้ว่าเอกสารที่ได้รับนั้นเป็นเอกสารที่ถูกต้องและเชื่อถือได้ อีกทั้งไม่จ�ำเป็น ต้องกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวเนื่องจากข้อมูลที่ถูกจัดเก็บลงใน Blockchain เป็นเพียงข้อมูลโดยสรุปของเอกสารที่สามารถยืนยันการมีอยู่จริงของข้อมูลภายใน เอกสารต้นฉบับได้ และเวลาที่จัดส่งเอกสารไปยังผู้รับเท่านั้นไม่ใช่เอกสารต้นฉบับ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 52
  • 53. สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) สัญญาอัจฉริยะคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถด�ำเนินการตามข้อตกลง โดยอัตโนมัติทันทีที่เกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขในสัญญาซึ่งได้มีการระบุถึง เงื่อนไข หรือเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ต้องมีคนกลาง นั่นคือ หลักการส�ำคัญของสัญญาอัจฉริยะซึ่งได้ถูกคิดค้นขึ้นในปี1994โดยNickSzabo (Crosby, Pattanayak, Verma, & Kalyanaraman, 2016) ยกตัวอย่างเช่น การโอนเงินจ่ายค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อัตโนมัติ ทันทีที่จ�ำนวนผู้ใช้ถึงระดับที่ ตกลงกับเจ้าของลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไว้ล่วงหน้าการโอนเงินจ่ายค่าโฆษณาบนเว็บไซต์ โดยอัตโนมัติ ทันทีที่จ�ำนวนคนดูถึงระดับที่ตกลงกับเจ้าของเว็บไว้ล่วงหน้า การโอนคูปองส่วนลดราคาสินค้ามาให้ลูกค้าอัตโนมัติ ทันทีที่ถึงวันที่ใช้คูปอง นั้นได้ หรือแม้แต่การโอนเงินจ่ายค่าบทความ ทันทีและทุกครั้งที่จ�ำนวนผู้อ่าน บทความถึงระดับที่ตกลงกับนักเขียนไว้ล่วงหน้า ตราบใดที่คู่สัญญาทุกฝ่าย ตกลงกันได้ เมื่อนั้นสัญญาอัจฉริยะ หรือ Smart Contract ก็จะถูกโปรแกรมและ บริหารจัดการอัตโนมัติด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์บนเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งในปัจจุบันบริษัท Ethereum และ Codius ได้เปิดใช้งาน Smart Contract บนพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchain โดย The Ethereum Project เป็นหนึ่งตัวอย่างของการท�ำ Smart Contract เต็มรูปแบบซึ่งอยู่ในรูปแบบ ของ Public Blockchain ส่วนตัวอย่างอื่น ๆ นั้นเป็นการท�ำ Smart Contract ในรูปแบบของ Private หรือ Permissioned Blockchain ซึ่งจะท�ำการติดต่อ เฉพาะ Node ที่รู้จักและเชื่อถือได้เท่านั้น เพื่อเพิ่มความปลอดภัย การน�ำสัญญา อัจฉริยะ หรือ Smart Contract มาใช้งานนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาความไม่ไว้ วางใจกันระหว่างคู่สัญญา การฉ้อโกง และการบิดเบือนสัญญา อีกทั้งยังสามารถ ช่วยแก้ปัญหาการตีความเนื้อหาในสัญญา ซึ่งมักจะเป็นข้อพิพาทระหว่าง คู่สัญญาเสมอ ๆ เนื่องจากคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต่างตีความสัญญาคนละแบบ บทน�ำ 53
  • 54. ทั้งนี้ในการประยุกต์ใช้งาน Smart Contract ร่วมกับกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จ�ำเป็นต้องทราบจุดเด่น และข้อจ�ำกัดของ Smart Contract ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถน�ำ Smart Contract ไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม โดยจุดเด่น ของ Smart Contract ประกอบไปด้วย ความปลอดภัย (Security) เนื่องจาก Smart Contract ที่ถูกพัฒนา โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain นั้นจะถูกกระจายไปยังสมาชิกอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือข่าย จึงมั่นใจได้ว่า Smart Contract ดังกล่าวจะไม่สูญหาย หรือถูกเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการท�ำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ความเป็นอัตโนมัติ (Automation) เนื่องจาก Smart Contract จะด�ำเนินการตามข้อตกลงโดยอัตโนมัติทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์ ตามเงื่อนไขในสัญญา ซึ่งได้มีการระบุไว้ล่วงหน้าแล้ว โดยไม่ต้อง มีคนกลางมาเกี่ยวข้อง ความเป็นมาตรฐาน (Standardization) เนื่องจาก การน�ำ Smart Contract มาใช้งานในระบบใด ๆ นั้น หมายความว่าระบบนั้นจะต้อง ท�ำงานภายใต้เงื่อนไข หรือข้อตกลงต่างที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งระบบ ตามที่ได้ก�ำหนดไว้ใน Smart Contract BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 54
  • 55. ดังนั้นจากจุดเด่นของ Smart Contract ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นลักษณะงาน ที่เหมาะสมส�ำหรับการน�ำ Smart Contract ไปประยุกต์ใช้ ประกอบไปด้วย งานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลที่ไม่ต้องการให้แก้ไขได้ หรือสามารเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมได้จากผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น การเก็บข้อมูล ส�ำหรับใช้ยืนยันบุคคล การเก็บข้อมูลสินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่าง ๆ บทน�ำ 55
  • 56. งานที่ต้องการให้ธุรกรรมสามารถด�ำเนินการได้อย่างอัตโนมัติตาม เงื่อนไขที่ก�ำหนด โดยปราศจากตัวกลางในการควบคุม หรือก�ำหนด การตัดสินใจ ยกตัวอย่างเช่น งานเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ งานที่จ�ำเป็นต้องเก็บประวัติการท�ำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ใน การสืบข้อมูลย้อนกลับ หรือตรวจสอบความถูกต้อง ยกตัวอย่างเช่น งานเก็บประวัติการรักษาทางการแพทย์ งานเก็บประวัติข้อมูล การถ่ายโอนสินทรัพย์ที่มีมูลค่า งานที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายกรณีมีตัวกลางร่วมในการบริหารจัดการระบบ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ได้กับหลายหน่วยงานที่มีการใช้บุคลากร หรือสาขา ของส�ำนักงานในการด�ำเนินงานเป็นจ�ำนวนมาก ความผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ (Human Error) เนื่องจากการสร้าง Smart Contract คือ การเขียนโปรแกรม และก�ำหนดขั้นตอนการท�ำงาน ดังนั้นหากมีการทดสอบไม่เพียงพอ Smart Contract ที่สร้างขึ้นสามารถ ท�ำงานผิดพลาดได้ โดยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจสร้างความเสียหาย และส่งผลกระทบในวงกว้าง ถึงแม้SmartContractจะมีจุดเด่น และความเหมาะสมกับการน�ำไปใช้ ในงานประเภทต่าง ๆ ดังได้กล่าวมา แล้วข้างต้น แต่อย่างไรก็ดีหากมี การน�ำ Smart Contract ไปใช้งาน ก็ยังจ�ำเป็นที่จะต้องพิจารณาข้อจ�ำกัด ดังต่อไปนี้ร่วมด้วย BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 56
  • 57. ความยากต่อการเปลี่ยนแปลง (Immutable) หรือปรับปรุงเวอร์ชัน ของ Smart Contract เนื่องจาก Smart Contract และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้ท�ำการลงทะเบียน และมีการเชื่อมต่อกับระบบที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย แล้ว ดังนั้นหากมีการเปลี่ยนแปลง Smart Contract ส่งผลให้ต้องมี การเปลี่ยนแปลงการเชื่อมต่อกับระบบที่เกี่ยวข้องใหม่ทั้งหมด ความเชื่อมั่น (Confidence) เนื่องจากในปัจจุบันยังขาดการรับรอง ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการธุรกรรมผ่าน Smart Contract ค่าใช้จ่าย (Cost) เนื่องจากการพัฒนา Smart Contract และส่วนเชื่อมต่อ กับระบบอื่นที่เกี่ยวข้อง จ�ำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีประสบการณ์สูง ในการด�ำเนินการดังกล่าว ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการส�ำหรับ กระบวนการดังกล่าวสูงขึ้นตามไปด้วย บทน�ำ 57
  • 58. ระบบ/บริการอัตโนมัติ (Decentralized Autonomous Systems/Services) ระบบ/บริการอัตโนมัติ ถูกมองว่าเป็นพัฒนาการขั้นสูงสุดส�ำหรับการพัฒนา Application บนเทคโนโลยี Blockchain คือ การท�ำให้คอมพิวเตอร์สามารถ คุยกันเองเพื่อบริหารกิจการได้เองแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องอาศัยการตัดสินใจ ของมนุษย์ หรือไม่ต้องมีมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่เรียกว่า “องค์กรอัตโนมัติ กระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization: DAO) โดยการแปลงสัญญาและข้อตกลงทั้งหมดขององค์กรหรืออะไรก็ตาม ให้อยู่ในรูปแบบของ “สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts)” แต่อย่างไรก็ดี สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) ก็เป็นเพียงแค่ชุดค�ำสั่งทางคอมพิวเตอร์ เท่านั้น ซึ่งในทางปฏิบัติไม่ได้มีศักยภาพใด ๆ ที่จะท�ำหน้าที่ในการผลิตสินค้า เขียนโค้ดหรือกวาดถนนดังนั้นการที่องค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์(Decentralized Autonomous Organization: DAO) จะเกิดผลสัมฤทธิ์ในเชิงปฏิบัติได้นั้น BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 58
  • 59. จึงจ�ำเป็นต้องมี “ผู้รับเหมา (Contractor)” โดย DAO จะเปิดให้ใครก็ได้ส่ง “ข้อเสนอ” (Proposal) ที่จะพัฒนา/ผลิตสินค้าหรือบริการเข้ามา ข้อเสนอ เหล่านี้ต้องอยู่ในรูปของสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) แนบด้วยข้อเสนอ ในรูปภาษาธรรมดา จากนั้นข้อเสนอต่าง ๆ จะถูกตรวจสอบว่าขัดแย้งกับ ผลประโยชน์ของ DAO หรือไม่ และมีคุณสมบัติครบตามที่ DAO ระบุหรือไม่ จากนั้นข้อเสนอของผู้รับเหมาที่ผ่านการพิจารณาจะถูกเติมเข้าไปในรายชื่อบัญชี ที่มีสิทธิได้รับเงินจาก DAO ทั้งนี้องค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์ (Decentralized Autonomous Organization: DAO) เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะ เมื่อเป็นการพัฒนาควบคู่กันไประหว่างเทคโนโลยี Blockchain และปัญญา ประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) (สฤณี อาชวานันทกุล (2016)) บทน�ำ 59
  • 61. ปัจจุบันการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐมีแนวโน้ม สูงขึ้นอย่างมาก โดยพบว่ามีมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ยกตัวอย่างเช่น เอสโตเนีย แคนาดา อังกฤษ บราซิล จีน และอินเดีย เริ่มมีการศึกษา ทดลอง รวมไปถึง การพัฒนา จนน�ำไปสู่การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการ ภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรมดังแสดงในรูปภาพที่ 14 (โดยรายละเอียดการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐแยกตามประเทศ ดังปรากฎในเอกสาร แนบท้ายที่ 1) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 61
  • 62. Canada Finland Estonia Ukrain Georgia Switzerland Tunisia, Senegal Sweden Denmark UK Digital Currency/Payment Land Registration Voting (Elections) Identity Management Supply Chain Traceability Health Care Voting (Proxy) Corporate Registration Taxation Entitlements Management Malta Ghana Brazil Peru Texas HHS, FDA Nasdaq Delaware New York Illinois Uganda, Tanzania South Africa Kenya, Nigeria, Dubai UAE India China South Korea Japan Taiwan Hong Kong Australia Cambodia Indonesia Singapore Russia Luxembourg รูปภาพที่ 14: การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐของประเทศต่าง ๆ ที่มา: ปรับปรุงจาก (Deloitte, 2018) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 62
  • 63. รูปภาพที่15:ผลการส�ำรวจความคาดหวังในการน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้ในภาครัฐ ที่มา: ปรับปรุงจาก (Holgate, 2018) On the Radar but No Action Plan In Short-Term Planning/ Actively Experimenting In Medium or Long-Term Planning No Interest Have Already interested and Deployed ซึ่งมีความสอดคล้องกับรายงานผลการส�ำรวจความคิดเห็นของ CIO ส่วนใหญ่ ดังแสดงในรูปภาพที่ 15 พบว่าความเห็นของ CIO ส่วนใหญ่ตระหนักและให้ ความส�ำคัญกับการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐ เป็นอย่างมาก โดยพบว่า 22% ของหน่วยงานภาครัฐได้มีการวางแผนทั้งในระยะสั้น และระยะยาวในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน รวมถึงมีความสนใจ ในการน�ำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งาน และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ สูงถึง 42% ทั้งนี้วัตถุประสงค์ของการน�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ งานบริการภาครัฐในต่างประเทศ เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 63
  • 64. ในการเข้าถึงสวัสดิการและบริการต่างๆ ของภาครัฐด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchainสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพ ระบบการลงทะเบียน (Registration System) เพื่อแจกจ่ายสวัสดิการภาครัฐ ให้กับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้นอีกทั้งการท�ำงานร่วมกับระบบ พิสูจน์ตัวตน (Identity Management) บนเทคโนโลยี Blockchain สามารถช่วย ลดขั้นตอน และการใช้ส�ำเนาเอกสารใน การพิสูจน์ตัวตนได้ ท�ำให้ประชาชนได้ รับความสะดวกและรวดเร็วในการได้รับ บริการ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษ ได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน การให้ความช่วยเหลือ และการบริการประชาชน Social Welfare 1 การจ่ายเงินสวัสดิการภาครัฐต่าง ๆ โดย ประชาชนจะได้รับเงินโดยตรงผ่านทาง Digital Wallet ของพวกเขา ซึ่งช่วยลด ค่าธรรมเนียมธนาคาร และลดโอกาส ในการทุจริตจากหน่วยงานท้องถิ่นลงได้ ท�ำให้เกิดความโปร่งใส และสามารถ ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินของภาครัฐได้ วัตถุประสงค์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 64
  • 65. 2 การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการบริหารงานภาครัฐ หรือ ที่รู้จักกันในชื่อระบบ e-Government ซึ่งเป็นแนวคิดที่รัฐบาลทั่วโลก ก�ำลังให้ความส�ำคัญอยู่ในขณะนี้ สามารถช่วยให้เกิดการพัฒนา รัฐบาลดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไปในอนาคตซึ่งจะเป็นประโยชน์ ทั้งภาครัฐ และภาคประชาสังคม ในการช่วยลดต้นทุน ความยุ่งยาก ซับซ้อน และช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึง บริการภาครัฐ อีกทั้งยังท�ำให้เกิดกระบวนการที่น่าเชื่อถือส�ำหรับ การแบ่งปันข้อมูลภาครัฐ รวมถึงการพัฒนากระบวนการตรวจสอบ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลภาครัฐ ท�ำให้เกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้ ลดการทุจริตคอร์รัปชัน การเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบริหารงานภาครัฐ e-Government การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 65
  • 66. ยกตัวอย่างเช่น ประเทศเอสโตเนีย ซึ่ง ได้ชื่อว่ามีระบบe-Governmentที่ดีที่สุด ในโลก อีกทั้งยังเป็นประเทศแรก ๆ ที่ได้ น�ำเทคโนโลยี Blockchain และบริการ ดิจิทัลมาใช้ในการบริหารประเทศแบบ เต็มตัว เพื่อน�ำประเทศไปสู่สังคมดิจิทัล โดยการบริการภาครัฐเกือบทุกประเภท อยู่บนระบบออนไลน์ที่มีชื่อว่า e-Estonia ซึ่งประกอบไปด้วย e-Service ต่าง ๆ มากมาย เช่น e-Residency, e-Court, Electronic Land Register, Electronic Health Care Record และ i-Voting ประเทศเอสโตเนียมีการลงทุนด้านระบบ e-Government มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2000 โดยเริ่มจากระบบภาษีออนไลน์ (e-Tax Board) และระบบบริการจอดรถผ่าน ออนไลน์ (e-Parking) จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2001 เริ่มท�ำโครงการ X-Road หรือทางเชื่อมข้อมูลภาครัฐ โดยท�ำการ เชื่อมข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ในประเทศเอสโตเนียเข้าด้วยกัน และ พัฒนาระบบดังกล่าวเรื่อยมาจนX-Road กลายเป็นกระดูกสันหลังส�ำคัญของงาน บริการภาครัฐของประเทศเอสโตเนีย BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 66
  • 67. ในยุคปัจจุบันรัฐบาลของหลายประเทศ ทั่วโลกก�ำลังก้าวเข้าสู่การเป็นรัฐบาล ดิจิทัล โดยการน�ำเทคโนโลยีและ นวัตกรรมมาใช้ในการบริหารประเทศ กันมากขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว น�ำมาซึ่งความคาดหวังจากประชาชน ที่ต้องการได้รับการบริการที่ดีขึ้น ทั้งใน เรื่องของความสะดวกรวดเร็ว รวมถึง ความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นนอกจากเทคโนโลยี Blockchain จะสามารถเข้ามาช่วยในเรื่องของการเพิ่ม ประสิทธิภาพในการบริหารงานภาครัฐ และการให้ความช่วยเหลือและการให้ บริการประชาชน ในการเข้าถึงสวัสดิการ และบริการของภาครัฐดังได้กล่าวมา แล้วนั้น เทคโนโลยี Blockchain ยังได้ การสร้างความโปร่งใส Transparency 3 ถูกน�ำมาใช้เพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับ การด�ำเนินงานของภาครัฐอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น ได้น�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ การแลกเปลี่ยนข้อมูลในกระบวนงาน จัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ เพื่อสร้าง ความปลอดภัยในการแชร์ข้อมูลภาครัฐ รวมถึงเป็นการสร้างความโปร่งใส ตรวจสอบการใช้จ่ายเงินภาครัฐได้ (Chase, 2017) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 67
  • 68. ปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์ ถือได้ว่า เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ที่สร้าง ผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ และหนึ่งในเป้าหมายของการถูกโจมตี ก็คือระบบโครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญของ ประเทศแต่ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain ที่ยากต่อการถูกโจมตีโดย แฮกเกอร์ 4 การรักษาความมั่นคง National Security BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 68
  • 69. จึงท�ำให้รัฐบาลหลายประเทศสนใจ ท�ำการศึกษาการน�ำเทคโนโลยีดังกล่าว มาใช้เพื่อการรักษาความปลอดภัยระบบ โครงสร้างพื้นฐานที่ส�ำคัญของประเทศ ยกตัวอย่างเช่น ประเทศอังกฤษได้มี การพัฒนาโครงการBlockchain-Based Cybersecurity Services for Critical British โดยน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการป้องกันระบบโครงสร้าง พื้นฐานส�ำคัญของประเทศเพื่อประโยชน์ ในการรักษาความมั่นคงของชาติ สร้างความมั่นคงปลอดภัย และความ น่าเชื่อถือให้กับระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่ส�ำคัญของประเทศยกตัวอย่างเช่นระบบ ป้องกันน�้ำท่วม ระบบควบคุมพลังงาน นิวเคลียร์ รวมถึงระบบการจ่ายกระแส ไฟฟ้า เป็นต้น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 69
  • 70. ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐ ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ในงานบริการภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อการจัดเก็บ ข้อมูลนั้นสามารถสร้าง ความโปร่งใส Transparency โดยการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ เป็น การเปิดโอกาสให้ประชาชน มีสิทธิเป็น เจ้าของข้อมูลของตนเองอย่างแท้จริง รวมไปถึงโอกาสในการเข้าถึงข้อมูล ภาครัฐต่างๆได้ง่ายขึ้นยกตัวอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกาได้มีกฎหมาย เสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร (Freedom ofInformationAct:FOIA)โดยก�ำหนด ให้หน่วยงานภาครัฐจะต้องเปิดเผย ข้อมูลภาครัฐให้กับประชาชนตามที่มี การร้องขอโดยไม่รีรอ รวมไปถึงยุโรป ก็มีกฎหมายในท�ำนองนี้ด้วยเช่นกัน แต่ อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีกฎหมายดังกล่าว แต่การบังคับใช้กฎหมายก็ยังไม่ค่อยมี ประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งโดยส่วนใหญ่ 1 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 70
  • 71. ข้อมูลที่ถูกร้องขอนั้นยังต้องใช้เจ้าหน้าที่ รัฐในการพิจารณาว่าข้อมูลดังกล่าวควร เปิดเผยหรือไม่ รวมถึงการท�ำให้ข้อมูล ดังกล่าวอยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมต่อ การเปิดเผย ดังนั้นเมื่อมีการร้องขอ ให้เปิดเผยข้อมูลตามกฎหมาย FOIA จึงท�ำให้เกิดความล่าช้าขึ้น ทั้งนี้การน�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อให้ ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลภาครัฐได้ สามารถท�ำให้เกิดความโปร่งใส และ เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วย “เสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร(FOIA)”โดย มีข้อแม้ว่าการเปิดให้ประชาชนสามารถ เข้าถึงข้อมูลภารัฐได้นั้นจะต้องไม่ละเมิด ความเป็นส่วนตัว หรือไม่ละเมิดข้อมูล ส่วนบุคคล โดยจะต้องมีการออกแบบ ระบบที่ดีเพื่อให้มั่นใจว่ามีการปกปิด ตัวตน หรือข้อมูลต้องไม่สามารถระบุ ตัวตนได้ (Anonymous) อีกทั้งยังช่วย ลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐในการที่จะต้อง บันทึก และจัดเก็บข้อมูลหลาย ๆ ครั้ง ส�ำหรับแต่ละหน่วยงาน โดยข้อมูล ดังกล่าวสามารถถูกบันทึกอัตโนมัติ โดยใช้ฟอร์มที่มีการออกแบบไว้ ซึ่ง แบบฟอร์มดังกล่าวจะต้องมีการปกปิด หรือซ่อนข้อมูลที่มีความอ่อนไหวเอาไว้ ซึ่งในปีค.ศ.2016รัฐบาลประเทศอังกฤษ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 71
  • 72. ได้จัดท�ำรายงานขึ้นมาฉบับหนึ่งเกี่ยวกับ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลเกี่ยวกับเงินบ�ำนาญ (State Pensions) ข้อมูลความช่วยเหลือจาก ต่างประเทศ (Foreign Aid) ข้อมูล ค่าใช้จ่ายทั่วไปของรัฐบาล (General Government Expenditure) โดย หน่วยงานภาครัฐสามารถเขียนข้อมูล เกี่ยวกับการใช้จ่ายต่างๆลงบนLedger และLedgerดังกล่าวสามารถถูกกระจาย ไปยังทุกคนได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความ โปร่งใสและความรับผิดชอบเนื่องจาก การหลอกลวงหรือการปลอมแปลงใดๆ จะถูกตรวจสอบโดยประชาชนได้ การป้องกันการปลอมแปลง Tamper-Proof การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐสามารถ ช่วยสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือ ให้กับข้อมูลหรือเอกสารที่ถูกบันทึกเข้าสู่ ระบบ Blockchain แล้วจะไม่สามารถ ถูกเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ดังนั้นถึงแม้ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน 2 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 72
  • 73. การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐจะสามารถช่วย สร้างความโปร่งใส โดยการเปิดโอกาส ให้ประชาชนมีสิทธิเป็นเจ้าของข้อมูล ของตนเองอย่างแท้จริง รวมไปถึง โอกาสในการเข้าถึงข้อมูลภาครัฐต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการจะน�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐนั้น นอกจาก เรื่องของการสร้างความโปร่งใส และ ความปลอดภัยของข้อมูลแล้ว ยังจ�ำเป็น ต้องค�ำนึงถึงเรื่องของต้นทุน รวมถึง ค่าใช้จ่ายส�ำหรับการบริหารจัดการควบคู่ ไปกับเรื่องของความปลอดภัยร่วมด้วย ในการตัดสินใจ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 73
  • 74. ข้อจ�ำกัดของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐ ถึงแม้เทคโนโลยี Blockchain จะมีประโยชน์ในเรื่องของความปลอดภัยสูง และยากต่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขหากน�ำมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ แต่ก็มี ข้อควรระวังหากจะน�ำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐดังต่อไปนี้ 1 สิทธิส่วนบุคคล The Right to Privacy การที่ข้อมูลใดๆเมื่อถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ Blockchain แล้วจะไม่สามารถลบออก หรือแก้ไขได้ จึงอาจเป็นข้อจ�ำกัดของ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งาน เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ (Government Record Keeping) ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิในความเป็นส่วนตัว (The Right to Privacy) โดยเฉพาะ อย่างยิ่งเมื่อ EU ได้มีการออกกฎหมาย The General Data Protection Regulation: GDPR ว่าด้วยเรื่อง สิทธิในการเป็นเจ้าของข้อมูล โดย ประชาชนมีสิทธิร้องขอให้ลบข้อมูล ของตนเองออกจากระบบใด ๆ ได้ (Right to be Forgotten) ดังนั้นการที่ไม่ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 74
  • 75. สามารถลบข้อมูลที่ถูกบันทึกเข้าสู่ระบบ Blockchain ไปแล้วนั้น อาจจะเป็นได้ ทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีคือเหมาะแก่ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ใน เรื่องของการจัดเก็บข้อมูล (Record Keeping) ส�ำหรับข้อมูลที่ต้องการ ความถูกต้องสูง และไม่ต้องการให้เกิด การเปลี่ยนแปลงแก้ไข เช่น ข้อมูลการ 2 ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่หากน�ำไป จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะ ในยุโรปที่มีการใช้กฎหมาย GDPR ว่าด้วยเรื่องของสิทธิในการร้องขอให้ ลบข้อมูลของตนเองออกจากระบบได้ (Right to be Forgotten) จึงอาจเป็น ประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไป ลิขสิทธิ์ Copyright การน�ำเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ใน การจัดเก็บข้อมูลอาจจะมองได้ 2 มุม คือ ในมุมของเจ้าของลิขสิทธิ์ และผู้ละเมิด ลิขสิทธิ์ ซึ่งหากมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ ละเมิดลิขสิทธิ์เข้าสู่ระบบ Blockchain แล้วจะไม่สามารถลบออกจากระบบได้ ดังนั้นจึงต้องมีความระมัดระวังใน การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์ นอกจาก ประเด็นดังกล่าวแล้วหากมีการ เผยแพร่ข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ เข้าสู่ระบบ Blockchain แล้วจะท�ำให้ เจ้าของลิขสิทธิ์ยากต่อการตรวจสอบ ผู้กระท�ำผิดเนื่องจากหลักการปกปิดตัวตน (Anonymous) ยกตัวอย่างเช่น ในยุโรป และสหรัฐอเมริกาISP(InternetService Provider) ส่วนใหญ่ พบกับปัญหา การน�ำเข้าข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยผู้ใช้งานของตน ดังนั้นจึงได้มีการ ออกกฎหมายขึ้นมา 2 ฉบับ เพื่อคุ้มครอง ISP ดังนี้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 75
  • 76. The Digital Millennium Copyright Act (DMCA) ซึ่งเป็นเครื่องมือส�ำคัญในการขับเคลื่อน เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยกฎหมาย DMCA ได้ปกป้องสิทธิ์ของ ISP และ Webhost ต่าง ๆ ไว้ โดยมีการแจ้งเตือน เกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ หากมีการ ตรวจพบ ISP สามารถที่จะลบหรือ ระงับการเข้าถึงข้อมูล หรือสิ่งอื่นใดที่ ได้รับการยืนยันว่ามีการละเมิดลิขสิทธิ์ จึงเป็นประเด็นที่ต้องมีความระมัดระวัง ในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลที่มีลิขสิทธิ์ เนื่องจากหากมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ ละเมิดลิขสิทธิ์เข้าสู่ระบบ Blockchain จะไม่สามารถลบออกจากระบบได้ รวมถึงความยากต่อการตรวจสอบ ผู้กระท�ำผิดเนื่องจากหลักการปกปิด ตัวตน(Anonymous)หากมีการเผยแพร่ ข้อมูลที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์เข้าสู่ระบบ Blockchain The Online Copyright Infringement Liability Limitation Act BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 76
  • 77. การเซ็นเซอร์ข้อมูล Censorship ประเด็นเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์ข้อมูล โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่ท�ำ หน้าที่ก�ำกับดูแลเรื่องต่าง ๆ รวมถึงการกระท�ำผิดกฎหมาย จะท�ำให้ ตรวจสอบได้ยากขึ้นหากข้อมูลดังกล่าวถูกจัดเก็บโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อหน่วยงานด้านความมั่นคง 3 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 77
  • 78. จากข้อจ�ำกัดดังกล่าวข้างต้น หน่วยงานภาครัฐของต่างประเทศ ส่วนใหญ่จึงน�ำ Private Blockchain มาใช้ส�ำหรับการเก็บข้อมูล (Record Keeping) ของหน่วยงานภาครัฐมากกว่า Public Blockchain อีกทั้งด้วยข้อจ�ำกัด ของ Public Blockchain ที่จ�ำเป็น ต้องใช้ Node จ�ำนวนมากเพื่อท�ำหน้าที่ เป็น Miner ในการช่วย Validate Transaction จึงท�ำให้การประมาณ การต้นทุนที่แท้จริงในการลงทุน โดยเฉพาะด้าน Hardware นั้นเป็นไป ได้ยาก แต่อย่างไรก็ดีค่าใช้จ่ายในการ Maintenance Blockchain โดยเฉพาะ อย่างยิ่งPublicBlockchainเช่นBitcoin ถือได้ว่ามีต้นทุนสูง เมื่อเทียบกับระบบ แบบรวมศูนย์ (Centralized System) ที่ลงทุนเพียงแค่เครื่องเซิร์ฟเวอร์ และ เครื่องแบ็กอัพหรือเครื่องส�ำรองข้อมูล เท่านั้น แต่ใน Public Blockchain นอกจากเรื่อง Hardware แล้ว ยังจ�ำเป็น ต้องมีการให้ผลตอบแทนกับ Miner ในการท�ำการตรวจสอบ (Validation) เพื่อให้ระบบ Blockchain นั้นสามารถ ด�ำเนินการต่อไปได้ อีกทั้งในการด�ำเนิน การของระบบ Blockchain โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง Public Blockchain จ�ำเป็น ต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลเทียบเท่า กับการใช้พลังงานในเมืองที่มีประชากร 1.5 แสน ถึง 10 ล้านคน ขึ้นอยู่กับ ประสิทธิภาพของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล และกระบวนการในการท�ำ Consensus รวมถึงการกระจาย Ledger แต่อย่างไร ก็ดีหากจะมีการน�ำ Private Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐนั้นหากสามารถ ควบคุมขนาดของเครือข่าย Blockchain ไม่ให้ใหญ่เท่า Public Blockchain ก็จะสามารถช่วยลดต้นทุนดังกล่าวลงได้ ถึงกระนั้นต้นทุนของการบริหารจัดการ และการลงทุนในเทคโนโลยีBlockchain ก็ยังมีมูลค่าสูงกว่าระบบแบบรวมศูนย์ (Centralized System) ที่ใช้ในปัจจุบัน อยู่ดี นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนข้อมูล ที่เคยจัดเก็บอยู่บนระบบเดิมขึ้นสู่ ระบบ Blockchain ยังต้องมีขนาดที่ เพียงพอเพื่อรองรับจ�ำนวนประชากร ทั้งหมดได้ ซึ่งอาจจะต้องใช้เงินลงทุน BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 78
  • 79. จ�ำนวนมหาศาล ถึงแม้จะปรับมาใช้ Private Blockchain ที่อาจมีความ น่าเชื่อถือน้อยกว่าแล้วก็ตาม ดังนั้นการจะน�ำเทคโนโลยีBlockchain มาใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ นอกจาก เรื่องของการลงทุนที่สูงแล้ว อาจยัง ต้องค�ำนึงถึงประเด็นเกี่ยวกับความยาก ต่อการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลเมื่อถูก จัดเก็บเข้าสู่ระบบ Blockchain แล้ว โดยข้อมูลที่เหมาะสมกับการจัดเก็บโดย เทคโนโลยี Blockchain จึงไม่ควรเป็น ข้อมูลที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไข บ่อย ๆ แต่เหมาะกับข้อมูลที่ต้องการ ความปลอดภัยสูง ซึ่งหากพิจารณาใน แง่ของการลงทุนและค่าใช้จ่ายในการ บริหารจัดการระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ รวมศูนย์ (Centralized Database) อาจมีความสมเหตุสมผลมากกว่าใน การจัดเก็บข้อมูลภาครัฐ แต่อย่างไรก็ดี หากพิจารณาในแง่ของความปลอดภัย การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ส�ำหรับการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐอาจมี ความเหมาะสมมากกว่า ดังนั้นการจะน�ำ เทคโนโลยีBlockchainมาใช้ส�ำหรับการ จัดเก็บข้อมูลภาครัฐจึงจ�ำเป็นต้องค�ำนึง ถึงเรื่องของต้นทุน รวมถึงค่าใช้จ่าย ส�ำหรับการบริหารจัดการ ควบคู่ไปกับ เรื่องของความปลอดภัยร่วมด้วยในการ ตัดสินใจ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 79
  • 80. รูปแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ แนวคิดของรัฐบาลดิจิทัล คือ การน�ำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อพัฒนาการบริหาร จัดการภาครัฐ รวมถึงการให้บริการประชาชนที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ดีการด�ำเนิน การดังกล่าวนั้นจะต้องมีความมั่นคงปลอดภัย โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain สามารถตอบสนองความต้องการ ดังกล่าวได้ ด้วยหลักการท�ำงานแบบ Distributed Ledger Technology และ Cryptography จึงท�ำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้ถูกจัดเก็บด้วยเทคโนโลยี Blockchain นั้นมีความมั่นคงปลอดภัย ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ดังนั้นหน่วยงานภาครัฐ ของหลาย ๆ ประเทศจึงได้หันมาให้ความสนใจศึกษาถึงหลักการ และแนวทางการ ประยุกต์ใช้ จนน�ำไปสู่การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ อย่างเป็นรูปธรรมกันมากขึ้น ดังแสดงในตารางที่ 2 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 80
  • 81. Countries Blockchain Applications Estonia United State China India Dubai: United Arab Emirates Taiwan Sweden Australia Gana Georgia Japan Luxembourg Malta Norway Switzerland Ukraine Republic of Georgia Finland Singapore Peru Government Data Record Management Asset Register (Land Registry, Vehicle Registry)           e-Voting   Medical Record (e-Health)      Digital Certificate (Birth Record, Education Certificate)   Identity Management Individual Identity (e-Identity, Citizen I dentification, eID)          Transaction Traceability Supply Chain for Traceability (Food Safety, Pharmaceutical)    Tax Compliance and Custom for Fraud Traceability      ตารางที่ 2: ตารางแสดงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐในต่างประเทศ การประยุ ก ต์ ใ ช้ เ ทคโนโลยี Blockchain เพื ่ อ งานบริ ก ารภาครั ฐ กรณี ศ ึ ก ษาต่ า งประเทศ 81
  • 82. จากข้อมูลในตารางที่ 2 เป็นการสรุปตัวอย่างเพียงบางส่วนของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐของประเทศต่าง ๆ ซึ่งเมื่อท�ำการจัดกลุ่ม จะสามารถจ�ำแนกออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกันดังแสดงในรูปภาพที่ 16 รูปภาพที่ 16: การจัดกลุ่มการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับงานบริการภาครัฐ การพิสูจน์ตัวตน Identity Management การยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตน (Identity Management) นั้น เป็นกระบวนการที่มีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจ�ำวันในหลาย ๆ ด้านด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการท�ำธุรกรรมกับทางธนาคารการเข้ารับบริการและสวัสดิการต่างๆ ของภาครัฐ รวมไปถึงการด�ำเนินการทางธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องมีความ เกี่ยวข้องกับการยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตนทั้งสิ้น ยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่เป็นยุคของเทคโนโลยีด้วยแล้วนั้น การยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตน นั้นยิ่งมีความส�ำคัญมากยิ่งขึ้น การยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ตัวตนใน ปัจจุบันส่วนใหญ่ยังเป็นการใช้รหัสผ่าน(Password-BasedSystems)เป็นหลัก อีกทั้งยังเป็นระบบที่ต้องอาศัยคนกลางคอยท�ำหน้าที่ในการบริหารจัดการ การติดตามธุรกรรม (TheTransaction Traceability) การพ�สูจนตัวตน (Identity Management) การบร�หารจัดการ การจัดเก็บขŒอมูล (DataRecord Management) Government Blockchain BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 82
  • 83. ข้อมูลดังกล่าว โดยท�ำการจัดเก็บข้อมูลไว้ที่ศูนย์กลาง ซึ่งระบบดังกล่าวมี ความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีเข้าระบบเพื่อจารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล (Identity Theft)และน�ำข้อมูลดังกล่าวไปขายให้กับอาชญากรเพื่อสวมรอยเป็นบุคคลนั้นๆ หรือน�ำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อกระท�ำความผิดอื่นใดได้ แต่ด้วยคุณสมบัติการ ท�ำงานของเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นระบบแบบกระจายศูนย์ (Distributed Computing)และมีการจัดเก็บข้อมูลแบบSharedDatabaseซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบ การบันทึกข้อมูลที่รับประกันความปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อนหน้านั้น ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ โดยทุก ๆ ผู้ใช้งานจะได้เห็นข้อมูล ชุดเดียวกันทั้งหมด จึงท�ำให้เกิดความสะดวกในการตรวจสอบ และบริหาร จัดการการยืนยันตัวบุคคลหรือการพิสูจน์ อีกทั้งยังมีความปลอดภัยและ มีประสิทธิภาพอีกด้วย การท�ำงานของระบบยืนยันหรือพิสูจน์ตัวตนบนเทคโนโลยี Blockchain ดังแสดงในรูปภาพที่ 17 ใช้หลักการ “Self-Sovereign Identity” คือ การที่ประชาชน หรือองค์กรสามารถที่จะสร้างและจัดเก็บข้อมูลประจ�ำตัวของตนไว้บนอุปกรณ์ ของตนเองได้ โดยไม่ต้องมีคนกลางมาท�ำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป ท�ำให้เกิดประสิทธิภาพในการตรวจสอบส�ำหรับผู้ที่ต้องการใช้ข้อมูลดังกล่าว อีกทั้ง ยังสามารถช่วยลดการใช้กระดาษลงได้โดยไม่จ�ำเป็นต้องถ่ายเอกสารหลักฐานส�ำคัญ เพื่อใช้ในการยืนยันตัวบุคคล ยกตัวอย่างเช่น บัตรประชาชน ส�ำเนาทะเบียนบ้าน สูติบัตร หรือเอกสารส�ำคัญทางราชการอีกต่อไป การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 83
  • 84. Strong Two-factor authentication SELF-SOVEREIGN IDENTITY MANAGEMENT Privacy Engine End user agrees which identity attributes are shared with third parties Government App store Cryptography Information is encrypted and saved on device Blockchain Data is timestamped, hashed, digitaly signed and added to the blockchain 2nd generation biometrics PIN code Public key Valid transaction are encoded,… and data is preserved on P2P network e-signature e-ID card e-voting e-cabinet e-services e-police e-welfare e-law Private key Personal Data Tamperproof crypto engine Encrypted data container Trusted Execution Environment (TEE) Name Age Certifications Third party 1 Third party 2 AUTHENTICATION TAMPERPROOF DIGITAL IDENTITY USER CENTRIC INTERFACE รูปภาพที่ 17: ระบบยืนยันและพิสูจน์ตัวตนบนเทคโนโลยี Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Parker, 2017) กรณีศึกษาที่ 1 ระบบพิสูจน์และยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ Citizen Identification รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐอิลลินอยส์แห่งประเทศสหรัฐ อเมริกาได้น�ำระบบIdentityManagement บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการ เก็บสูติบัตรของเด็กทารกแรกเกิด (Birth Registration) รวมถึงระบบพิสูจน์และ ยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์ (Citizen Identification)โดยทางรัฐบาลได้ท�ำงาน ร่วมกับบริษัทสตาร์ทอัพ Evernym โดยแพทย์และผู้ปกครองของเด็กทารก เกิดใหม่สามารถลงทะเบียนสูติบัตรบน BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 84
  • 85. ระบบ Blockchain ซึ่งถูกออกแบบมา เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล ของประชาชนในระยะยาว ท�ำให้รัฐบาล สามารถที่จะตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับ การเกิดของประชาชน รวมไปถึงข้อมูล ทางชีวภาพ (Biometric) อื่น ๆ ได้ เช่น กรุ๊ปเลือด ลายนิ้วมือ เสียง ม่านตา และดีเอ็นเอ โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูก เข้ารหัสพร้อมทั้งใช้ลายเซ็นดิจิทัล (Digital Signature) เซ็นก�ำกับและ หลังจากนั้นข้อมูลก็จะถูกเก็บไว้ใน Distributed Ledger ที่สามารถเข้าถึง ได้เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับ ระบบพิสูจน์ตัวตน และป้องกันการ โจรกรรมเอกลักษณ์บุคคล (Identity Theft)ได้โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มต้น จากการเก็บข้อมูลเด็กทารกแรกเกิด และเก็บข้อมูลทั้งหมดของประชาชน ในล�ำดับถัดมา การน�ำระบบ Identity ManagementบนเทคโนโลยีBlockchain มาใช้ในการเก็บสูติบัตรของเด็กทารก แรกเกิด (Birth Registration) นั้น เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ โครงการของ รัฐบาลรัฐอิลลินอยส์ที่ต้องการพัฒนา ระบบเทคโนโลยี Blockchain เพื่อน�ำ มาใช้ในชีวิตประจ�ำวันของประชาชน ให้มากขึ้น กรณีศึกษาที่ 2 ระบบการยืนยันตัวตนผู้ประสบภัย RefugeesIdentityManagement องค์การสหประชาชาติ (The United Nation: UN) นอกจากนี้ระบบIdentityManagement บนเทคโนโลยี Blockchain ยังได้ ถูกน�ำไปใช้เพื่อสนับสนุนภารกิจของ UN ซึ่งเป็นการร่วมมือระหว่างบริษัท Accenture และ Microsoft ในการ สร้างระบบการยืนยันตัวตนโดยใช้วิธี ตรวจสอบข้อมูลทางชีวภาพ (Biometric) ผ่านลายนิ้วมือและม่านตาโดยUNได้เริ่ม ใช้งานระบบดังกับผู้อพยพในเอเชีย 29ประเทศจ�ำนวน1.3ล้านคนและจะขยาย เป็น 7 ล้านคนในปี ค.ศ. 2020 รวมไปถึง โครงการอาหารโลก (World Food Program: WFP) แห่งสหประชาชาติ ยังได้น�ำระบบ Identity Management บนเทคโนโลยี Blockchain ไปใช้ในการ ยืนยันตัวตนของผู้อพยพหรือผู้ประสบภัย เพื่อรับคูปองแทนเงินสดส�ำหรับช่วยเหลือ ผู้อพยพ หรือประสบภัย โดยผู้รับคูปอง สามารถที่จะสแกนม่านตาของผู้ใช้คูปอง ท�ำให้ทางเจ้าของร้านที่เข้าร่วมรายการ สามารถแจกจ่ายอาหารให้กับทาง ผู้อพยพ ทั้งนี้การยกเลิกเงินสดแล้ว การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 85
  • 86. การบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูล Data Record Management หัวใจของการบริหารจัดการข้อมูลภาครัฐ คือ การบริหารจัดการความ น่าเชื่อถือของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ บุคคล องค์กร สินทรัพย์ และกิจกรรมต่าง ๆ ของภาครัฐ นอกจากนี้ในการบริหารจัดการข้อมูลเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล การเกิดการตายสถานภาพการสมรสการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับการด�ำเนินธุรกิจ และการโอนสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติอาชญากรรม เป็นต้น ล้วนแล้วแต่มีต้นทุน และความยุ่งยากในการบริหารจัดการรวมถึงการน�ำไป ใช้งานทั้งสิ้น อีกทั้งข้อมูลบางอย่างยังไม่ถูกจัดเก็บอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะอยู่ในรูปแบบของแบบฟอร์มบนกระดาษ หากประชาชน ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อมูลก็จ�ำเป็นต้องไปด�ำเนินการด้วยตนเอง ณสถานที่ราชการที่เกี่ยวข้องนั้นๆแต่ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยีBlockchain ที่ใช้หลักการของ Distributed Ledger Technology (DLT) และ Cryptography ซึ่งช่วยให้การเข้าถึง และการเข้าใช้ข้อมูลภาครัฐ รวมถึงการบริหารจัดการ ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของข้อมูลภาครัฐท�ำได้ง่ายขึ้น ดังนั้นรัฐบาล ในหลายประเทศจึงมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ภาครัฐรวมถึงข้อมูลการลงทะเบียนเอกสารส�ำคัญที่ออกโดยหน่วยงานภาครัฐ ยกตัวอย่าง เช่น หันมาใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการ เยียวยาผู้อพยพหรือผู้ประสบภัยนั้น จะช่วยอุดรอยรั่วทางด้านการแจกจ่าย อาหาร และท�ำให้อาหารเหล่านั้นถึงมือ ผู้ประสบภัยได้อย่างครบถ้วน BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 86
  • 87. ข้อมูลการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (e-Voting) ข้อมูลประวัติการศึกษา (Educational Record) ข้อมูลประวัติการเกิด (Birth Record) ข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาล (Medical Record) ข้อมูลการลงทะเบียนสินทรัพย์ต่าง ๆ (Asset Register) กรณีศึกษาที่ 1 การขอจดทะเบียนที่ดิน Land Registry ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดียได้มีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการขอจดทะเบียน ที่ดิน (Land Registration) โดยที่ดิน ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูง ซึ่งบ่อยครั้ง มักเป็นสาเหตุของการเกิดกรณีพิพาท ปัญหาอาชญากรรม และการฉ้อโกง ดังนั้นการคุ้มครองสิทธิเหนือที่ดิน และ การถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน ส�ำหรับผู้ซื้อ จึงเป็นเรื่องส�ำคัญเนื่องจากประเด็น ดังกล่าวถือว่าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผล กระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการลงทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งปัญหา กรณีพิพาทเรื่องที่ดินมักเป็นปัญหา ที่เกิดขึ้นกับประเทศก�ำลังพัฒนาเป็น ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะประเทศอินเดีย จึงได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ในการขอจดทะเบียน/โอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินทรัพย์ที่มีสภาพ คล่องต�่ำยกตัวอย่างเช่นที่ดินซึ่งช่วยลด กระบวนการทางด้านเอกสารได้ อีกทั้ง ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการท�ำ ธุรกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 87
  • 88. กรณีศึกษาที่ 2 การจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล ประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย นครรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ นครรัฐดูไบได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บและ ส่งต่อข้อมูลประวัติการรักษาพยาบาล ของผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับกระบวนการรักษาพยาบาลสามารถ เข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัย โดย นครรัฐดูไบซึ่งเป็นหุ้นส่วนกับ NMC Healthcare ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UnitedArabEmirates:UAE)ได้มองเห็น ถึงความส�ำคัญดังกล่าว จึงได้ร่วมมือ กับบริษัท Guardtime ซึ่งเป็นบริษัท ผู้พัฒนาโซลูชันต่าง ๆ บนเทคโนโลยี Blockchain สัญชาติเอสโตเนีย ในการ น�ำระบบเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Health Records: EHR) บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ซึ่งการใช้งานระบบดังกล่าวช่วยให้ข้อมูล มีความถูกต้องปลอดภัย และเชื่อถือ ได้ตลอดกระบวนการที่เกิดขึ้นระหว่าง ผู้ให้บริการด้านสุขภาพและผู้ป่วย ท�ำให้ มั่นใจได้ถึงความถูกต้องของข้อมูล ที่ได้รับ ส�ำหรับผู้ป่วยที่มาปรึกษาแพทย์ ของ NMC Healthcare ก็สามารถได้รับ การบริการอย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน นอกจากนี้การเริ่มต้นโครงการ ดังกล่าวของNMCHealthcareสามารถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการท�ำงานโดย การสร้างกระบวนการที่มีความปลอดภัย ในการบันทึก จัดเก็บ และได้รับข้อมูล ประวัติการรักษาของคนไข้ นอกจาก การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ จัดเก็บข้อมูลดังกล่าวแล้วนั้นกระบวนการ ท�ำงานที่มีประสิทธิภาพยังสามารถช่วย เพิ่มประสิทธิภาพในการก�ำหนดแผนการ และตารางนัดหมายของคนไข้ อีกทั้ง ยังง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลสุขภาพของ ทั้งคนไข้และบุคลากรทางการแพทย์ อีกด้วย ซึ่งปัจจุบันประวัติการรักษา คนไข้ต่าง ๆ นั้นมักจะอยู่ในรูปแบบของ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 88
  • 89. กระดาษเป็นหลัก เช่น ผลการตรวจเลือด ผล X-Ray และอื่น ๆ อีกทั้งโรงพยาบาล ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีการแชร์ข้อมูลดังกล่าว ร่วมกัน ดังนั้นการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูล ประวัติการรักษาของคนไข้ท�ำให้สามารถ แชร์ข้อมูลดังกล่าวระหว่างโรงพยาบาลได้ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมั่นได้ถึงความ ถูกต้อง และปลอดภัยของข้อมูล ด้วย เทคโนโลยี Blockchain ที่มีรูปแบบ ของการบันทึกข้อมูลที่รับประกันความ ปลอดภัยว่าข้อมูลที่ถูกบันทึกไปก่อน หน้านั้นไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลง หรือแก้ไข โดยทุก ๆ ผู้ใช้งานจะได้เห็น ข้อมูลชุดเดียวกันทั้งหมดการท�ำงานของ Blockchain ใช้หลักการ Cryptography และความสามารถของ Distributed Computing เพื่อสร้างกลไกความ น่าเชื่อถือส�ำหรับการแชร์ข้อมูลเวช ระเบียนของผู้ป่วยระหว่างหน่วย งานให้บริการด้านสุขภาพ ซึ่งข้อมูล เวชระเบียนของผู้ป่วยนั้นถือเป็นข้อมูล ที่มีความละเอียดอ่อน นอกจากนี้การน�ำ เทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานนั้นจะช่วย ให้คนไข้สามารถเข้ารับการรักษาได้ ในทุกๆคลินิกและโรงพยาบาลโดยคนไข้ สามารถมั่นใจได้ว่าทุก ๆ สถานพยาบาล นั้นจะมีข้อมูลประวัติการรักษาของคนไข้ รายนั้น ๆ แล้ว ถึงแม้จะไม่เคยได้รับการ รักษาในสถานพยาบาลดังกล่าวมาก่อน ซึ่งในกรณีเร่งด่วนฉุกเฉินข้อมูลดังกล่าว จะมีประโยชน์ต่อการรักษาของคนไข้เป็น อย่างมาก และอาจสามารถช่วยรักษา ชีวิตของคนไข้เอาไว้ได้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 89
  • 90. กรณีศึกษาที่ 3: การออกใบ Certificate ให้กับเพชร นครรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นครรัฐดูไบได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการออกใบ Certificate ให้กับเพชร โดย The Dubai Multi Commodities Centre ได้น�ำ เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ใน การออกใบ Certificate ให้กับเพชร หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Kimberley Certificates5 ” เพื่อเป็นการลดปัญหา ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับเพชรโดยกระบวนการ คิมเบอร์ลีย์ คือ การให้รัฐบาลของแต่ละ ประเทศรับรองว่า เพชรส่งออกได้มา จากเหมืองและธุรกิจที่ถูกกฎหมาย และ ผู้ประกอบการที่มีใบรับรองเท่านั้น จึงจะสามารถน�ำเพชรเข้าสู่ตลาดโลกได้ เนื่องจากใบรับรองนี้จะมีรายละเอียด ของทุกขั้นตอนในการผลิตเพชร ตั้งแต่ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 90
  • 91. ออกจากเหมืองถึงผู้ค้าปลีก ประเทศ ที่ตกลงร่วมใน Kimberley Process จะไม่ได้รับอนุญาตให้ค้าขายกับประเทศ อื่นที่ไม่ใช่สมาชิก จึงเป็นที่เชื่อกันว่า โครงการนี้มีส่วนช่วยลดการรั่วไหลของ เพชรแห่งความขัดแย้งเข้าสู่ตลาดอัญมณี โลกได้อย่างมาก ทั้งนี้นครรัฐดูไบได้ชื่อว่าเป็น “City of Gold” หรือเมืองแห่งทองค�ำ ดังนั้น การส่งเสริมการค้าขาย การส่งออกและ น�ำเข้าทองค�ำรวมไปถึงอัญมณีอื่น ๆ จึงเป็นเรื่องส�ำคัญจนกระทั่งต้องตั้ง เขตธุรกิจเสรีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สินค้า 5 Kimberley Certificates คือ การรับรองเพชรตามกระบวนการคิมเบอร์ลีย์เพื่อป้องกันไม่ให้ เพชรแห่งความขัดแย้ง (Conflict Diamond) หรือที่รู้จักกันในชื่อเพชรสีเลือด (Blood Diamond) ซึ่งเป็นเพชรที่ได้จากเหมืองในพื้นที่ที่ถูกควบคุมโดยกลุ่มกบฏในประเทศเซียร์ราลีโอนซึ่งต่อต้าน รัฐบาลที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ กลุ่มกบฏขายเพชรนี้เพื่อได้เงินเป็นทุนซื้ออาวุธและ เสริมสร้างให้กองทัพแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ประเภททองค�ำ เพชร พลอยสีต่าง ๆ และโลหะมีค่าประเภททองค�ำขาว พัลลาเดียมเงินเป็นสินค้าที่มีการส่งออก และน�ำเข้าจากทวีปต่าง ๆ โดยมีนครรัฐ ดูไบเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น The Dubai Multi Commodities Centre จึงได้ น�ำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ ในการออก “Kimberley Certificates” เพื่อเป็นการลดปัญหาการข้อขัดแย้ง เกี่ยวกับเพชรอีกทั้งยังสามารถตรวจสอบ รายละเอียดของทุกขั้นตอนในการผลิต เพชร ตั้งแต่ออกจากเหมืองถึงผู้ค้า ปลีกได้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 91
  • 92. กรณีศึกษาที่ 4 การลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง i-Voting ประเทศเอสโตเนีย ประเทศเอสโตเนียได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับการลงคะแนน เสียงเลือกตั้ง หรือที่รู้จักกันในชื่อ i-Voting นั่นเอง โดยประเทศเอสโตเนีย มีการใช้ระบบการลงคะแนนแบบดิจิทัล (Digital Voting) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2005 และอนุญาตให้มีการลงคะแนนเสียงผ่าน ระบบออนไลน์ในปีค.ศ.2007ต่อมาในปี ค.ศ. 2015 จึงได้มีการน�ำระบบการลง คะแนนเสียงที่ท�ำงานอยู่บนเทคโนโลยี Blockchain โดยหลักการพื้นฐานของ ระบบ i-Voting ก็คือบัตรประชาชน ในรูปแบบดิจิทัล (Digital ID Card) ซึ่งประชาชนทุกคนในประเทศเอสโตเนีย จะต้องมี โดยในบัตรประชาชนจะ บรรจุข้อมูลที่ใช้ส�ำหรับยืนยันตัวบุคคล โดยข้อมูลดังกล่าวจะถูกเข้ารหัสไว้ เพื่อ ใช้ในการท�ำธุรกรรมออนไลน์ต่าง ๆ รวมไปถึงการลงคะแนนเสียงผ่านระบบ i-Voting ซึ่งเทคโนโลยี Blockchain จะถูกน�ำมาใช้ในขั้นตอนของการน�ำส่ง บัตรลงคะแนนโดยทุกๆบัตรลงคะแนน หลังจากได้รับการตรวจความถูกต้องตาม กระบวนการต่าง ๆ แล้ว จะต้องมีการ ประทับเวลา (Time Stamp) และข้อมูล ดังกล่าวจะถูกจัดเก็บบนระบบBlockchain เพื่อท�ำหน้าที่พิสูจน์การมีอยู่จริงของ บัตรลงคะแนนนั้น ๆ หรือที่เรียกว่า Proof of Existence คือการพิสูจน์การ มีอยู่จริงของเอกสารต่าง ๆ ประโยชน์ของการน�ำเทคโนโลยี Blockchainมาใช้กับการลงคะแนนเสียง เป็นอีกทางเลือกในการแก้ปัญหาการ ทุจริตการเลือกตั้ง จากการลงคะแนน ด้วยกระดาษซึ่งมีช่องโหว่มากมายที่จะ ท�ำให้เกิดการทุจริต แต่การใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการลงคะแนนเสียง สามารถช่วยลดโอกาสในการทุจริตลงได้ ท�ำให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรม มากขึ้น โดยอย่างยิ่งในการนับคะแนน เนื่องจากไม่สามารถท�ำการทุจริตในการ เลือกตั้งได้โดยไม่ทิ้งร่องรอยไว้ภายใต้ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 92
  • 93. ระบบ Blockchain อีกทั้งยังช่วยท�ำให้การเลือกตั้งมีความสะดวกมากขึ้น และ สามารถเข้าถึงผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงได้มากขึ้นจึงเป็นการส่งเสริมกระบวนการ ประชาธิปไตยอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ในแง่ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ของข้อมูล เทคโนโลยี Blockchain สามารถออกแบบการเข้ารหัสเพื่อปกปิดตัวตน รักษาความเป็นส่วนตัวและข้อมูลการมีส่วนร่วมทางการเมืองได้อีกด้วย ดังนั้น เทคโนโลยี Blockchain จึงกลายเป็นเทคโนโลยีส�ำคัญที่จะท�ำให้เกิดความโปร่งใส ในการลงคะแนนเสียงได้มากขึ้น การติดตามธุรกรรม Transaction Traceability การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับการตรวจสอบติดตามธุรกรรม แบบย้อนกลับทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Transaction Traceability) ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูลให้กับสมาชิกที่มี ความเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส (Transparency) ความเป็นกลาง (Neutrality) ความน่าเชื่อถือ (Reliability) และความมั่นคง ปลอดภัยของข้อมูล (Security) โดยการกระจายข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ และ ตรวจสอบได้ให้กับทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งแต่เดิมจะต้อง อาศัยคนกลางที่ได้รับความเชื่อถือจากทุกฝ่าย คอยเป็นคนบริหารจัดการข้อมูล ดังกล่าวโดยระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบรวมศูนย์(CentralizedSystem) ดังกล่าวนั้นง่ายต่อการถูกปลอมแปลงและทุจริตโดยเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลระบบ หากมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่ดังกล่าว เนื่องจากให้อ�ำนาจคนกลางในการบริหาร จัดการข้อมูล รวมถึงการถูกเจาะระบบ (Hacking) ซึ่งจะท�ำให้ข้อมูลใน ระบบไม่สามารถเชื่อถือได้อีกต่อไป ดังนั้นในปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ ในหลาย ๆ ประเทศจึงได้ให้ความสนใจและน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ กับการตรวจสอบติดตามธุรกรรมแบบย้อนกลับทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Transaction Traceability) ในหลาย ๆ กรณีด้วยกัน การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 93
  • 94. กรณีศึกษาที่ 1 Food Safety Traceability ประเทศจีน การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้ กับการตรวจสอบความปลอดภัยของ อาหารทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Food Supply Chain Traceability System) โดย ในยุคปัจจุบันความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) ก�ำลังเป็นประเด็นที่ ได้รับความสนใจทั้งในแวดวงวิชาการ ภาคธุรกิจ รวมไปถึงภาครัฐ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งความปลอดภัยด้านอาหาร ถูกจัดอยู่ในแผนเป้าหมายการพัฒนา อย่างยั่งยืน(SustainableDevelopment Goal: SDG) ซึ่งถูกพัฒนาโดยองค์การ สหประชาชาติ (The United Nation) ดังนั้นในทุก ๆ ภาคส่วนจึงได้มีความ พยายามในการคิดค้น และพัฒนา นวัตกรรมเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย ของอาหาร (Food Safety Traceability) 6 ระบบ HACCP คือ การวิเคราะห์อันตราย และจุดวิกฤติที่ต้องควบคุม หรือระบบ HACCP คือ ระบบการจัดการคุณภาพด้านความปลอดภัย ซึ่งใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิตให้ได้ อาหารที่ปราศจากอันตรายจากเชื้อจุลินทรีย์ สารเคมี และสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ โดยถือเป็น มาตรฐานสากลตามข้อก�ำหนดของคณะกรรมการโครงการมาตรฐานอาหาร FAO/ WHO (Codex Alimentarius Commission) ที่ประเทศต่าง ๆ สามารถน�ำไปเป็นแนวทาง ในการประยุกต์ใช้เพื่อสร้างความมั่นใจในอุตสาหกรรมอาหารทั้งโดยผู้ผลิต และผู้บริโภค ซึ่งถูกก�ำหนดโดย NASA ในปี 1960s บวกกับวิวัฒนาการของ IoT (Internet of Things) และเทคโนโลยี Blockchain ท�ำให้สามารถตรวจสอบความปลอดภัย ของอาหารได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต จนไปถึงมือผู้บริโภคได้อีกทั้งยังสามารถ ท�ำการตรวจสอบได้แบบ Real Time และเป็นไปตามมาตรฐาน HACCP6 (HazardAnalysisandCriticalControl Points) ยกตัวอย่างเช่น การปนเปื้อน สารพิษในนมผง อันเนื่องมาจากระบบ แบบรวมศูนย์ (Centralized System) ที่เอื้อให้เกิดการทุจริต(Corruption)และ การถูกโจมตีโดยแฮกเกอร์ (Hacking) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 94
  • 95. กรณีศึกษาที่ 2 Pharmaceutical Supply Chain Traceability ประเทศอินเดีย ประเทศอินเดียได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการท�ำ Supply Chain Traceability ในอุตสาหกรรมยา ในการติดตามค้นหายารักษาโรค ซึ่ง ท�ำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานยา (PharmaceuticalSupplyChain)สามารถ เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น และแจ้งเตือน เมื่อมีการปลอมแปลงยาเนื่องจากข้อมูล ได้รับการพิสูจน์ทราบตามเอกสารต่าง ๆ จึงท�ำให้สามารถระบุที่มาของยาแต่ละ ชนิดว่ามาจากโรงงานใดและเป็นไปตาม ที่ระบุเอาไว้หรือไม่นั่นเอง เพื่อป้องกัน การปลอมแปลงข้อมูล ท�ำให้เกิดความ โปร่งใสและเชื่อถือได้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 95
  • 96. กรณีศึกษาที่ 3: Industrial Hemp Supply Chain Traceability รัฐโคโลราโด แห่งประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐโคโลราโดแห่งประเทศสหรัฐ อเมริกาได้ร่วมมือกับ The Institute of CannabisResearchatColoradoState University - Pueblo (Institute) ในการ พัฒนาระบบตรวจสอบเส้นทางการ ซื้อขายกัญชารวมไปถึงผลิตภัณฑ์แปรรูป ต่างๆในอุตสาหกรรมกัญชา(Industrial Hemp) ตั้งแต่ผู้ผลิตไปจนถึงผู้ซื้อและ ผู้ขาย โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain รวมไปถึงการออกใบอนุญาตในการด�ำเนิน ธุรกิจเกี่ยวกับกัญชา ทั้งนี้การซื้อขาย กัญชาจะต้องเป็นการซื้อขายจากผู้ที่ได้ รับใบอนุญาตในการด�ำเนินธุรกิจเกี่ยวกับ กัญชาเท่านั้น ซึ่งการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในอุตสาหกรรม กัญชานั้นช่วยให้รัฐโคโลราโดสามารถ บังคับใช้กฎหมาย และการจัดเก็บรายได้ จากการท�ำอุตสาหกรรมกัญชาได้อย่าง มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมไปถึงสามารถ ช่วยตรวจสอบการกระท�ำความผิด อันเนื่องมาจากการซื้อขายกัญชาที่ ผิดกฎหมายจากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้รัฐโคโลราโดได้มีการออก กฎหมายที่ส�ำคัญว่าด้วยเรื่องการน�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการ ตรวจสอบการกระท�ำความผิดเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมกัญชา รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ ต่าง ๆ ที่มีส่วนผสมของกัญชาตั้งแต่ กระบวนการผลิตไปจนถึงกระบวนการ ซื้อขาย BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 96
  • 97. กรณีศึกษาที่ 4: Tax Compliance for EU-Cross Broader Trade to Prevent Fraud and Detection สหภาพยุโรป (European Union: EU) นอกจากการน�ำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ในการตรวจสอบ ย้อนกลับของการท�ำธุรกรรมต่าง ๆ แล้วยังได้มีการประยุกต์ใช้การตรวจสอบ ย้อนกลับของการท�ำธุรกรรมในเรื่อง ของภาษี ยกตัวอย่างเช่น สหภาพยุโรป (EuropeanUnion:EU)ได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการตรวจสอบเรื่อง ระบบภาษี ในการท�ำ Tax Refund ส�ำหรับการค้าขายระหว่างประเทศ สมาชิกEUด้วยกัน(TaxCompliancefor EU-Cross Broader Trade to Prevent Fraud and Detection) โดยสาระส�ำคัญ ของระบบดังกล่าวคือ การติดตาม ธุรกรรมการซื้อขาย ตั้งแต่โรงงานผลิต ไปจนถึงผู้ซื้อโดยมั่นใจได้ว่าทุกๆธุรกรรม จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้ รวมไปถึงเอกสารใบวางบิลหรือใบแจ้งหนี้ (Invoice) ซึ่งถือเป็นหลักฐานส�ำคัญ ในการขอท�ำ Tax Refund เมื่อมีการ ซื้อขายหรือน�ำเข้าสินค้าระหว่างประเทศ สมาชิกEUด้วยกันดังนั้นด้วยคุณสมบัติ ของเทคโนโลยี Blockchain ในเรื่อง ของความยากต่อการเปลี่ยนแปลง (Immutability) จึงได้ถูกน�ำมาใช้ในการ ตรวจสอบย้อนกลับของการท�ำธุรกรรม เพื่อป้องกันการทุจริตในรูปแบบต่าง ๆ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 97
  • 98. ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ นอกจากการศึกษารูปแบบและความเป็นไปได้ของการน�ำเทคโนโลยีBlockchain มาใช้ในงานบริการต่าง ๆ ของภาครัฐแล้ว แต่การจะผลักดันให้โครงการดังกล่าว สามารถบรรลุผลได้อย่างเป็นรูปธรรมจ�ำเป็นต้องอาศัยองค์ประกอบดังแสดง ในรูปภาพที่ 18 รูปภาพที่ 18: ปัจจัยความส�ำเร็จในการประยุกต์ใช้ เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐ การจัดตั้ง คณะทํางานแห‹งชาติ (The National Blockchain Council) การสรŒางระบบนิเวศน ของเทคโนโลยี Blockchain (Blockchain Ecosystem) การพัฒนาบุคลากร ดŒานเทคโนโลยี Blockchain (Capacity Building) การสรŒางการกํากับดูแล การใชŒงานเทคโนโลยี Blockchain (Blockchain Governance) การกําหนดมาตรฐาน เกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 98
  • 99. การจัดตั้งคณะท�ำงานแห่งชาติ The National Blockchain Council การจัดตั้งคณะท�ำงานขึ้นมาเพื่อท�ำหน้าที่ในการศึกษาวิจัยข้อดีข้อเสียรวมถึง การศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) และข้อจ�ำกัดภายใต้บริบทของ ประเทศนั้น ๆ หากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ เนื่องจากการน�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐย่อมส่งผลกระทบต่อการ เปลี่ยนแปลงกระบวนการท�ำงานของหน่วยงานภาครัฐไปจากเดิม ซึ่งจ�ำเป็น ต้องมีคณะท�ำงานในการศึกษาวิจัยถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการ วางแผนรับมือหากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อสนับสนุนงาน บริการภาครัฐ โดยหนึ่งในกรณีศึกษาที่น่าสนใจคือรูปแบบการจัดตั้งคณะท�ำงาน แห่งชาติของประเทศเนเธอร์แลนด์(Netherland)ได้มีการจัดตั้งDutchNational Blockchain Coalition ซึ่งถูกจัดตั้งโดย The Ministry of Economy Affairs’ Information Technology เป็นการจัดตั้งคณะท�ำงานที่ผสานความร่วมมือ ในทุกภาคส่วนมากกว่า20หน่วยงานทั่วประเทศทั้งหน่วยงานภาครัฐองค์กรด้าน วิชาการเช่นสถาบันการศึกษาและมหาวิทยาลัยรวมถึงภาคเอกชนทั้งจากสถาบัน การเงินคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์และพลังงานโดยการประสานความร่วมมือ ดังกล่าวมีเป้าหมายในการท�ำให้ประเทศเนเธอร์แลนด์ขึ้นไปอยู่แถวหน้าในการ เป็นประเทศผู้น�ำทางด้านเทคโนโลยีนวัตกรรม (Innovative Technology) โดยเฉพาะการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการสร้าง Digital Identity ซึ่งคณะท�ำงานดังกล่าวมีหน้าที่ในการศึกษาถึงความเป็นไปได้และข้อจ�ำกัด ผลกระทบด้านสังคม การพัฒนาทรัพยากรบุคคล (Human Capital) รวมถึง มาตรการควบคุมต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ ความน่าเชื่อถือ รวมถึงการรับรู้ จนน�ำไปสู่การยอมรับจากประชาชนในสังคมถึงการน�ำเทคโนโลยี Blockchain ดังกล่าวมาใช้งาน (Krawiec et al., 2016) การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 99
  • 100. นอกจากนี้ยังมีประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้จัดตั้ง The Global Blockchain Council (GBC) โดยมีนครรัฐดูไบเป็นหนึ่งในสมาชิก ซึ่งได้มีการจัดตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2016 ท�ำหน้าที่ทดสอบและผลักดันโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาและ การใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ภายในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อให้เป็น ไปตามเป้าหมายที่ต้องการผลักดันให้ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กลายเป็นSmart Future ให้ทันภายในปี ค.ศ. 2020 โดยนครรัฐดูไบประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United Arab Emirates) ถือได้ว่าเป็นรัฐบาลที่มีความรอบรู้ด้านเทคโนโลยี (Tech-Savvy)ในอันดับต้นๆของโลกซึ่งประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UnitedArab Emirates) ถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 2 ของโลก โดย The World Economic Forum 2016 ว่าเป็นรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพในการน�ำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมไปถึงการท�ำธุรกรรมผ่านออนไลน์ต่างๆเพื่อให้บริการแก่ประชาชน(Breene,2016) นครรัฐดูไบได้มีการก�ำหนดยุทธศาสตร์ชาติในการเป็นเมืองหลวงของเทคโนโลยี Blockchain “The Global Capital of Blockchain” ประกอบไปด้วยเป้าหมาย 3 ด้านด้วยกันคือ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 100
  • 101. โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล ประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยเพื่อ ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการ รักษาพยาบาลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ อย่างปลอดภัย โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้ ในการออกใบ Certificate ให้กับเพชร โดย The Dubai Multi Commodities Centre ได้น�ำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ในการออกใบ Certificate ให้กับเพชรหรือที่รู้จักกันในชื่อ“Kimberley Certificates” 1 2 การเพิ่มประสิทธิภาพการท�ำงานของภาครัฐ (Government Efficiency) โดยตั้งเป้าหมายในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับ การให้บริการภาครัฐแบบเต็มรูปแบบทั้งระบบ การสร้างอุตสาหกรรมเทคโนโลยี Blockchain (Industries Creation) โดยผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา Blockchain Ecosystem ขึ้นภายในประเทศ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจ รวมถึงบริษัท สตาร์ทอัพต่าง ๆ การเป็นผู้น�ำทางด้านเทคโนโลยีBlockchain(InternationalLeadership) โดยจัดท�ำโครงการน�ำร่องเกี่ยวกับการพัฒนา และการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ทั้งภายในนครรัฐดูไบ และประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ภายใต้การก�ำกับดูแลของ The Global Blockchain Council (GBC) ซึ่งประกอบไปด้วย 7 โครงการส�ำคัญ ๆ ดังต่อไปนี้ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 101
  • 102. โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ในการโอนกรรมสิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต�่ำ ยกตัวอย่าง เช่น ที่ดิน โดยเทคโนโลยี Blockchain สามารถเข้ามาช่วยลดขั้นตอนด้านเอกสาร และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการท�ำ ธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้ ในกระบวนการพิสูจน์ตัวตน (Identity Management) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดระยะเวลาในการด�ำเนินการทาง ธุรกรรมต่าง ๆ กับภาครัฐ โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการท�ำพินัยกรรมดิจิทัล เพื่อโอน กรรมสิทธิ์ทรัพย์สินต่าง ๆ ให้แก่ทายาท โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการสร้างโปรแกรมสะสมแต้ม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โครงการที่ การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาใช้ ในการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบ การน�ำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่าง ประเทศ โดยเฉพาะพิธีการทางเอกสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และความรวดเร็ว ในการจัดส่งและช�ำระเงินระหว่างประเทศ รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพบว่าในหลายรัฐ ยกตัวอย่างเช่น รัฐนิวยอร์กรัฐเวอร์จิเนียรัฐฮาวายรัฐเมน และรัฐไวโอมิง ต่างก็มีการจัดตั้งคณะ ท�ำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain ขึ้นมา โดยคณะท�ำงานดังกล่าวได้ถูก จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และถูกต้อง ตามกฎหมาย มีอ�ำนาจหน้าที่ในการ ศึกษาผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น หากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ส�ำหรับงานบริการในภาครัฐ 3 6 4 7 5 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 102
  • 103. การสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Blockchain Blockchain Ecosystem ในการขับเคลื่อนรวมถึงการพัฒนาต่อยอดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain ให้เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนนั้นมีความจ�ำเป็น อย่างยิ่งที่จะต้องสร้างระบบนิเวศของเทคโนโลยี Blockchain ที่เอื้อต่อ การพัฒนา ยกตัวอย่างเช่น นครรัฐดูไบที่ได้มีการวางนโยบายของประเทศ ในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐอย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งยังมีการผลักดันและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาระบบนิเวศที่เอื้ออ�ำนวย ต่อการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ รวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพต่าง ๆ การสร้างการก�ำกับดูแลการใช้งานเทคโนโลยี Blockchain Blockchain Governance การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี Blockchain โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาครัฐ มักพบปัญหาในด้านความเชื่อมั่น และการยอมรับจากสังคม ซึ่งสามารถพบเห็น ได้จากหลาย ๆ โครงการน�ำร่องเมื่อถูกขยายผลไปสู่การใช้งานจริงในระดับ ประเทศดังนั้นในการขับเคลื่อนการใช้งานเทคโนโลยีBlockchainมีความจ�ำเป็น อย่างยิ่งที่จะต้องสร้างกรอบ หรือมาตรการในการก�ำกับดูแล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องของกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้เกิด การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 103
  • 104. กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการ / คณะท�ำงานเพื่อศึกษาข้อดี ข้อเสียข้อจ�ำกัดรวมถึงความเป็นไปได้ของการน�ำเทคโนโลยีBlockchain มาใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น รัฐนิวยอร์ก รัฐเวอร์จิเนีย รัฐฮาวาย รัฐเมน รัฐไวโอมิง และรัฐเวอร์มอนต์ ความสงบเรียบร้อยในการน�ำเทคโนโลยีBlockchain มาใช้งานยกตัวอย่างเช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือว่าเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ให้ความส�ำคัญกับ การน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในงานบริการภาครัฐ นอกจากการให้ ความส�ำคัญในเรื่องของการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานแล้ว ประเทศ สหรัฐอเมริกายังให้ความส�ำคัญกับการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain ทั้งในระดับรัฐ (State Action) และรัฐบาลกลาง (Federal Action) โดยการออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Blockchain ของ ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น สามารถจ�ำแนกได้เป็น 5 กลุ่มด้วยกันดังต่อไปนี้ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 104
  • 105. กฎหมายว่าด้วยการท�ำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ยกตัวอย่างเช่น รัฐแคลิฟอเนียร์ รัฐเดลาแวร์ รัฐอิลลินอยส์ รัฐเทนเนสซี และรัฐเนวาดา กฎหมายว่าด้วยการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐในรูปแบบดิจิทัล โดยใช้ เทคโนโลยี Blockchain ยกตัวอย่างเช่น รัฐแคลิฟอเนียร์ รัฐโคโรราโด รัฐแมริแลนด์ รัฐมิชิแกน รัฐนิวเจอร์ซีย์ รัฐนิวยอร์ก รัฐโอไฮโอ รัฐแอริโซนา และรัฐอิลลินอยส์ กฎหมายว่าด้วยเงินสกุลดิจิทัล (Digital Currency) ยกตัวอย่างเช่น รัฐคอนเนตทิคัต รัฐมิชิแกน รัฐเนแบรสกา และรัฐเวอร์มอนต์ กฎหมายว่าด้วยเรื่องสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ยกตัวอย่างเช่น รัฐคอนเนตทิคัต รัฐฟลอริดารัฐเนแบรสกา รัฐนิวยอร์ก และรัฐโอไฮโอ การก�ำหนดมาตรฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain ถึงแม้เทคโนโลยี Blockchain จะเป็นเทคโนโลยีที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง รูปแบบการจัดการข้อมูลและขั้นตอนการท�ำธุรกรรมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยลักษณะเด่นคือการจัดเก็บข้อมูลที่มีการกระจายตัวไปยังผู้ที่อยู่ในระบบ ทุกคน (Nodes) แทนที่การใช้ตัวกลาง และเมื่อมีข้อมูลใหม่ก็จะอัปเดตพร้อม กันตลอดเวลา ท�ำให้ช่วยลดระยะเวลาการท�ำธุรกรรมและลดต้นทุนการด�ำเนิน งานลงได้ อีกทั้งข้อมูลจะถูกบันทึกไว้ตั้งแต่ธุรกรรมแรกจนถึงธุรกรรมสุดท้าย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 105
  • 106. ISO/TC 307/SG 1 Reference Architecture, Taxonomy and Ontology ISO/TC 307/SG 2 Use Cases ISO/TC 307/SG 3 Security and Privacy ISO/TC 307/SG 4 Identity ท�ำให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่ด้วยข้อจ�ำกัดเกี่ยวกับกฎระเบียบ และแนวทางการพัฒนาที่มีความหลากหลาย ขาดการก�ำกับดูแล และรูปแบบ การพัฒนาที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ยังคงเป็นความท้าทายส�ำคัญในการขยาย ขีดความสามารถของเทคโนโลยี Blockchain ดังนั้นในปัจจุบันพบว่ารูปแบบ การพัฒนารวมไปถึงกระบวนการทางเทคนิคที่จ�ำเป็นส�ำหรับการใช้เทคโนโลยี Blockchain นั้นมีความหลากหลาย และแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการออกแบบ ของผู้ให้บริการนั้น ๆ ซึ่งยังไม่ได้มีการก�ำหนดมาตรฐานออกมาในรูปแบบ ที่ชัดเจน ถึงแม้ว่าองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการก�ำหนดมาตรฐาน (International Organization for Standardization: ISO) ได้มีความพยายาม ในการก�ำหนดกรอบมาตรฐานส�ำหรับเทคโนโลยี Blockchain คือ ISO/TC 307 Blockchain and Distributed Ledger Technologies ซึ่งประกอบไปด้วย 7 หมวดด้วยกันดังต่อไปนี้ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 106
  • 107. ISO/TC 307/SG 5 Smart Contracts ISO/TC 307/SG 6 Governance of Blockchain and Distributed Ledger Technology Systems ISO/TC 307/SG 7 Interoperability of Blockchain and Distributed Ledger Technology Systems การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 107
  • 108. แต่ความพยายามในการก�ำหนด มาตรฐานดังกล่าวนั้นยังอยู่ในขั้นตอน ของการเตรียมการ และการจัดประชุม ระหว่างคณะกรรมการยกร่างมาตรฐาน โดยคาดการณ์ว่าจะมีการประกาศใช้ อย่างเป็นทางการภายในปี ค.ศ. 2021 (Morris, 2018) ทั้งนี้พบว่าในหลาย ประเทศผู้น�ำด้านเทคโนโลยีBlockchain ต่างก็เริ่มศึกษาเกี่ยวกับการก�ำหนด มาตรฐานด้านเทคโนโลยี Blockchain ของตนเองเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ISO/TC 307 Blockchain and Distributed Ledger Technologies ยกตัวอย่างเช่น ประเทศจีน ได้มีการ จัดท�ำมาตรฐานเทคโนโลยี Blockchain เพื่อประกาศใช้ภายในประเทศเพื่อรองรับ การขยายตัวของเทคโนโลยีBlockchain โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับมาตรฐาน เทคโนโลยีBlockchainซึ่งถูกพัฒนาเพื่อ ใช้งานในระดับประเทศ ไปสู่การพัฒนา อุตสาหกรรมเทคโนโลยี Blockchain ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ดังนั้น การก�ำกับดูแล และรูปแบบการพัฒนา ที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน จึงยังคงเป็น ความท้าทายส�ำคัญในการขยายขีดความ สามารถของเทคโนโลยี Blockchain ต่อไปในอนาคตกา BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 108
  • 109. การพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถด้านเทคโนโลยีBlockchain (CapacityBuilding) ปัจจัยที่ส�ำคัญอีกประการหนึ่งของการขับเคลื่อนเทคโนโลยีเกิดใหม่ให้ ประสบความส�ำร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม คือการพัฒนาบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในเทคโนโลยีนั้น ๆ ส�ำหรับเทคโนโลยี Blockchain ก็เช่น เดียวกัน โดยสถานการณ์ด้านบุคลากรของเทคโนโลยี Blockchain ในปัจจุบัน ถือว่ายังขาดแคลนอยู่เป็นจ�ำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายที่จะต้องได้รับการ พัฒนาต่อไปในอนาคต การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 109
  • 110. ทั้งนี้พบว่าหลายประเทศที่มีแนว นโยบายในการเป็นผู้น�ำด้านเทคโนโลยี Blockchain ได้ตระหนักถึงปัญหา ดังกล่าว โดย 27 มหาวิทยาลัยชั้นน�ำ ทั่วโลกมีการจัดหลักสูตรการเรียน การสอน และหลักสูตรอบรม เพื่อพัฒนา บุคลากรให้มีความรู้ความสามารถด้าน เทคโนโลยี Blockchain ให้กับประเทศ ต่อไป โดย 8 มหาวิทยาลัยจากจ�ำนวน ดังกล่าว คือ มหาวิทยาลัยที่อยู่ใน ประเทศจีนยกตัวอย่างเช่นTheTsinghua University, Zhejiang University, and Central University of Finance and Economics ประเทศสหรัฐอเมริกา ยกตัวอย่างเช่น Princeton University, Stanford University, and Massachusetts Institute of Technology (MIT) และอีก 5 มหาวิทยาลัยจากประเทศอังกฤษ ยกตัวอย่างเช่น University of Oxford และ University of Cambridge ส่วนที่เหลือเป็นมหาวิทยาลัยจาก ประเทศไซปรัส เดนมาร์ก ไอร์แลนด์ ญี่ปุ่น สิงค์โปร์ และออสเตรเลีย ซึ่ง หลักสูตรการเรียนการสอนส่วนใหญ่ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการสอนเกี่ยวกับ หลักการพื้นฐานของเทคโนโลยี Blockchainเงินสกุลดิจิทัลการวิเคราะห์ สถาปัตยกรรมเชิงเทคนิคของ Platform เทคโนโลยี Blockchain ที่มีอยู่ใน ปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น Ethereum และ Hyperledger กรณีศึกษาการประยุกต์ ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในภาคส่วน ต่าง ๆ รวมถึงทิศทางและแนวโน้ม การพัฒนาของเทคโนโลยี Blockchain BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 110
  • 111. นอกจากการสร้างหลักสูตรการเรียน การสอนเพื่อพัฒนาบุคลากรด้าน เทคโนโลยี Blockchain ให้กับประเทศ แล้วประเด็นที่น่าสนใจคือมหาวิทยาลัย ต่าง ๆ ในประเทศจีนยังให้ความส�ำคัญ ด้านความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรม ในการสร้างสถาบันการวิจัยเกี่ยวกับ เทคโนโลยี Blockchain เพื่อให้มั่นใจ ว่าผลงานวิจัยต่าง ๆ สามารถที่จะน�ำไป ประยุกต์ใช้งานได้จริงทั้งในภาครัฐ และ ภาคเอกชนต่อไป การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่องานบริการภาครัฐ กรณีศึกษาต่างประเทศ 111
  • 112. ทั้งนี้จากการศึกษาจากแนวปฏิบัติของต่างประเทศที่เป็น ผู้น�ำทางด้านเทคโนโลยี Blockchain ดังได้กล่าวมาแล้ว ข้างต้น ดังนั้นในบทถัดไปเป็นการศึกษาถึงความเป็นไปได้ รวมถึงแนวทางในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ ในการให้บริการภาครัฐของประเทศไทย ซึ่งจะได้อธิบาย ในล�ำดับถัดไป BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 112
  • 114. หลักการและเหตุผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับภาครัฐไทย แนวคิดในการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาประยุกต์ใช้ส�ำหรับภาครัฐไทยนั้น เกิดจากแนวคิดที่ต้องการ “ยกระดับภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่มี การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน มีการท�ำงานแบบอัจฉริยะ ให้บริการโดยมีประชาชน เป็นศูนย์กลาง และขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแท้จริง” ซึ่งแนวคิด ดังกล่าวเป็นวิสัยทัศน์การพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทยตาม(ร่าง)แผนพัฒนา รัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564 ในการยกระดับขีดความสามารถ เชิงดิจิทัลของภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลดังวิสัยทัศน์ที่ก�ำหนดไว้นั้น ต้องอยู่ บนพื้นฐานการด�ำเนินการ 4 ประการ ได้แก่ การบูรณาการภาครัฐ (Government Integration) การด�ำเนินงานแบบอัจฉริยะ (Smart Operation) การให้บริการโดยมี ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (Citizen-Centric Services) และการสนับสนุนให้เกิดการ ขับเคลื่อนไปสู่การเปลี่ยนแปลง (Driven Transformation) ดังแสดงในรูปภาพที่ 19 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 114
  • 115. รูปภาพที่ 19: วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล ที่มา: ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน), (2560) ยกระดับภาครัฐไทยสู‹การเปšนรัฐบาลดิจ�ทัลที่มีการบูรณาการระหว‹างหน‹วยงาน มีการทำงานแบบอัจฉร�ยะ ใหŒบร�การโดยมีประชาชนเปšนศูนยกลาง และขับเคลื่อนใหŒเกิดการเปลี่ยนแปลงไดŒอย‹างแทŒจร�ง Smart Operations การนําเทคโนโลยีและอุปกรณติจ�ทัลมา สนับสนุน การปฏิบัติงานที่มีการใชŒเทคโนโลยี ดิจ�ทัลที่เหมาะสม มีการเชื่อมต‹อระหว‹างเคร�่องมืออุปกรณ มีระบบการจัดการขŒอมูลขนาดใหญ‹ (Big Data) มีเคร�่องมือว�เคราะหขŒอมูลเชิงลึก (Analytics) Government Integration การบูรณาการระหว‹างหน‹วยงานต‹างๆ ทั้งการเชื่อมโยง ขŒอมูลและการดําเนินงาน เพ�่อสามารถ เห็นขŒอมูลประชาชนเปšนภาพเดียวที่สมบูรณ ใชŒบร�การทางเทคโนโลยีร‹วมกัน ใหŒบร�การภาครัฐแบบครบวงจร ณ จ�ดเดียว Driven Transformation การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงสู‹รัฐบาลดิจ�ทัล ในทุกระดับของบุคลากรภาครัฐ ซึ่งรวมไปถึง การเปลี่ยนแปลงองคกรในดŒานขั้นตอน การทํางาน เทคโนโลยี และกฎระเบียบ Citizen-centric Services การยกระดับงานบร�การภาครัฐใหŒตรงกับ ความตŒองการ ของประชาชนที่เปลี่ยนแปลง อยู‹ตลอดเวลา โดยภาครัฐจะตŒองรักษาสมดุล ระหว‹างความปลอดภัยในชีว�ต ทรัพยสิน ขŒอมูล ของประชาชน และการอํานวยความ สะดวก แก‹ผูŒรับบร�การ Digital Government แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 115
  • 116. การบูรณาการภาครัฐ (Government Integration) คือ การบูรณาการระหว่าง หน่วยงานรัฐต่างๆ ตั้งแต่การเชื่อมโยง ข้อมูล บริการ ไปจนถึงการด�ำเนินงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการ ปฏิบัติงานและการให้บริการของรัฐ ทั้งในระดับหน่วยงานย่อยไปจนถึงระดับ การบูรณาการภาครัฐ Government Integration กระทรวง ซึ่งการเกิดการบูรณาการ ภาครัฐดังกล่าวจะท�ำให้รัฐบาลตระหนัก ถึงความต้องการและความจ�ำเป็นในการ น�ำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการด�ำเนิน งานต่าง ๆ ในแต่ละหน่วยงาน เพื่อลด ความซ�้ำซ้อนในด้านการเบิกจ่าย งบประมาณ ระยะเวลาการด�ำเนินการ หรือแม้แต่การดูแลรักษาระบบต่าง ๆ อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพจากการใช้ บริการทางเทคโนโลยีร่วมกัน (Share Services) และการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ในการลงทุน โครงสร้างพื้นฐานกลาง นอกจากนี้ การบูรณาการภาครัฐยังน�ำไปสู่การให้ บริการภาครัฐแบบครบวงจร ณ จุดเดียว (One stop Service) ที่สามารถ ตอบโจทย์ด้านการอ�ำนวยความสะดวก แก่ประชาชนได้มากยิ่งขึ้น 1 วิสัยทัศน์รัฐบาลดิจิทัล BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 116
  • 117. การด�ำเนินงานแบบอัจฉริยะ Smart Operation การด�ำเนินงานแบบอัจฉริยะ (Smart Operation) คือ การน�ำเทคโนโลยีและ อุปกรณ์ดิจิทัลที่เหมาะสมมาสนับสนุน การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภาครัฐไทย เพื่อให้สามารถด�ำเนินงานอย่างถูกต้อง แม่นย�ำ รวดเร็ว และตรงจุดมากขึ้น โดยมีการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องมือ อุปกรณ์ (Internet of Things) ต่างๆ อย่างทั่วถึง ท�ำให้เจ้าหน้าที่สามารถ สื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้เป็น ปัจจุบันและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นอาจมีการเชื่อมต่อเครื่องมือ อุปกรณ์ให้สื่อสารถึงกันแบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องอาศัยการควบคุมของ เจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อน�ำระบบการ จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มา ช่วยจัดระเบียบฐานข้อมูล ประกอบกับ น�ำเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Analytics) มาช่วยท�ำความเข้าใจ ข้อมูลอย่างลึกซึ้ง จะช่วยท�ำให้เจ้าหน้าที่ ภาครัฐไทยสามารถคาดการณ์ล่วงหน้า เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจและหน่วยงาน ภาครัฐไทยสามารถจัดท�ำบริการแบบ เชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2 แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 117
  • 118. การให้บริการโดยมีประชาชนเป็น ศูนย์กลาง (Citizen-centric Services) คือ การยกระดับงานบริการภาครัฐ ให้ตรงกับความต้องการของประชาชน ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดย ภาครัฐไทยจะต้องรักษาสมดุลระหว่าง ความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินข้อมูลของ ประชาชน และการอ�ำนวยความสะดวก (Rebalancing between Security & Facilitation) ตลอดจนก�ำหนดระดับ การให้บริการโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง Citizen-centric Services การรักษาความปลอดภัยและระดับความ เข้มงวดของการยืนยันพิสูจน์ตัวตน ให้เหมาะสมกับความซับซ้อนของงาน บริการ ประเภทของงานบริการ และกลุ่ม ผู้รับบริการต่าง ๆ 3 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 118
  • 119. การสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนไปสู่การ เปลี่ยนแปลง (Driven Transformation) คือการวางแนวทางการขับเคลื่อน ภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลใน ทุกระดับของบุคลากรภาครัฐ โดยอาศัย กระบวนทัศน์การเปลี่ยนแปลงโดย มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ (Outcome-driven Transformation) ที่มีการปรับเปลี่ยน องค์กรแบบครบวงจร (End-to-End Transformation) ทั้งในด้านทรัพยากร มนุษย์ (People) ขั้นตอนการท�ำงาน (Process) เทคโนโลยี (Technology) และกฎระเบียบ (Regulation) รวมทั้ง มีการขับเคลื่อนโดยมีการบริหารจัดการ โครงการและการก�ำกับดูแล (Project Management and Governance) ที่ชัดเจน ภายใต้การสนับสนุนของผู้น�ำ ระดับประเทศที่มีความมุ่งมั่น มีวิสัยทัศน์ และเล็งเห็นความส�ำคัญของการน�ำ เทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาประเทศ อย่างแท้จริง (Change Leadership) อันจะส่งผลให้ภาครัฐสามารถด�ำเนิน งานตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการได้ อย่างไร้รอยต่อ การสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อน ไปสู่การเปลี่ยนแปลง Driven Transformation 4 แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 119
  • 120. รูปภาพที่ 20: แนวโน้มเทคโนโลยีที่ส�ำคัญส�ำหรับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ที่มา: ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน), (2560) Technology Recommendation for Digital Gevernment 2017-2021 Virtual Reality / Augmented Reality การนําเทคโนโลยี Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) มา ปรับใช้ในการจําลองภาพหรือสถานการณ์ เหมือนจริงเพื่อบริหารจัตการความปลอดภัย สาธารณะ การขยายพื้นที่การรักษาสุขภาพ ไปยังพื้นที่ห่างไกล (Telemedicine) รวมถึง การเพิ่มรูปแบบใหม่ๆในการเรียนการสอน และการท่องเที่ยว Smart Machine / Artificial Intelligence การนําเทคโนโลยีSmartMachineมาปรับใช้ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการและตอบสนอง การให้บริการอัตโนมัติ โดยระบบ Smart Machine จะพัฒนาขึ้น และสามารถ ประเมินปัญหา และจัดการ สมดุล ตลอดห่วงโซ่การบริการ Cyber Security การคํานึงถึงความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cyber Security) โดยจัดทํามาตรฐาน ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ปรับปรุงกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องให้ทันต่อเหตุการณ์ และมีความ ยืดหยุ่น อีกทั้งปรับเปลี่ยน Mindset ในการจัดการประเด็นด้าน ความ ปลอดภัยทางไซเบอร์ Advanced Geographic Information System การนําเทคโนโลยี Advanced GeographicInformationSystem มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูล ในเชิงพื้นที่ โดยสามารถประยุกต์ ใช้สําหรับการจัดสรรทรัพยากร ด้านการเกษตร การบริหารจัดการ ระบบคมนาคมขนส่ง และด้านอื่นๆ Cloud Computing การนําเทคโนโลยีด้าน Cloud Computing มาปรับใช้ในการ เก็บข้อมูล เพื่อลด ความยุ่งยาก ในการติดตั้งระบบ ลดต้นทุนใน การดูแลระบบ และต้นทุนสําหรับ การสร้างเครือข่าย ด้วยตนเอง Big Data การนําข้อมูล Big Data มาประมวลผล และใช้เป็นเครื่องมือในการคาดการณ์ และประเมินสภาพธุรกิจการให้บริการ โดยอาศัยเทคโนโลยี loT และ Smart Machine เพื่อให้การวิเคราะห์และ ตอบสนองต่อผู้รับบริการเป็นแบบ real-time Open Any Data การเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ ผู้รับบริการ โดยปรับปรุงเว็บไซต์ และ ฐานข้อมูล เพื่อสร้างการเข้าถึงจาก สาธารณะมากขึ้น และผลักดันให้เกิด การเชื่อมโยงข้อมูลที่เปิดเผยเหล่านั้น กับหน่วยงานทุกภาคส่วน Internet of Things การอาศัยเทคโนโลยี IoT สร้าง สภาพแวดล้อมให้ ภาครัฐปรับเปลี่ยน รูปแบบบริการเป็นดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เทคโนโลยีดังกล่าวยัง สนับสนุนภาครัฐในด้านต่าง ๆ อาทิ การสื่อสาร การใช้โมบายเทคโนโลยี การวิเคราะห์ Big Data รวมไปถึงการ ประสานงานกับภาคธุรกิจและเอกชน BlockChain / Distributed LedgerTechnology การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการ จัดเก็บข้อมูลและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเพื่อตรวจสอบ ความถูกต้อง และลดภาระการพึ่งพาคนกลางในการทําธุรกรรม ภายใต้ความปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้เพื่อให้การขับเคลื่อนสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรมนั้นจ�ำเป็น ต้องอาศัยเทคโนโลยี และนวัตกรรมในการขับเคลื่อน โดยใน (ร่าง) แผนพัฒนา รัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564 ได้มีการกล่าวถึงแนวโน้มของ เทคโนโลยีส�ำคัญที่มีผลต่อการขับเคลื่อนไปสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ส�ำคัญไว้ 9 เทคโนโลยีด้วยกัน ดังแสดงในรูปภาพที่ 20 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 120
  • 121. โดยส่วนราชการต่าง ๆ ทั้งในระดับส�ำนัก กรม หรือกระทรวง สามารถที่จะน�ำ เทคโนโลยีและนวัตกรรมเหล่านี้เข้ามาปรับใช้กับการท�ำงานของภาครัฐ ตลอดจน ใช้พัฒนาบริการ หรือกระบวนการด�ำเนินงานต่าง ๆ ได้ โดยจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Blockchain หรือ Distributed Ledger Technology ถือเป็น 1 ใน 9 เทคโนโลยี ส�ำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่การพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ด้วยคุณสมบัติของเทคโนโลยี Blockchain ในการจัดเก็บข้อมูลและใช้ประโยชน์จากเครือข่ายเพื่อตรวจสอบ ความถูกต้อง และลดภาระการพึ่งพาคนกลางในการท�ำธุรกรรม ภายใต้ความ ปลอดภัยที่มีความน่าเชื่อถือ นอกจากการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี Blockchain ใน รูปแบบต่างๆดังได้กล่าวมาแล้วในบทก่อนหน้านี้เทคโนโลยีBlockchainยังสามารถ น�ำมาใช้เพื่อบูรณาการบริการและการแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐได้อีกด้วย ดังแสดงใน ตารางที่ 3 ซึ่งเป็นการสรุปความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐของประเทศตาม (ร่าง) แผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของ ประเทศไทย ทั้ง 5 ยุทธศาสตร์ ตามขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 121
  • 122. ตารางที่ 3: ตารางสรุปความเป็นไปได้ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐของประเทศไทย ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้ ยุทธศาสตร์ที่ 1: การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน 1. สวัสดิการ ประชาชน บูรณาการข้อมูล ประชาชนจาก ทุกหน่วยงาน เพื่อให้ สามารถก�ำหนดสิทธิ รายบุคคลได้อย่าง ถูกต้องครบถ้วน และ สามารถให้บริการ เชิงรุกได้ ระบบบริหารจัดการข้อมูลตัวตน ระบบการ พิสูจน์และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Identity) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain และระบบเบิกจ่ายสวัสดิการ แบบรายบุคคลด้วย Smart Contract 2. การเพิ่ม ประสิทธิภาพ แรงงาน บูรณาการข้อมูลตลาด แรงงานอย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองความ ต้องการทุกภาคส่วน เช่น การจัดหางาน การพัฒนาทักษะ การทราบภาพรวมตลาด ระบบจัดเก็บข้อมูลแรงงาน รวมถึงการพิสูจน์ และยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Identity) ด้วยเทคโนโลยี Blockchain และ เชื่อมโยงกับการผลิตห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) การน�ำเข้า-ส่งออกของทั้งภาคการผลิต ภาคบริการ และภาคเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อสร้างประสิทธิภาพในการจัดหางานและ การพัฒนาทักษะแรงงานได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการต่อยอดระบบ Digital Identity ด้วยการบันทึกประวัติการท�ำงานที่ผ่านมาของ แรงงาน รวมถึงความสามารถที่มีเพื่อน�ำไปสู่ การออกใบรับรอง (Certificate) การท�ำงาน ด้วยเทคโนโลยี Blockchain 3. การศึกษา มีระบบกลางเพื่อ เชื่อมโยงงานบริการ ด้านการศึกษาแบบ ข้ามหน่วยงาน เพื่อเพิ่ม ความเป็นอัตโนมัติ ส�ำหรับงานบริการ ด้านการศึกษา สร้างระบบบันทึกใบรับรอง (Certificate) ทางการศึกษาด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่เชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาทั้งในระบบ และนอกระบบ รวมถึงการศึกษาแบบออนไลน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตามแนวทาง ของ Open Education เพื่อสร้างความ น่าเชื่อถือให้กับเอกสารในการใช้เป็นหลักฐาน ส�ำหรับการเรียนต่อหรือสมัครงานได้ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 122
  • 123. ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้ 4. การสาธารณสุข มีระบบกลางเพื่อ เชื่อมโยงงานบริการ ด้านสาธารณสุขแบบ ข้ามหน่วยงาน เพื่อให้ การด�ำเนินงานด้าน สาธารณสุขมีความ สะดวกและรวดเร็วขึ้น พัฒนาระบบเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล สุขภาพแห่งชาติ (National Health Information Exchange Platform) โดยใช้ เทคโนโลยี Blockchain ที่เชื่อมต่อทุกหน่วยงาน ด้านสาธารณสุขเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาลรัฐ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก หน่วยงานประกันสุขภาพภาครัฐ ประกัน สุขภาพเอกชน หน่วยงานควบคุมคุณภาพ หน่วยงานวิจัย และหน่วยงานก�ำกับดูแล ให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกันได้แบบ Realtime ภายใต้ มาตรฐานข้อมูลสุขภาพเดียวกัน มีส่วนติดต่อ Service ของ Application (API) ที่ครบถ้วน ยืดหยุ่น และมีความปลอดภัยสูง รวมถึง ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงข้อมูลประวัติการรักษา พยาบาลของตนได้ ยุทธศาสตร์ที่ 2: การยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของภาคธุรกิจ 5. การเพิ่ม ประสิทธิภาพ ภาคการเกษตร บูรณาการข้อมูล การเกษตรระหว่าง หน่วยงานเพื่อให้ได้ ข้อมูลที่เหมาะสมกับ เกษตรกรแบบ รายบุคคล พัฒนาระบบ Blockchain ส�ำหรับการ แลกเปลี่ยนข้อมูลจากหลายหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ที่น่าเชื่อถือ และน�ำมาวิเคราะห์ร่วมกับข้อมูล เศรษฐกิจอื่น ๆ เพื่อสร้างเป็นข้อมูลและ ค�ำแนะน�ำที่เหมาะสมกับเกษตรกรแบบ รายบุคคล รวมถึงการสร้างบริการทางการ เกษตรภาครัฐด้วยเทคโนโลยี Smart Contract เพื่อให้เกษตรกร หรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องสามารถน�ำไปใช้ได้อย่างปลอดภัย เช่น สัญญาซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าด้วย Smart Contract, Letter of Credit, Letter of Guarantee หรือกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติ ด้านการเกษตร แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 123
  • 124. ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้ 6. การท่องเที่ยว ยกระดับประสบการณ์ นักท่องเที่ยวใน ยุคดิจิทัล (Digital Tourism) สร้างระบบ Loyalty Token ด้วยเทคโนโลยี Blockchain เพื่อใช้ในธุรกิจท่องเที่ยวและ บริการของประเทศ ในการสร้างประสบการณ์ ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล อีกทั้ง ยังสามารถน�ำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ พฤติกรรมนักท่องเที่ยวในการหาความ ต้องการที่แท้จริง (Unmet Need) เพื่อน�ำไป ปรับปรุงการให้บริการ และวิเคราะห์หาข้อมูล เชิงลึก (Insight) เพื่อน�ำไปสร้างบริการ รูปแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองความ ต้องการนักท่องเที่ยวได้อย่างแท้จริง รวมถึง การเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลการยืนยันตัวตนทาง อิเล็กทรอนิกส์ (Digital Identity) ข้อมูล สุขภาพของนักท่องเที่ยว ผ่านสายการบินและ ระบบตรวจคนเข้าเมือง โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อยกระดับการให้บริการ นักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ 7. การลงทุน มีระบบกลางเพื่อ เชื่อมโยงงานบริการ ด้านการลงทุนระหว่าง หน่วยงานผู้มีอ�ำนาจ ในการอนุมัติเพื่อขอ ใบอนุญาตเริ่มต้นธุรกิจ พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยง หน่วยงานด้านการลงทุน ภายในประเทศจาก ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ รวมถึง การสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุน ยังต่างประเทศ โดยใช้ Smart Contract ใน กระบวนการขออนุญาตและอนุมัติ เพื่อสร้าง ความโปร่งใส่และตรวจสอบได้ 8. การค้า (น�ำเข้า/ส่งออก) มีระบบบูรณาการ น�ำเข้า/ส่งออก แบบ ครบวงจร เพื่อให้ผู้ ประกอบการสามารถ ท�ำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง กับการน�ำเข้า/ส่งออกได้ พัฒนาระบบ Blockchain โดยใช้ Smart Contract ในการสร้างบริการภาครัฐเกี่ยวกับ การน�ำเข้า/ส่งออก เช่น บริการช�ำระเงิน, บริการ Escrow, การออกใบรับรองแหล่ง ก�ำเนิดของสินค้า (Certificate of Origin), ตราสารเครดิต (Letter of Credit: LC), หนังสือค�้ำประกัน (Letter of Guarantee: LG), สินเชื่อ Factoring, Trade Finance โดยร่วมมือกับธนาคารรัฐและเอกชน BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 124
  • 125. ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้ 9. วิสาหกิจ ขนาดกลางและ ขนาดย่อม มีระบบบูรณาการ เชิงรุกเพื่อให้ข้อมูล ความรู้และค�ำปรึกษา ส�ำหรับการประกอบ ธุรกิจ แก่ SME แบบครบวงจร ณ จุด เดียว โดยมีภาครัฐ เป็นผู้สนับสนุน ระบบ ICT พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยง หน่วยงานด้านวิสาหกิจขนาดกลางและ ขนาดย่อม โดยใช้ Smart Contract ในการ สร้างบริการภาครัฐเกี่ยวกับวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม เช่น การติดตามผลการให้ทุน สนับสนุน ระบบสิทธิบัตร และการต่อยอด นวัตกรรม 10. ภาษีและรายได้ มีการบูรณาการข้อมูล ระหว่างหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มขีด ความสามารถในงาน บริการด้านภาษี พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยง หน่วยงานที่ก�ำกับดูแลด้านภาษี และการ ฟอกเงิน โดยปรับเปลี่ยนขั้นตอนการช�ำระ ภาษีจากแบบยื่นรายเดือนหรือรายปี เป็น การเก็บแบบอัตโนมัติด้วย Smart Contract เพื่อลดขั้นตอนการจัดเก็บภาษี และการ ตรวจสอบบัญชี 11. การคมนาคม มีการบูรณาการ ข้อมูลด้านคมนาคม ในการอ�ำนวยความ สะดวกและเพิ่มความ ปลอดภัยต่อภาคธุรกิจ และภาคประชาชน พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลผู้ขับขี่ ประวัติ ผู้ขับขี่ และข้อมูลพาหนะ และต�ำแหน่ง โดยผสานการท�ำงานระหว่างเทคโนโลยี Blockchain และ IoT 12. สาธารณูปโภค มีระบบกลางเพื่อ เชื่อมโยงงานบริการ ด้านสาธารณูปโภค ระหว่างหน่วยงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการด้าน สาธารณูปโภคที่มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อเชื่อมโยงงาน บริการด้านสาธารณูปโภคระหว่างหน่วยงาน โดยน�ำ Smart Contract มาใช้ในขั้นตอน การขอรับบริการและการช�ำระเงิน เพื่อสร้าง ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 125
  • 126. ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้ ยุทธศาสตร์ที่ 3: การยกระดับความมั่นคงและความปลอดภัย 13. ความปลอดภัย สาธารณะ บูรณาการข้อมูลจาก กล้องวงจรปิดเพื่อ เฝ้าระวังและตรวจจับ ความเสี่ยงก่อน เกิดเหตุ โดยบริหาร จัดการผ่านระบบ ศูนย์บัญชาการ พัฒนาระบบ Identity และ Authentication ของกล้องวงจรปิดภาครัฐ รวมถึงการอนุญาต ให้กล้องวงจรปิดของภาคเอกชนสามารถ เข้าร่วมได้ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain อีกทั้งยังสามารถน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้กับร่วมกับระบบ Preventive Maintenance ในการก�ำหนดการซ่อมบ�ำรุง โดยใช้ Smart Contract 14.การบริหาร จัดการชายแดน ขยายผลจากระบบ พิสูจน์ตัวตนด้วย ลายนิ้วมือให้ ครอบคลุมทุกด้าน สามารถรองรับพลเมือง และชาวต่างชาติที่มี การลงทะเบียน การเชื่อมโยงข้อมูล Identity ข้อมูล Biometric และข้อมูลสุขภาพของผู้ผ่านแดน จากระบบ ตรวจคนเข้าเมือง ศูนย์ควบคุมโรค หน่วยงานป้องกันการก่อการร้ายข้ามชาติ ผ่านเทคโนโลยี Blockchain เพื่อเพิ่มความ สะดวกรวดเร็วในการทำ�งานของเจ้าหน้าที่ 15. การป้องกัน ภัยธรรมชาติ ระบบวิเคราะห์และ คาดการณ์ภัยธรรมชาติ จากข้อมูลและระบบ จำ�ลองสถานการณ์ เพื่อติดตามและบริหาร จัดการภัยธรรมชาติ พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อใช้ในการแลก เปลี่ยนข้อมูลจากหลาย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT ที่น่าเชื่อถือ และนำ�มาวิเคราะห์ร่วมกับโมเดลการพยากรณ์ โดยสร้างข้อมูลที่น่าเชื่อถือ (Oracle) สำ�หรับ การจัดทำ�ระบบจำ�ลองสถานการณ์ เพื่อติดตามและบริหารจัดการภัยธรรมชาติ 16. การจัดการใน ภาวะวิกฤต บูรณาการข้อมูลจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการติดตามและ บริหารจัดการวิกฤต การเชื่อมโยงข้อมูล Identity ข้อมูล Biometric ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลเส้นทาง ทางการเงิน ข้อมูลกล้องวงจรปิด เข้ากับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามและ บริหารจัดการภาวะวิกฤต BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 126
  • 127. ขีดความสามารถ รายละเอียด การน�ำเทคโนโลยีBlockchainมาประยุกต์ใช้ ยุทธศาสตร์ที่ 4: การยกระดับประสิทธิภาพภาครัฐ 17. การจัดซื้อ จัดจ้าง มีระบบกลางในการ จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อให้สามารถควบคุม ความโปร่งใสและ เพิ่มประสิทธิภาพได้ พัฒนาระบบ Blockchain เพื่อใช้ในการ เชื่อมโยงระบบ Identity ของบุคคลและ นิติบุคคล เข้ากับข้อมูลคู่สัญญาที่ถูกขึ้น บัญชีดำ� (Blacklist) เพื่อใช้ในกระบวนงาน จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ยกตัวอย่างเช่น วิธีการประกวดราคา Bidding การประมูล จัดซื้อจัดจ้าง (Auction) การตรวจรับงาน และการติดตามผลการดำ�เนินงาน และออก รายงานประจำ�ปีของแต่ละหน่วยงานด้วย Smart Contract แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 127
  • 128. ดังนั้นหากมีการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อสนับสนุนการบูรณาการ บริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐจริง จะสามารถช่วยสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ก�ำลังด�ำเนินการอยู่ได้ ยกตัวอย่างเช่น ระบบยืนยันตัวบุคคลกลาง e-Authentication Service 1 ระบบยืนยันตัวบุคคลกลาง(e-Authentication Service) เพื่อให้ประชาชน และเจ้าหน้าที่ ของหน่วยงานภาครัฐสามารถเข้าถึงระบบ สารสนเทศต่าง ๆ ของรัฐ ทั้งที่เป็นระบบ บริการอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (e-Service) และระบบงานภายในของภาครัฐ (Back Office) ได้ โดยมีการควบคุมและรักษา ความปลอดภัยด้วยมาตรการอันเหมาะสม นอกจากนี้ระบบยืนยันตัวบุคคลดังกล่าว ยังรองรับการเข้าถึงระบบงานแบบรวมศูนย์ (Single Sign-On: SSO) เพื่อให้ผู้ใช้งาน สามารถลงชื่อเข้าใช้งานระบบบริการ อิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ (e-Service) ต่าง ๆ ได้ด้วยการ Log in ครั้งเดียวโดยไม่จ�ำเป็น ต้องลงชื่อเข้าใช้งานซ�้ำอีก ทั้งนี้ระบบยืนยัน ตัวบุคคลกลางเป็นก้าวส�ำคัญไปสู่การ ให้และรับบริการภาครัฐแบบครบวงจร ณ จุดเดียว (One Stop Service) ในลักษณะ Single Window Entry อันจะเป็นการอ�ำนวยความสะดวกต่อ ประชาชนในการเข้าถึงบริการของรัฐ ได้อย่างบูรณาการ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 128
  • 129. ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ (GovernmentDataExchangeCenter: GDX ) เป็นศูนย์กลาง ในการแลกเปลี่ยน ข้อมูลและเอกสารทะเบียนดิจิทัลระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ เพื่ออ�ำนวยความ สะดวกแก่ประชาชนและภาคเอกชน เมื่อใช้บริการจากภาครัฐช่วยให้หน่วยงาน ภาครัฐสามารถแลกเปลี่ยนเชื่อมโยง ข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล และเมื่อภาครัฐ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลในรูปแบบ ดิจิทัลได้ จึงไม่จ�ำเป็นต้องใช้ส�ำเนา เอกสารในรูปแบบกระดาษต่อไป โดยใน ระยะแรกจะเริ่มน�ำร่องกับบริการภาครัฐ ที่มีการเรียกขอส�ำเนาบัตรประจ�ำตัว ประชาชน ส�ำเนาทะเบียนบ้าน ภายใต้ 2 ศูนย์กลางแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ Government Data Exchange Center : GDX “โครงการยกเลิกส�ำเนาเอกสาร” และ ขยายผลไปสู่บริการยกเลิกเรียกขอเอกสาร ทะเบียนดิจิทัล/ใบอนุญาตอื่น ๆ ต่อไป แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 129
  • 130. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการบูรณาการบริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ของภาครัฐไทยในปัจจุบันส่วนใหญ่ ยังขาดการบูรณาการเพื่อเชื่อมโยงเข้ากับระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service) ของหน่วยงานอื่น ๆ ท�ำให้ประชาชนที่มาติดต่อหน่วยงานราชการต่าง ๆ ไม่ได้รับ ความสะดวกเท่าที่ควร อีกทั้งยังจ�ำเป็นต้องใช้ส�ำเนาหลักฐานในการเข้ารับบริการ ดังนั้นกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมหรือกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารได้จัดท�ำ กรอบแนวทางเชื่อมโยงรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ เวอร์ชัน 2.0 เพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบบริการร่วม e-Service ให้สามารถให้บริการ ภาครัฐแบบครบวงจร ณ จุดเดียว (One Stop Service) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 130
  • 131. โดยใช้สถาปัตยกรรมการออกแบบเชิงบริการ Services Oriented Architecture (SOA) เป็นแนวทางการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลของระบบต่าง ๆ ภายใน หน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน พัฒนา Web Service ส�ำหรับระบบงานภายใน ของหน่วยงาน และใช้ช่องทางการสื่อสารท�ำหน้าที่เป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง Web Service ต่าง ๆ ที่หน่วยงานรัฐที่จัดท�ำขึ้น ทั้งฝ่ายให้บริการ (Service Provisioning) และฝ่ายรับบริการ(Service Consumption) โดยใช้ API ในการส่งข้อมูลผ่าน Enterprise Service Bus (ESB) เป็นเครื่องมือช่วยลดอุปสรรคของความหลากหลาย ของเทคโนโลยีการเชื่อมโยงข้อมูลในการเปิดช่องทางบริการให้เป็นมาตรฐาน เดียวกันในการสื่อสารกับระหว่าง Web Service ของหน่วยงานภาครัฐดังแสดง ในรูปภาพที่ 21 รูปภาพที่ 21: ระบบบูรณาการการให้บริการ ภาครัฐโดยใช้ EnterpriseServiceBus(ESB) ที่มา: ปรับปรุงจาก (Marchionni, 2018) แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 131
  • 132. ข้อควรพิจารณาการออกแบบสถาปัตยกรรมการส่งข้อมูลผ่าน Enterprise Service Bus (ESB) มีดังนี้ 1 การเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงจากกระบวนการท�ำงานของ e-Service ที่ให้บริการ(และบริการที่เกี่ยวข้อง)อาจมีผลต่อหน่วยงานที่ใช้e-Serviceนั้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ให้บริการด�ำเนินการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ที่ใช้ภายในตัวบริการหรืออุปกรณ์เชื่อมต่อ Firewall 2 ทุกครั้งที่มีการเรียกใช้ e-Service กับบริการอื่น ๆ ต้องท�ำการตรวจสอบ ความสมบูรณ์ของการป้อนข้อมูลหรือทุกพารามิเตอร์ที่เกิดขึ้น ท�ำให้ต้องใช้ เวลาเพิ่มขึ้น และเครื่องแม่ข่ายท�ำงานหนักขึ้นท�ำให้ลดประสิทธิภาพโดยรวม 3 การบูรณาการระหว่างหน่วยงานอาจกลายเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน เนื่องจากความแตกต่างของระบบรักษาความปลอดภัยและข้อก�ำหนด (แม้ว่า Enterprise Service Bus จะท�ำงานได้อย่างถูกต้อง) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 132
  • 133. 4 ต้องมีการแลกเปลี่ยนใบรับรอง เช่น Certificate Authority (CA) เพื่อรับรองว่าได้ให้ไว้ซึ่งเอกสารที่น่าเชื่อถือ 5 การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีราคาแพงส�ำหรับการจัดเตรียมการ ให้บริการและความปลอดภัยภายในหน่วยงาน 6 แต่ละหน่วยงานต้องมีการตั้งทีมสนับสนุน (ตาม SLA ที่ตกลง) เพื่อรองรับ ความล้มเหลวในการให้บริการ 7 กระบวนการพัฒนา Service ที่ต้องมีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงาน มีขั้นตอนและใช้ระยะเวลาในการด�ำเนินงานมาก เช่น การท�ำบันทึกข้อตกลง ร่วมกัน (MOU) การศึกษากระบวนการหรืออาจต้องท�ำการปรับเปลี่ยน กระบวนการท�ำงานของหน่วยงานเพื่อการเชื่อมโยงข้อมูล การรับส่งข้อมูล การพัฒนาระบบ และการทดสอบระบบ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 133
  • 134. รูปภาพที่ 22: การเชื่อมโยงบูรณาการการให้บริการภาครัฐโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Marchionni, 2018) Government Blockchain Network ดังนั้นการน�ำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในการเชื่อมโยงงานบริการภาครัฐ แทนการใช้ Enterprise Service Bus (ESB) ดังแสดงในรูปภาพที่ 22 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 134
  • 135. โดยเป็นการเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย แบบ Peer-to-Peer และใช้ APIs ของ Node แต่ละตัวเชื่อมกับ Web Service ที่หน่วยงานจัดเตรียมไว้ในการเชื่อมโยง กับฐานข้อมูลทะเบียนของหน่วยงาน ในเครือข่าย Blockchain โดยแต่ละ Node จะท�ำการจัดเก็บข้อมูลชุดเดียวกัน และใช้กระบวนการ Consensus ในการ ตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนท�ำการ จัดเก็บข้อมูลลง Block ทั้งนี้รูปแบบ การจัดเก็บข้อมูลลงใน Blockchain อาจอยู่ในรูปแบบ On Chain7 หรือ Off Chain ตามความเหมาะสมในการ ออกแบบ และมี CA (Certification 7 ในระดับของ Transaction Layer สามารถแบ่งประเภทของการจัดเก็บข้อมูลบน Blockchain ได้เป็น 2 ชนิดคือ 1) “On Chain” คือการที่ข้อมูล ถูกบันทึกลง Blockchain โดยตรง 2) “Off Chain” คือการบันทึกต�ำแหน่งหรือตัวชี้ต�ำแหน่ง (Pointer) ของข้อมูลลงบน Blockchain ข้อดี ของการบันทึกข้อมูลลงบน Blockchain โดยตรงนั้นคือมั่นใจได้ว่าข้อมูลจะมีความปลอดภัย อันเนื่องมาจากคุณสมบัติการท�ำงานของ Blockchain และข้อมูลดังกล่าวสามารถมองเห็นได้ ทันทีส�ำหรับผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูล แต่ในเวลาเดียวกันการบันทึกข้อมูลที่ไฟล์ข้อมูลมี ขนาดใหญ่นั้นย่อมส่งผลต่อเวลาที่ใช้ในการด�ำเนินการสร้าง Block อย่างแน่นอน อีกทั้งอาจจะ ส่งผลต่อการวางแผนเรื่องของขนาดระบบเพื่อรองรับข้อมูลจ�ำนวนมหาศาลดังกล่าว ในทางตรง กันข้ามการเข้ารหัสลิงก์ หรือตัวชี้ต�ำแหน่งที่ข้อมูลถูกจัดเก็บอยู่แทนที่ข้อมูลจริง โดยผู้ใช้งานจะ ใช้ Private Key เพื่ออ่านข้อมูลใน Block ซึ่งก็คือลิงค์ หรือต�ำแหน่งที่จัดเก็บข้อมูลจริงเพื่อน�ำ ไปสู่การเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวนั่นเอง ซึ่งจะเป็นการช่วยลดขนาดของข้อมูลที่ จะถูกบันทึกลงใน Block ได้ ยกตัวอย่างเช่น ฟิล์ม X-Ray และ MRI ซึ่งเป็นไฟล์รูปที่มีขนาดใหญ่จึงจ�ำเป็นต้อง เก็บเป็นลิงก์ หรือตัวชี้ต�ำแหน่งของข้อมูลแทน ดังนั้นองค์กรควรจะต้องพิจารณาถึงประเภท ของข้อมูลด้วยในการออกแบบการจัดเก็บข้อมูลบน Blockchain Authority) ในการรับรองรายการ ธุรกรรมว่าเป็นธุรกรรมของหน่วยงาน นั้นจริง ทั้งนี้หน่วยงานแต่ละหน่วยงาน จะต้องมี Node ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปแบบ Light Node หรือ Full Node ติดตั้ง อยู่ในเครือข่าย Blockchain เมื่อมี การเรียกใช้บริการระบบจะท�ำการ แจกจ่าย Smart Contract ตามการ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 135
  • 136. รูปภาพที่ 23: องค์ประกอบทางเทคนิคการบูรณาการงานบริการภาครัฐ บนเทคโนโลยี Blockchain ที่มา: ปรับปรุงจาก (Jamsrandorj, 2017) หน‹วยงาน 1 Service/Micro services CA CA CA CA หน‹วยงาน 2 Service/Micro services หน‹วยงาน 4 Service/Micro services หน‹วยงาน 3 Service/Micro services บริการที่ผู้ใช้งานเลือกใช้ในบริการนั้น ๆ ไปยัง Node ต่าง ๆ บนเครือข่าย โดย Smart Contract จะเป็นตัวก�ำหนด หน้าที่ของแต่ละหน่วยงานระบุไว้ ซึ่งอาจ มากกว่าหนึ่งหน่วยงานก็ได้ในการด�ำเนิน การตามเงื่อนไขที่ระบุไว้เมื่อหน่วยงานได้ ด�ำเนินการครบตามเงื่อนไขที่ก�ำหนดไว้ กรณีด�ำเนินการเสร็จสิ้นตามสัญญา และระบบได้ตรวจสอบความถูกต้อง (Consensus) ก่อนท�ำการส�ำเนารายการ การท�ำธุรกรรมดังกล่าวไปยัง Node ต่าง ๆ บนเครือข่าย Blockchain BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 136
  • 137. จากรูปภาพที่ 23 เป็นการแสดงองค์ประกอบทางเทคนิคการบูรณาการงาน บริการภาครัฐบนเทคโนโลยี Blockchain ระหว่างหน่วยงานตั้งแต่สองหน่วยงาน ขึ้นไป เพื่อเห็นถึงองค์ประกอบและการเชื่อมต่อทางเทคนิค หลักการนี้สนับสนุนให้ หน่วยงานต่าง ๆ สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารกันได้ โดยใช้การควบคุมการเข้าถึง (Access Control System) หรือ Smart Contract ที่กระจายอยู่ตาม Node ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะมี Microservices, Local Storage และ Node บนเครือข่าย Blockchain ในการสื่อสารระหว่างหน่วยงานบนเครือข่าย โดยมีองค์ประกอบดังนี้ 1 Access Control Application ใช้ Smart Contract เป็นตัวก�ำหนดสิทธิ์ ในการเข้าใช้บริการ โดยแต่ละหน่วยงานสามารถก�ำหนดสิทธิ์ในการขอเข้าใช้ บริการของหน่วยงานได้ด้วยตัวเองผ่าน Smart Contract และเรียกใช้ Services ต่าง ๆ ผ่าน APIs ได้แก่ การก�ำหนด Service หรือ Microservices การให้สิทธิการเข้าถึงส�ำหรับ Service หรือ Microservices การโอนสิทธิ์การเข้าถึง การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึง การให้สิทธิ์การเข้าถึงส�ำหรับ Service หรือ Microservices เรียกใช้ Service หรือ Microservices แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 137
  • 138. 2 Local Database ทุก Node จะมีฐานข้อมูลภายในใช้เป็นแหล่งจัดเก็บ ข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย Blockchain เพื่อรับประกันว่าข้อมูลที่ถูกจัดเก็บ เป็นส�ำเนาเดียวกัน 3 Services หรือ Microservices เป็นช่องทางการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยน ข้อมูลระหว่างระบบงานต่าง ๆ ภายในหน่วยงานและระหว่างหน่วยงาน โดยผ่านตัว Access Control เรียกใช้ 4 Blockchain Cluster กลุ่มเครือข่ายคอมพิวเตอร์ รูปแบบ Private และ Permission-BasedBlockchainใช้ในการแชร์ข้อมูลที่ต้องใช้รวมกันและเก็บ ประวัติรายการข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดจาก Access Control สามารถตรวจสอบ ย้อนกลับได้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายการที่ถูกบันทึกในระบบได้ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 138
  • 139. จากหลักการที่ได้อธิบายไปแล้วข้างต้น ท�ำให้สามารถออกแบบภาพรวมการใช้ เทคโนโลยี Blockchain เพื่อการบูรณาการบริการและแลกเปลี่ยนข้อมูลภาครัฐ ดังแสดงในรูปภาพที่ 24 ผูŒใชŒงานสามารถเขŒาถึง ขŒอมูลพ�้นฐานของพวกเขา ที่หน‹วยงานภาครัฐจัดเก็บไวŒ (ขŒอมูลทะเบียนต‹าง ๆ) การยืนยันการทำธุรกรรม - KPI การยืนยันตัวตน - เลขที่บัตรประชาชน - เลขที่นิติบุคคล ประชาชนสามารถเลือกใชŒบร�การต‹าง ๆ จาก Smart Contract ที่ถูกกำหนดขั้นตอน การดำเนินงานของหน‹วยงานต‹าง ๆ ของบร�การนั้น ๆ ประชาชนสามารถใหŒสิทธิ์ การเขŒาขŒอมูลพ�้นฐานที่จำเปšน ใหŒแก‹หน‹วยงานต‹าง ๆ ที่ตŒอง ดำเนินการตามที่กำหนดไวŒ ใน Smart Contract ในธุรกรรมนั้นๆ ขŒอกำหนด ทางกฎหมายเกี่ยวกับ การเผยแพร‹ขŒอมูล จะถูกกำหนดไวŒใน Smart Contract Smart Contract - ธุรกรรมทะเบียนราษฎร - ธุรกรรมทะเบียนสมรส อ‹าน (Rand) เข�ยน (Write) เฉพาะไดŒรับสิทธิ์ การเขŒาถึง (Permission) อ‹าน (Rand) กฎระเบียบ ขŒอกำหนด ต‹างๆ ประชาชน หน‹วยงานภาครัฐ เฉพาะไดŒรับสิทธิ์ การเขŒาถึง (Permission) หน‹วยงานภาครัฐสามารถดำเนินงานบร�การตามกลไกภายในหน‹วยงาน และรับขŒอมูลที่จำเปšนตŒองใชŒในการใหŒบร�การแก‹ประชาชนตามสิทธิ์ที่พวกเขา ไดŒรับอนุญาติในการเขŒาถึงขŒอมูลของหน‹วยงานอื่น รูปภาพที่ 24: แสดงระบบนิเวศการให้บริการหน่วยงานภาครัฐ ที่มา: ปรับปรุงจาก (Cheng, Daub, Domeyer, & Lundqvist, 2017) แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 139
  • 140. การให้บริการประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลทะเบียนต่าง ๆ ของตนหรือการให้ หน่วยงานรัฐสามารถแชร์ข้อมูลที่จ�ำเป็นระหว่างการท�ำธุรกรรม รายการข้อมูลต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบจะถูกเข้ารหัสเก็บในฐานข้อมูลเฉพาะใน Blockchain ในรูปแบบ Private หรือ Permissioned Blockchain ที่ประชาชนต้องท�ำการยืนยันตัวตนผ่าน เลขที่บัตรประชาชน เลขที่นิติบุคคล รหัสผ่านของผู้ใช้บริการของหน่วยงานนั้น ๆ การก�ำหนดสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลเพื่อเรียกดู(อ่าน)และการเพิ่มรายการธุรกรรมใหม่(เขียน) หรือให้หน่วยงานมีสิทธิ์ในการอ่านหรือเปลี่ยนแปลงรายการข้อมูลธุรกรรมของ ประชาชนโดยใช้กุญแจสาธารณะ (Public Key) ในการแชร์ข้อมูลที่จ�ำเป็นต้องตรวจ สอบข้อมูลระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการจัดท�ำธุรกรรมให้บริการแก่ประชาชนและ กุญแจส่วนตัว (Private Key) ส�ำหรับแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล ผ่าน Smart Contract ซึ่งเป็นข้อตกลงส�ำหรับการควบคุมการด�ำเนินการจัดท�ำธุรกรรมตามที่ก�ำหนดไว้ใน Smart Contract ของธุรกรรมนั้น ๆ เป็นกลไกในการควบคุมล�ำดับขั้นตอน การด�ำเนินการ ว่าใครจะเป็นผู้เห็น เห็นอะไรได้บ้าง เมื่อไร และด�ำเนินการอย่างไร BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 140
  • 141. การด�ำเนินงานกอง บังคับการตรวจคน เข้าเมือง หน่วยงานรับการด�ำเนินงาน ระบบงานอ้างอิง ตรวจสอบข้อมูลคน ต่างด้าวขอเข้ามาใน ราชอาณาจักร สนง.ตรวจคนเข้าเมือง ระบบบัญชีเฝ้าดู สนง.ต�ำรวจแห่งชาติ - ระบบบัญชีเฝ้าดูขอหมายจับสากล - ทะเบียนประวัติอาชญากร กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ตรวจสอบประวัติการท�ำงาน คนต่างด้าว โรงพยาบาล ระบบเวชระเบียนหรือระบบนัดหมาย สถานกงสุล NON-IMMIGRANT VISA ตัวอย่างการบูรณาการงานบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยี Blockchain (Government Service Blockchain) กรณีการด�ำเนินการขออนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อเข้ารับ การรักษาพยาบาลของคนต่างด้าวของเจ้าหน้าที่ประจ�ำด่านตรวจคนเข้าเมือง ที่ประจ�ำอยู่ตามแนวชายแดน ดังแสดงในรูปภาพที่ 25 แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 141
  • 142. รูปภาพที่ 25: แผนภาพจ�ำลองขั้นตอนการขออนุญาตเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราว เพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล ประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการเชื่อมโยงงานบริการภาครัฐ สามารถจ�ำแนกได้ตามผู้ใช้งาน ดังต่อไปนี้ หน่วยงานผู้ให้บริการ การเผยแพร่ข้อมูล (Shared Data) การเปิดข้อมูลที่จ�ำเป็นใช้งานร่วมกัน การท�ำงานร่วมกัน (Multiple Parties) การบันทึกหรืออ่านข้อมูลจากฐาน ข้อมูลในการด�ำเนินการจัดท�ำรายการธุรกรรมเพื่อให้บริการเรื่องใดเรื่องหนึ่ง อาจมีหน่วยงานภาครัฐมากกว่าหนึ่งร่วมด�ำเนิน การโดยก�ำหนดพื้นที่ การเข้าถึงแหล่งข้อมูลแบบ Permissionless (Public Blockchain), Permissioned (Private หรือ Consortium Blockchain) Read & Write เร��มตŒนการทํางาน กองบังคับการตรวจคนเขŒาเมือง รับเร�่องขอ โดยสรŒาง Smart Contract กระจายไปยัง หน‹วยงานต‹างๆ หน‹วยงานที่เกี่ยวขŒอง รŒองขอขŒอมูลที่จําเปšนที่ระบุไวŒ ตามกลไกของ Smart Contract สิ�นสุดการทำงาน แต‹ละหน‹วยงาน ตรวจสอบระบบทะเบียน และส‹งผลดำเนินการ สำนักงานตรวจคนเขŒาเมือง เพ��มหร�อปรับปรุง ระบบงานทะเบียนคนเขŒาเมือง Read only Read only Read only กองบังคับการตรวจ คนเขŒาเมือง สถานกงสุล สำนักงานตรวจคนเขŒาเมือง สํานักงานตํารวจ โรงพยาบาล Government Blockchain Network เมื่อดำเนินการครบตามเง�่อนไข ใน Smart Contract ระบบ จะทำสำเนารายการธุรกรรม และแจกจ‹ายไปยังทุก Node บนเคร�อข‹าย การด�ำเนินงานกอง บังคับการ ตรวจคนเข้าเมือง หน่วยงาน รับการด�ำเนินงาน หน่วยงานอ้างอิง แจ้งผล การด�ำเนิน ตรวจสอบข้อมูลคนต่างด้าว ขอเข้ามาในราชอาณาจักร ตรวจคนเข้าเมือง ระบบบัญชีเฝ้าดู มีหรือไม่มี สนง.ต�ำรวจแห่งชาติ - ระบบบัญชีเฝ้าดูขอหมายจับสากล - ทะเบียนประวัติอาชญากร มีหรือไม่มี กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ตรวจสอบประวัติการท�ำงาน คนต่างด้าว มีหรือไม่มี โรงพยาบาล ระบบเวชระเบียนหรือระบบนัดหมาย มีหรือไม่มี สถานกงสุล NON-IMMIGRANT VISA มีหรือไม่มี BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 142
  • 143. ไม่ต้องอาศัยตัวกลาง สามารถตรวจสอบ (Auditability) การบันทึกรายการธุรกรรม (จากการ ให้บริการ) ภายในเครือข่าย Blockchain ได้ เมื่อเขียนแล้วจะไม่สามารถ เปลี่ยนแปลงหรือลบได้ มีAccessControlการก�ำหนดกฎเกณฑ์ต่างๆในการอนุญาตหรือปฏิเสธ เช่น รายการการร้องขอต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระบบว่าจะอนุญาตหรือปฏิเสธ เช่น สิทธิ์การเข้าใช้ทะเบียนข้อมูล การอ่าน การเขียน การแชร์ข้อมูล ของกลไกการด�ำเนินทางธุรกิจที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บริการ กับหน่วยงานหรือระหว่างหน่วยงาน การด�ำรงอยู่ของหลักฐาน (Proof of Existence) สามารถพิสูจน์ความเป็น เจ้าของจากหลักฐานที่ได้รับการท�ำธุรกรรม ผู้รับบริการ (ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ) ประชาชนผู้ยื่นค�ำขอไม่จ�ำเป็นต้องจัดเตรียมหลักฐานด้านเอกสารต่าง ๆ ที่มีการเก็บอยู่ระบบงานทะเบียน ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ ไม่ต้องรับรองส�ำเนาเอกสารช่วยลดโอกาสในการทุจริต หน่วยงานภาครัฐแต่ละแห่งด�ำเนินการตามกระบวนการภายในของตนเอง หากมีหน่วยงานรัฐหนึ่งเปลี่ยนแปลงกระบวนการหรืออุปกรณ์ภายใน หน่วยงานจะไม่มีผลกระทบหน่วยงานอื่น ๆ เนื่องจาก Node แยกกัน เป็นอิสระ ไม่มีข้อก�ำหนดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อโดยตรง เนื่องจากได้รับการรับรอง โดยพื้นฐานโปรโตคอลการแจกจ่ายของโปรโตคอล Blockchain และ APIs แบบมาตรฐาน ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูล แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 143
  • 144. กรณีศึกษาการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain การพัฒนาระบบต้นแบบ e-Referral โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เกิดจาก แนวคิดในการพัฒนาระบบเชื่อมโยง และแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพแห่งชาติ (NationalHealthInformationExchange Platform) ที่เชื่อมต่อทุกหน่วยงานด้าน Healthcare เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โรงพยาบาล คลินิก หน่วยงานประกัน สุขภาพหน่วยงานวิจัยและหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยน ข้อมูลระหว่างกันได้แบบเรียลไทม์ ภายใต้มาตรฐานข้อมูลสุขภาพเดียวกัน อีกทั้งยังจะต้องค�ำนึงถึงความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วย เป็นส�ำคัญ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 144
  • 145. โดยแนวคิดดังกล่าวอ้างอิงและ สอดคล้องกับรายงานการวิเคราะห์ ยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สุขภาพ (eHealth) จัดท�ำโดยศูนย์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประจ�ำปี 2558 ในกลยุทธ์ที่ 2: ว่าด้วยการ พัฒนาคลังข้อมูลสุขภาพ โดยมีเป้าหมาย ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการให้ผู้ป่วยที่ต้อง ส่งต่อไปรับการรักษายังสถานบริการอื่น จะต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยสถานบริการต้นทางมีข้อมูลด้าน การแพทย์และสุขภาพรายบุคคลเพื่อ การก�ำกับติดตาม เฝ้าระวัง และดูแล ปัญหาสุขภาพของประชาชนในเขตพื้นที่ รับผิดชอบ ดังนั้นส่วนหนึ่งของมาตรการ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ ก็คือการพัฒนาระบบการแลกเปลี่ยน และส่งต่อผู้ป่วยระหว่างสถานบริการ ทุกระดับจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทางการแพทย์เพื่อการส่งต่อผู้ป่วย (Medical Record Exchange) ทั้งแบบ ผู้ป่วยทั่วไปและเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ป่วย สามารถไปรับบริการจากสถานบริการ ใดก็ได้ รวมถึงรายงานการวิเคราะห์ ยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ สุขภาพ (eHealth) จัดท�ำโดยศูนย์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส�ำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประจ�ำปี 2560-2569 ในยุทธศาสตร์ที่ 3: ว่าด้วยการสร้างมาตรฐานของระบบ ข้อมูลสุขภาพ การบูรณาการข้อมูล สารสนเทศ และการเชื่อมโยงแลก เปลี่ยนข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ โดย เฉพาะในกลยุทธ์ที่ 1: ว่าด้วยการสร้าง มาตรฐานระบบข้อมูลสุขภาพที่สามารถ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 145
  • 146. แลกเปลี่ยนและเชื่อมโยง (Standards and Interoperability) กันได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงยุทธศาสตร์ ที่ 4: ว่าด้วยการขับเคลื่อนและพัฒนา นวัตกรรมระบบบริการและโปรแกรม ประยุกต์ด้าน eHealth ที่เป็นประโยชน์ ต่อระบบบริการสุขภาพ (Healthcare Service Delivery) และประชาชน โดยสนับสนุนให้มีโครงการต้นแบบที่ ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกในการ ขับเคลื่อน eHealth ที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการขับเคลื่อนการ ปฏิบัติงานในระบบบริการสุขภาพให้มี ประสิทธิภาพจ�ำเป็นต้องอาศัยการแลก เปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ(HealthInformation Exchange) ที่สะดวกรวดเร็วและ ปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการตรวจ รักษาผู้ป่วย การส่งต่อผู้ป่วย การเข้าถึง ข้อมูลด้านสุขภาพของประชาชน การเบิกจ่ายประกันสุขภาพ การป้องกัน โรคระบาดไปจนถึงการตัดสินใจวางแผน และพัฒนานโยบายด้านสุขภาพ โดยเฉพาะในเรื่องการส่งต่อผู้ป่วย (Patient Referral) การขาดประสิทธิภาพ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพระหว่าง โรงพยาบาลได้สร้างปัญหาตามมา มากมาย ทั้งกับแพทย์ที่ไม่สามารถเข้าถึง ข้อมูลทั้งหมดของผู้ป่วยได้ก่อนรับการ ส่งต่อ ทั้งกับผู้ป่วย และโรงพยาบาลหรือ คลินิกที่มีความไม่สะดวกในการเบิกจ่าย รวมไปถึงหน่วยงานประกันสุขภาพที่ ไม่สามารถติดตามและตรวจสอบการ ส่งต่อเพื่อน�ำไปปรับปรุงนโยบายและ กฎระเบียบให้ดียิ่งขึ้นได้ ปัญหาหลักในปัจจุบันของระบบ ข้อมูลสุขภาพของประเทศซึ่งเป็นอุปสรรค ต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพเกิด จากการท�ำงานเก็บข้อมูลซ�้ำซ้อนของ บุคลากรด้านสาธารณสุข การไม่มี BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 146
  • 147. มาตรฐานของข้อมูล การไม่มีระบบกลาง แลกเปลี่ยนข้อมูลของประเทศ ปัญหา ความปลอดภัยทางไซเบอร์ของการ แลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามองค์กร ปัญหา เกณฑ์การก�ำกับดูแลที่ไม่ชัดเจน ซึ่งปัญหานี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบกับ หน่วยงานผู้ให้บริการทางสาธารณสุข เท่านั้น ตัวประชาชนเจ้าของข้อมูลเอง ก็ไม่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ ข้อมูลสุขภาพของตนเองได้อีกด้วย โดย ปัญหาการแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพ ดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ด้วยเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มี ศักยภาพส�ำหรับการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยน ข้อมูลระหว่างระบบ (Interoperability) ที่มีประสิทธิภาพ ข้อมูลมีความถูกต้อง โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ซึ่งสามารถ เป็นจุดเริ่มต้นของการแก้ไขปัญหาด้าน ข้อมูลสุขภาพของประเทศได้ ดังนั้นด้วยเหตุผลดังกล่าวไปแล้ว ข้างต้น ส�ำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล องค์การมหาชน (สพร.) จึงได้ร่วมมือกับ ส�ำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร ในการพัฒนา ระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการน�ำ เทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อ ต่อยอดนวัตกรรมการบริการของหน่วย งานภาครัฐ รวมถึงผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยี Blockchain จนน�ำไปสู่การยกระดับ ภาครัฐไทยสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ที่มี การบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ตั้งแต่ การเชื่อมโยงข้อมูล การบริการ ไปจนถึง การด�ำเนินงานได้ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 147
  • 148. ภาพรวมสถาปัตยกรรมระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain ภาพรวมของระบบต้นแบบe-ReferralบนเทคโนโลยีBlockchainประกอบไปด้วย Blockchain Node จ�ำนวน 4 Node เพื่อแทน Node ของโรงพยาบาลปฐมภูมิ โรงพยาบาลทุติยภูมิโรงพยาบาลตติยภูมิและผู้บริหารระบบดังแสดงในรูปภาพที่26 V Node With document storage V Node With document storage V Node V Node With document storage Using web-based eRefer with NHSO's document storage HYPERLEDGER Virtual Hospital #1 (รพ.ตติยภูมิ) + HIS Virtual Hospital #2 (รพ.ทุติยภูมิ) + HIS Virtual Hospital #3 (รพ.ปฐมภูมิ) + no HIS Patient Virtual NHSO eRefer Portal Dashboard & Report รูปภาพที่ 26: ภาพรวมสถาปัตยกรรมระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 148
  • 149. การออกแบบระบบต้นแบบดังกล่าว จะไม่เชื่อมต่อกับระบบบริหารข้อมูล โรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) โดยตรง แต่จะเชื่อมต่อ กับฐานข้อมูลเสมือน เพื่อจ�ำลอง สถานการณ์การเชื่อมต่อผ่าน Database View ที่โรงพยาบาลสร้างขึ้นไว้บนระบบ Cloudส่วนตัวส�ำหรับงานระบบแลกเปลี่ยน ข้อมูลสุขภาพโดยเฉพาะ (ซึ่งปัจจุบัน ติดตั้งอยู่บนระบบ G-Cloud ของ สพร.) รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบฐานข้อมูล สิทธิประกันสุขภาพที่ได้สมมติขึ้นด้วยทั้งนี้ ในการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral ได้ค�ำนึงถึงสิทธิในการเป็นเจ้าของข้อมูล ของผู้ป่วยเป็นส�ำคัญ ดังนั้นข้อมูลที่ถูกใช้ ในการทดสอบระบบต้นแบบ e-Referral ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลผู้ป่วย ข้อมูล โรงพยาบาล จึงเป็นข้อมูลสมมติเพื่อใช้ ในการทดสอบระบบต้นแบบ e-Referral เท่านั้น แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 149
  • 150. ทั้งนี้ในการจัดท�ำระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain ได้เลือก โครงสร้างฐานข้อมูลด้านการแพทย์และสุขภาพเพื่อการส่งต่อผู้ป่วย OPD, IPD และ AE/ER ส�ำหรับหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หรือที่รู้จักกันในชื่อระบบ 13 แฟ้ม มาเป็นมาตรฐานข้อมูล สุขภาพในโครงการนี้ โดยมาตรฐานข้อมูลดังกล่าวประกอบไปด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้ ข้อมูลผู้ป่วย (PID- Patient Identification) ข้อมูลบุคคลอ้างอิง (NK1- Contact Person) ข้อมูลการแพ้ (AL1- Patient Allergy) ข้อมูลการส่งต่อ (RF1- Referral Information) ข้อมูลการวินิจฉัยโรค (DG1- Diagnosis) ข้อมูลอาการเจ็บป่วย (Vital Signs) ข้อมูลการเข้ามารับการรักษา (PV1- Patient Visit) ข้อมูลท�ำหัตถการและผ่าตัด (PR1- Procedure) ข้อมูลผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ (OBL- Observation LAB Result) ข้อมูลผลตรวจจากภาพถ่ายทางการแพทย์ (OXB- Observation X-Ray Result) ข้อมูลยาและเวชภัณฑ์ (RXO- Pharmacy/ Treatment Order) ข้อมูลผู้ให้บริการ (PRD- Provider Data) ข้อมูลการนัดหมายต่อเนื่อง (APP- Appointment Information) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 150
  • 151. โดยเลือกใช้ Hyperledger Fabric เวอร์ชัน1.0ซึ่งเป็นOpenSourceในการ พัฒนาระบบต้นแบบดังกล่าว โดย Hyperledger Fabric คือ Blockchain Platformซึ่งถูกพัฒนาขึ้นภายใต้โครงการ Hyperledger ของ Linux Foundation และเป็นเทคโนโลยี Blockchain ประเภท PrivateหรือPermissionedBlockchain ที่มีสถาปัตยกรรมแบบ Modular และ สามารถเขียน Smart Contract เพื่อให้ ท�ำงานตามเงื่อนไขได้ โดยบรรจุขั้นตอน การตรวจสอบต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การเรียกดูข้อมูลผู้ป่วย ประวัติการ รักษา การนัดหมาย รวมถึงข้อมูลที่ จ�ำเป็นส�ำหรับการส่งต่อผู้ป่วยของโรง พยาบาลที่เกี่ยวข้อง โดยใช้ Smart Contract ในการควบคุมขั้นตอน Frontend PIN code React Library/ Runtime HTML CSS API Server Hospital Create, Update, Get Hospital By ID, Get Hospital List Patient Create, Update, Get Hospital By ID, Get Hospital List Refer Refer, Approve, Reject Defer, Get Refer Order System Login,GetPatientView, Get Patient History, Get Hospital Report Hyperledger Composter REST Server Refer, Approve, Reject, Defer Request Profile, Approve Request, Clear Profile, Reject request MEMBERSHIP Hyperledger Fabric 1.0 BLOCKCHAIN TRANSACTIONS CHAINCODE Registration Membership Services Identity Management Auditability Blockchain Services Event Stream Chaincode Service Consensus Manager P2P Protocol Ledger Storage Distributed Ledger Secure Registry Secure Cortianner Services รูปภาพที่ 27: รายละเอียดการออกแบบระบบต้นแบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain การตรวจสอบต่าง ๆ ซึ่งใช้ Chaincode เป็นเครื่องมือในการจัดท�ำSmartContract ทั้งนี้ในการพัฒนาระบบต้นแบบดังกล่าว ได้น�ำเอา Business Logic มาเป็น เงื่อนไขในการสร้างSmartContractและ Deploy ลง Hyperledger Fabric ผ่าน Composer และสร้าง API ด้วย REST Sever ของ Composer เพื่อเป็นส่วน ติดต่อกับระบบ ดังแสดงในรูปภาพที่ 27 แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 151
  • 152. ทั้งนี้ REST Server ของ Hyperledger Composer จะสร้าง REST API ขึ้นมาให้อัตโนมัติจาก Composer Model ซึ่ง API ของระบบต้นแบบ e-Referral บน REST Sever ประกอบไปด้วย 8 API ดังต่อไปนี้ Refer: ใช้เพื่อเริ่มการขอส่งต่อผู้ป่วย Approve: รับการส่งต่อผู้ป่วย Reject: ปฎิเสธการส่งต่อผู้ป่วย CancelReject: ยกเลิกการปฎิเสธการส่งต่อ Defer: ขอเลื่อนเวลาส่งต่อ RequestProfile: ขอดูข้อมูลผู้ป่วย ApproveRequest: ผู้ป่วยเจ้าของข้อมูลอนุญาตให้ดูข้อมูลของตนเอง ClearProfile: ปิดการเข้าถึงข้อมูลเมื่อหมดเวลาที่อนุญาตให้เข้าดูข้อมูล BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 152
  • 153. Hospital: API เกี่ยวกับโรงพยาบาล End point: /v1/api/hospital Method: POST Create Hospital PUT Update Hospital GET Get Hospital List GET Get Hospital By ID DEL Delete Hospital Patient: API เกี่ยวกับผู้ป่วย End point: /v1/api/patient Method: POST Create Patient PUT Update Patient GET Get Patient List GET Get Patient By ID DEL Delete Patient แต่เนื่องจากAPIบนRESTServerที่ ถูกสร้างโดยอัตโนมัติจาก Hyperledger Composer นั้นเป็น API ทั้งหมด ของระบบดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ซึ่งหลายตัวเป็น API ที่ไม่ต้องการเปิด ให้ระบบภายนอกเรียกใช้ หรือมี Data Format ที่เข้าใจยากส�ำหรับผู้ที่ไม่มีส่วน เกี่ยวข้องกับระบบ Blockchain ดังนั้น การพัฒนาระบบต้นแบบ e-Referral ด้วยเทคโนโลยี Blockchain จึงสร้าง API Server ขึ้นมาเป็น Middle Tier โดยท�ำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อAPIส�ำหรับ การเรียกใช้งานซึ่งประกอบไปด้วย5API ดังต่อไปนี้ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 153
  • 154. End point: /v1/api/queries/ selectpatient/ Method: GET Select Patient GET Select Refer Order GET Select Refer Order copy Other Method: POST Login GET Get Refer Incoming List GET Get Refer Outgoing List POST Hospital Refer GET Get Patient View Transaction: API เกี่ยวกับการส่งต่อผู้ป่วย End point: /v1/api/transaction/refer Method: GET Get Refer POST Refer POST Approve GET Get Refer Order POST Cancel Reject POST Reject POST Defer BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 154
  • 155. Trusted Execution Environment (TEE) Referral Refer Collect 2. get patient historicdata Hospital A Hospital B Hospital B Hospital C 3.GotPatientdata 1. refer to Hospital C 4. notify patient referral 5. accept/reject ในส่วนสุดท้ายของการออกแบบ ระบบต้นแบบ e-Referral คือ การพัฒนา ส่วนของ Front End เพื่อใช้โต้ตอบกับ ผู้ใช้งาน โดยการพัฒนาในส่วนดังกล่าว ใช้ ReactJS เป็น Framework และ Cascading Style Sheet หรือ CSS ในการจัดรูปแบบการแสดงผลของ เอกสาร HTML โดยในล�ำดับถัดไปเป็นการแสดง ตัวอย่างเพียงบางส่วนของ ขั้นตอน การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ดังแสดง ในรูปภาพที่ 28 รูปภาพที่ 28: แผนภาพแสดงขั้นตอนการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 155
  • 156. การส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาล ซึ่งในกรณีนี้จะเกิดขึ้นจากการประเมิน ของแพทย์จ�ำเป็นต้องส่งต่อการรักษาโดย ส่งให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลปฐมภูมิ (โรงพยาบาล A) เป็นผู้คีย์ข้อมูลการ ส่งต่อผู้ป่วยให้โรงพยาบาลที่มีความ พร้อมมากกว่า เริ่มจากเจ้าหน้าที่ของ โรงพยาบาล A เข้าใช้ระบบ e-Referral จาก Username Password ของ โรงพยาบาล A เพื่อเข้าสู่หน้าจอการ ด�ำเนินงานซึ่งเทียบได้กับ Wallet ของ Blockchain และได้รับ Public Key และ Private Key เพื่อใช้ส�ำหรับการเข้ารหัส รายการธุรกรรม โดยรายการธุรกรรม ดังกล่าว คือ การขอส่งต่อผู้ป่วย เมื่อ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล A กดปุ่ม เพื่อส่งรายการขอส่งต่อผู้ป่วยไปยัง โรงพยาบาลทุติยภูมิ (โรงพยาบาล C) ระบบ e-Referal จะท�ำการส่งรายการขอ ส่งต่อผู้ป่วยซึ่งถูกเข้ารหัสด้วยPublicKey พร้อมSmartContractว่าด้วยข้อก�ำหนด ต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งต่อผู้ป่วย ไปยัง Node อื่น ๆ บนเครือข่าย Blockchain ของระบบ e-Referral และในกรณีที่ โรงพยาบาล C ตอบรับการส่งต่อเพื่อรับ เข้าเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาล C ดังนั้น โรงพยาบาล C จะสามารถเรียกดูประวัติ การรักษาพยาบาลของผู้ป่วยที่เคยเข้ารับ การรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลอื่น ๆ ที่อยู่ในเครือข่าย Blockchain ของระบบ e-Referral ได้จากข้อก�ำหนดที่เขียน ไว้ใน Smart Contract ว่าด้วยเรื่อง ข้อก�ำหนดในการส่งต่อผู้ป่วย BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 156
  • 157. ในล�ำดับถัดไปเป็นการแสดงตัวอย่าง หน้าจอการท�ำงานเพียงบางส่วนของระบบ e-Referral รูปภาพที่ 29: ตัวอย่างการเขียนโปรแกรมของการบริหารสิทธิในการเข้าถึงและใช้งาน ข้อมูลผู้ป่วย โดยใช้ Smart Contract โรงพยาบาลตŒนทางสามารถส‹งต‹อผูŒป†วยผ‹านหนŒาจอระบบ e-Referral ตัวอย่างที่1การบริหารสิทธิในการเข้าถึงและใช้งานข้อมูลผู้ป่วยโดยใช้SmartContract แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 157
  • 158. รูปภาพที่ 30: โรงพยาบาลต้นทางสามารถส่งต่อผู้ป่วยผ่านหน้าจอระบบ e-Referral ตัวอย่างที่ 2 ตัวอย่างหน้าจอการส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลปฐมภูมิ โรงพยาบาลทุติยภูมิ และโรงพยาบาลตติยภูมิ โรงพยาบาลตŒนทางสามารถส‹งต‹อผูŒป†วยผ‹านหนŒาจอระบบ e-Referral BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 158
  • 159. รูปภาพที่31:โรงพยาบาลปลายทางสามารถส่งค�ำขอส่งต่อผู้ป่วยผ่านหน้าจอระบบe-Referral รูปภาพที่32:โรงพยาบาลปลายทางสามารถเข้าดูข้อมูลผู้ป่วยในระบบ13แฟ้มได้ โรงพยาบาลปลายทางสามารถส‹งคำขอส‹งต‹อผูŒป†วยผ‹านหนŒาจอระบบ e-Referral โรงพยาบาลปลายทางสามารถเขŒาดูขŒอมูลผูŒป†วยในระบบ 13 แฟ‡มไดŒ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 159
  • 160. รูปภาพที่ 33: โรงพยาบาลปลายทางสามารถตอบรับ ปฏิเสธ หรือขอเลื่อนเวลาการส่งต่อผู้ป่วยได้ โรงพยาบาลปลายทางสามารถตอบรับ ปฏิเสธ หร�อขอเลื่อนเวลาการส‹งต‹อผูŒป†วยไดŒ โรงพยาบาลปลายทางสามารถตอบรับ ปฏิเสธ หร�อขอเลื่อนเวลาการส‹งต‹อผูŒป†วยไดŒ รูปภาพที่ 34: ตัวอย่าง Log การส่งต่อผู้ป่วยของระบบ e-Referral BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 160
  • 161. ตัวอย่างที่ 2 ตัวอย่างหน้าจอแสดงรายงาน รูปภาพที่ 35: หน้าจอ Dashboard แสดงรายงานต่าง ๆ ของระบบ e-Referral หนŒาจอ Dashboard แสดงรายงานต‹าง ๆ ของระบบ e-Referral หนŒาจอสำหรับการ Performance Monitoring , Report และ Throughput ใน Component ต‹าง ๆ ของระบบ Hyperledger Blockchain รูปภาพที่ 36: หน้าจอส�ำหรับการ Performance Monitoring , Report และ Throughput ใน Component ต่าง ๆ ของระบบ Hyperledger Blockchain แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 161
  • 162. ทั้งนี้ผลจากการศึกษาการพัฒนาระบบต้นแบบ e-Referral พบว่าปัจจัย ความส�ำเร็จในการพัฒนาต่อยอดระบบต้นแบบ e-Referral เพื่อน�ำไปสู่การยกระดับ การให้บริการประชาชน ประกอบด้วย การก�ำหนดมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ (Health Data Standard) เนื่องจาก ระบบสุขภาพของไทยได้รับการพัฒนาขึ้น จากหลายหน่วยงาน จึงมีความแตกต่าง และหลากหลาย โดยแต่ละระบบจะมีการ ออกแบบฐานข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะ ของตนเอง จึงท�ำให้มีความแตกต่าง และหลากหลายของโครงสร้าง ดังนั้น จึงจ�ำเป็นต้องมีการออกแบบมาตรฐาน ข้อมูลสุขภาพขึ้นมา เพื่อให้สามารถ แลกเปลี่ยนข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ข้อมูลได้ การก�ำหนดมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ Health Data Standard 1 BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 162
  • 163. การประสานความร่วมมือ(Cooperation) ระหว่างหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั้งใน ภาครัฐและภาคเอกชน ในการเชื่อมต่อ กับระบบบริหารจัดการข้อมูลโรงพยาบาล (Hospital Information System: HIS) ยกตัวอย่างเช่น HosXP, HosOS, Trackcare รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบ 2 การประสานความร่วมมือ Cooperation หลักประกันสุขภาพ ดังนั้นหากสามารถ เชื่อมโยงระบบ e-Referral เข้ากับ ฐานข้อมูลของระบบเหล่านี้ได้ จะช่วย ลดความผิดพลาดจากการกรอกข้อมูล การท�ำงานที่ซ�้ำซ้อน รวมถึงต้นทุนใน การท�ำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการ เชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ อีกทั้ง ยังสามารถท�ำให้เกิดการใช้ประโยชน์ จากข้อมูลทางการแพทย์ในการสร้าง นวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม การแพทย์ต่อไปในอนาคตได้ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 163
  • 164. โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (IT Infrastructure) โครงสร้างพื้นฐานทางไอทีเป็นอีกปัจจัยที่ส่งผล ให้การน�ำระบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องสามารถ จ�ำแนกออกได้เป็น 3 กลุ่มด้วยกัน ดังต่อไปนี้ 3 โครงสร้างพื้นฐานด้านไอที IT Infrastructure อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล Storage เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่จ�ำเป็นส�ำหรับ เทคโนโลยี Blockchain โดยท�ำหน้าที่ใน การเก็บข้อมูลร่วมกัน รวมถึงเก็บข้อมูล ที่มีมูลค่า ยกตัวอย่างเช่น ข้อมูลสุขภาพ ประวัติการเข้ารับการตรวจรักษา ส่วนต่อเชื่อมกับระบบไอที ของโรงพยาบาล Hospital Interface เนื่องจากระบบ e-Referral ต้องอ้างอิง ข้อมูลจากฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ โรงพยาบาลดังนั้นส่วนต่อเชื่อมกับระบบ ไอทีของโรงพยาบาลจึงเป็นโครงสร้าง พื้นฐานหลักที่ส�ำคัญ เพื่อให้ระบบ สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้แบบ Real-Time และมีความถูกต้อง BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 164
  • 165. ระบบการสื่อสาร เนื่องจากผู้เข้าร่วมหรือสมาชิกในระบบ Blockchain จ�ำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อ สื่อสารถึงกันตลอด ดังนั้นระบบการ สื่อสารจึงเป็นโครงสร้างที่ส�ำคัญเพื่อ ให้เกิดการสื่อสารกันภายในเครือข่าย ยกตัวอย่างเช่น การส่งข้อมูลสถานะ ทั่วไป การยืนยันตัวตนผู้เข้าร่วมระบบ ไปจนถึงข้อมูลการถ่ายโอนสินทรัพย์ที่มี มูลค่าภายในเครือข่าย เนื่องจากเทคโนโลยี Blockchain มีลักษณะเป็นโครงสร้างแบบกระจาย (Distributed Architecture) ดังนั้น หน่วยงานหรือสมาชิกที่เข้ามาร่วม ภายในเครือข่าย จ�ำเป็นต้องเตรียมความ พร้อมของอุปกรณ์ ทั้งฝั่งองค์กรเอง และระบบการสื่อสาร เพื่อให้ระบบโดย รวมสามารถด�ำเนินการต่อไปได้อย่างมี ประสิทธิภาพ แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 165
  • 166. การเตรียมความพร้อมของบุคลากรที่เกี่ยวข้อง Human Resource Management 4 ก�ำลังคนและศักยภาพของบุคลากรด้าน สาธารณสุขทั้งในส่วนของภาครัฐและภาค เอกชน เป็นอีกปัจจัยส�ำคัญที่ส่งผลต่อ ความส�ำเร็จของการประยุกต์ระบบ e-Referral บนเทคโนโลยี Blockchain โดยสามารถจ�ำแนกกลุ่มของบุคลากรที่ เกี่ยวข้องตามการด�ำเนินงานออกเป็น 4 กลุ่ม ดังต่อไปนี้ ผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรม สาธารณสุข ผู้ดูแลระบบ System Administrators มีหน้าที่ในการวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อ รองรับการใช้งานเทคโนโลยีวางนโยบาย และกฎระเบียบต่าง ๆ ในการด�ำเนินการ สั่งการ มอบหมายงาน และประเมิน ผลการท�ำงานแก่ผู้ที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่ในการดูแลระบบ กิจกรรมภายใน ระบบ การสื่อสารของระบบให้สามารถ ด�ำเนินการได้ปกติรวมทั้งท�ำหน้าที่ในการน�ำ ระบบขึ้นใช้งาน(Deployment)การต่อเชื่อม และการปรับตั้งค่า (Configuration) ระบบของหน่วยงานให้เชื่อมต่อกับระบบ e-Referral ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 166
  • 167. เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ System Operators เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ Auditors มีหน้าที่ในการดูแล ตรวจสอบการท�ำงาน (Monitoring)เพื่อให้การเชื่อมต่อระหว่าง ระบบ e-Referral และ Application ที่เกี่ยวข้องสามารถท�ำงานได้อย่างปกติ และต่อเนื่อง มีหน้าที่ในการตรวจสอบการท�ำงานของ ระบบ ว่ามีความถูกต้องเหมาะสมตาม ข้อตกลงที่ก�ำหนดหรือไม่ เริ่มตั้งแต่การ ตรวจสอบธุรกรรมที่เกิดขึ้นภายในระบบ สิทธิการเข้าถึงของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งหมดรวมถึงตรวจสอบความเที่ยงตรง (Integrity) ของธุรกรรมที่เกิดขึ้นและ บัญชีที่จัดเก็บ เพื่อให้สอดคล้องกับ กฎระเบียบที่มีการก�ำหนดขึ้น แนวคิดและหลักการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับ ภาครัฐ ภายใต้บริบทของประเทศไทย 167
  • 169. ตารางสรุปตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain ส�ำหรับงานบริการภาครัฐในต่างประเทศ ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง ประเทศ ออสเตรเลีย วุฒิสมาชิกประเทศออสเตรเลียได้มี การจัดตั้งคณะทำ�งานขึ้น เพื่อทำ�หน้าที่ ขับเคลื่อนการนำ�เทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในประเทศออสเตรเลียทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ประกาศในปี 2017 (Martinovic, Kello, & Sluganovic, 2017) ตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย (ASX) ได้ประกาศจะนำ�เทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อแทนที่ระบบการหักบัญชี และการชำ�ระบัญชีปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ระบบ CHESS (The Clearing House Electronic Sub- Register System) ประกาศในปี 2017 และเริ่ม ใช้จริงในปี 2018 (Martinovic et al., 2017) ประเทศจีน ระบบบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain (Social Security Funds Management System) ประกาศในปี 2016 (Martinovic et al., 2017) การประเมินมูลค่าสินเชื่อที่อยู่อาศัย โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain (Mortgage Valuations on Blockchain) ประกาศในปี 2016 (Martinovic et al., 2017) ระบบการบริหารจัดการสินทรัพย์ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain (Blockchain-Based Asset Custody System (PSBC)) ประสบความ สำ�เร็จในการ ใช้งาน โดยใช้ งานจริงตั้งแต่ปี 2016 (Martinovic et al., 2017) เอกสารแนบท้าย 169
  • 170. ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง การพัฒนาโครงการเมืองนวัตกรรม ด้านพลังงาน (The Smart City Project of Energy Innovation) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain รวมกับ เทคโนโลยีด้านอื่น ๆ ยกตัวอย่างเช่น Cloud Computing, Big Data, IoT และ AI ขึ้นที่เมือง Hangzhou ประกาศในปี 2016 (Buterin, Mccaleb, Shen, & Bai, 2018) ระบบการจัดเก็บภาษี (Intelligent Tax System) โดยทำ�งานร่วมกับระบบ ใบแจ้งหนี้อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Invoice System) ซึ่งทำ�งานอยู่บน เทคโนโลยี Blockchain เพื่อป้องกัน การหลีกเลี่ยงภาษี โดยใช้เอกสาร ใบแจ้งหนี้ปลอม ประกาศในปี 2018 (Sundararajan, 2018) ระบบการตรวจสอบความปลอดภัย ของอาหารทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Food Supply Chain Traceability System) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ประกาศในปี 2016 (Mao, Wang, Hao, & Li, 2018) นครรัฐดูไบ ประเทศสหรัฐ อาหรับเอมิเรต ระบบบริหารจัดการข้อมูลและเอกสาร ภาครัฐ (Government Documents Management System) อยู่ระหว่าง ดำ�เนินการ (Martinovic et al., 2017) หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Passport) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ประกาศในปี 2017 (Martinovic et al., 2017) ระบบข้อมูลการขนส่งสินค้าแบบ เรียลไทม์ (Real-time Shipment Information System) ประกาศในปี 2017 (Martinovic et al., 2017) ระบบจัดเก็บและส่งต่อข้อมูล ประวัติการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย (Electronic Health Record System: EHRs) ประกาศในปี 2017 (Kong, 2018) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 170
  • 171. ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง ระบบการออกใบรับรองเพชร (Diamond Certificate) โดย The Dubai Multi Commodities Centre ได้นำ� เทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ใน การออกใบ Certificate ให้กับเพชร หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Kimberley Certificates” ประกาศในปี 2017 (Ngo, 2017) การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) ภายใต้ ชื่อโครงการ “Dubai Real-Estate Blockchain” ประกาศในปี 2017 (Journo, 2018) ประเทศ เอสโตเนีย eID (electronic ID management system) ใช้งานจริง แล้ว ปัจจุบัน อยู่ระหว่าง การอัพเกรด เวอร์ชัน (Shen, 2016) ระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ หรือ e-Health (Medical Information Management System) ใช้งานจริงแล้ว ปัจจุบันอยู่ ระหว่างการ อัพเกรดเวอร์ชัน (Basu, 2018) ระบบเอกลักษณ์ดิจิทัลข้ามชาติ หรือ e-Residency (A First-of-a-Kind A Transnational Digital Identity) ใช้งานจริงแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 (Sullivan & Burger, 2017) ระบบศาลดิจิทัล (Digital Court System: e-Court) โดยใช้เทคโนโลยี KSI Blockchain มาช่วยในเรื่องของ การป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร หรือที่เรียกว่าระบบ e-File ใช้งานจริงแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 (Jun, 2018) ระบบ Document Registries ต่าง ๆ เช่น Business Registry, Property Registry, Succession Registry และ Healthcare Registry ใช้งานจริงแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 (Martinovic et al., 2017) เอกสารแนบท้าย 171
  • 172. ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง ระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง (i-Voting) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ใช้งานจริงแล้ว ตั้งแต่ปี 2015 (Electronic Voting Committee, 2016) ประเทศฝรั่งเศส ระบบการการซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ไม่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน ประกาศในปี 2017 (Martinovic et al., 2017) ประเทศกานา การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) โดย NGO “Bitland” อยู่ระหว่าง ดำ�เนินการ (Aitken, 2016) ประเทศจอร์เจีย การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) อยู่ระหว่าง ดำ�เนินการ (Jardine, 2018) ประเทศฮอนดูรัส การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) ประกาศในปี 2015 แต่โครงการ ล้มเหลว ประเทศรัสเซีย ระบบบริหารจัดการข้อมูลและเอกสาร ภาครัฐ (Government Documents Management System) ประกาศในปี 2016 (Higgins, 2016) ระบบบริหารจัดการข้อมูลสุขภาพ หรือ e-Health (Medical Information Management System) ประกาศในปี 2017 (Jun, 2018) ประเทศสิงคโปร์ ระบบการชำ�ระเงินระหว่างธนาคาร ข้ามพรมแดน (Cross-Border Interbank Payments) ประกาศในปี 2016 และอยู่ ระหว่างการทำ� Proof-of- Concept (Jun, 2018) ระบบการออกตราสาร การชำ�ระและ แลกเปลี่ยนเงินตราและหลักทรัพย์ ระหว่างธนาคาร และทดลองใช้งาน เงินสกุลแห่งชาติในรูปแบบ Cryptocurrency อยู่ระหว่าง ดำ�เนินการ (Jun, 2018) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 172
  • 173. ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง ประเทศสวีเดน ระบบการจดทะเบียนถือครอง กรรมสิทธิ์ที่ดิน (Land Title Registry) โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain และ Smart Contract อยู่ระหว่างการ ทดสอบระบบ ในปี 2017 (Verhulst & Young, 2018) ประเทศสวิต เซอร์แลนด์ ระบบการชำ�ระค่าธรรมเนียมโดยใช้ เงินสกุลดิจิทัล เช่น Bitcoin ใช้งานจริงแล้ว ตั้งแต่ปี 2016 (Jun, 2018) ระบบการจัดเก็บอัตลักษณ์ทางดิจิทัล (Digital Identity) โดยใช้หลักการ ของ Self-Sovereign Identity บนเทคโนโลยี Blockchain ประกาศในปี 2017 (Verhulst & Young, 2018) ประเทศยูเครน ระบบลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง e-Vox (Ethereum Blockchain-Based Election Platform) ประกาศในปี 2016 (Abouzeid, 2016) ระบบการประมูลแบบดิจิทัลโดยใช้ เทคโนโลยี Blockchain (Blockchain-Based Auction System) ประกาศในปี 2016 (Ngo, 2016) การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) ประกาศในปี 2017 (Graglia & Mellon, 2018) ประเทศอังกฤษ ระบบการจ่ายสวัสดิการภาครัฐโดยใช้ เทคโนโลยี Blockchain ประกาศในปี 2016 และ ประสบความ สำ�เร็จในการ ทดสอบการใช้ งานระบบ (Hebblethwaite, 2017) ระบบการบริการภาครัฐต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ใช้งานจริง ตั้งแต่ปี 2016 (Jun, 2018) ระบบการชำ�ระเงินระหว่างธนาคาร โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ประกาศในปี 2017 (Jun, 2018) เอกสารแนบท้าย 173
  • 174. ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง ประเทศ สหรัฐอเมริกา ระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูล ด้านสุขภาพ ประกาศในปี 2016 และ อยู่ระหว่าง การทดสอบ ระบบซึ่งเป็น โครงการนำ�ร่อง (Jun, 2018) อนุญาตให้สามารถทำ�การซื้อขายหุ้น Bitcoin ประกาศในปี 2015 (Jun, 2018) อนุญาตให้ Blockchain Smart Contract มีผลบังคับใช้ได้ทาง กฎหมาย ประกาศเป็น กฎหมายแห่ง รัฐอริโซนา และ มีผลบังคับใช้ ในปี 2017 (De, 2018) อนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี Blockchain กับตลาดหลักทรัพย์ในการซื้อขายหุ้น และจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ ได้ และถูกต้องตามกฎหมาย ประกาศเป็น กฎหมายแห่ง รัฐเดลาแวร์ และมีผลบังคับ ใช้ในปี 2017 (Jun, 2018) ระบบ Identity Management บนเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ใน การเก็บสูติบัตรของเด็กทารกแรกเกิด (Birth Registration) ของรัฐอิลลินอยส์ ประกาศในปี 2017 (Verhulst & Young, 2018) ประเทศไต้หวัน ระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทาง อิเล็กทรอนิกส์ (Citizen Identification) อยู่ระหว่าง การพัฒนา (Rueter, 2018) ประเทศญี่ปุ่น อนุญาตให้ Bitcoin และ Cryptocurrency สามารถใช้ชำ�ระหนี้ ได้ตามกฎหมาย ประกาศในปี 2016 ประเทศ ยิบรอลตาร์ อนุญาตให้ใช้เทคโนโลยี Blockchain กับตลาดหลักทรัพย์ในการซื้อขายหุ้น และจัดเก็บข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ ได้ และถูกต้องตามกฎหมาย ประกาศในปี 2017 (Khatri, 2018) BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 174
  • 175. ประเทศ โครงการ สถานะ โครงการ อ้างอิง ประเทศบราซิล การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) ประกาศในปี 2016 (Graglia & Mellon, 2018) ประเทศ เซียร์ราลีโอน ระบบการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ประกาศในปี 2018 และอยู่ ระหว่างการทำ� Proof-of- Concept (Verhulst & Young, 2018) ประเทศอินเดีย การจดทะเบียนถือครองกรรมสิทธิ์ ที่ดิน (Land Title Registry) ประกาศในปี 2017 (Graglia & Mellon, 2018) เอกสารแนบท้าย 175
  • 176. บรรณานุกรม Abouzeid, N. (2016). Ukraine Government Plans to Trial Ethereum Blockchain-Based Election Platform. Retrieved from https:// bitcoinmagazine.com/articles/ukraine-government-plans-to- trial-ethereum-blockchain-based-election-platform- 1455641691/ Aitken, R. (2016). Bitland’s African Blockchain Initiative Putting Land on The Ledger. Retrieved from https://www.forbes.com/ sites/rogeraitken/2016/04/05/bitlands-african-blockchain- initiative-putting-land-on-the-ledger/#2f7b8c007537 Baran, P. (1964). On distributed communications: I. Introduction to distributed communications networks. Retrieved from Basu, M. (2018). Estonia Using Blockchain to Secure Health Records: Blockchain’s Public Sector Use Goes Beyond Payments. Retrieved from https://govinsider.asia/innovation/estonia- using-blockchain-to-secure-health-records/ Belinky, M., Rennick, E., & Veitch, A. (2015). The Fintech 2.0 Paper: Rebooting Financial Services. In: Santander InnoVentures. Breene, K. (2016). The 10 Countries Best Prepared for the New Digital Economy. Retrieved from https://www.weforum.org/ agenda/2016/07/countries-best-prepared-for-the-new-digital- economy/ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 176
  • 177. Buterin, V. (2014). A next-generation smart contract and decentralized application platform. white paper. Buterin, V., Mccaleb, J., Shen, B., & Bai, S. (2018). Wanxiang Smart City Global Blockchain Challenge. Retrieved from http:// www.wblockchain.com/global/index_en.html Chase, K. (2017). Japan Plans Blockchain Test for Government Procurement Process. Retrieved from https://dcebrief.com/ japan-plans-blockchain-test-for-government-procurement- process/ Cheng, S., Daub, M., Domeyer, A., & Lundqvist, M. (2017). Using Blockchain to Improve Data Management in The Public Sector. Retrieved from https://www.mckinsey.com/business- functions/digital-mckinsey/our-insights/using-blockchain-to- improve-data-management-in-the-public-sector Crosby, M., Pattanayak, P., Verma, S., & Kalyanaraman, V. (2016). Blockchain Technology: Beyond Bitcoin. Applied Innovation, 2, 6-10. De, N. (2018). Arizona’s Governor Signs Latest Blockchain Bill Into Law. Retrieved from https://www.coindesk.com/arizonas-governor- signs-latest-blockchain-bill-into-law Deloitte. (2018). Blockchain in Public Sector: Transforming Government Services through Exponential Technologies. In (pp. 1-28). India: Deloitte Tohmatsu Limited. เอกสารแนบท้าย 177
  • 178. Electronic Voting Committee. (2016). General Framework of Electronic Voting and Implementation Thereof at National Elections in Estonia. Tallin Univrsity of Technology, 1-21. Futter, D., Hale, A., Elverston, N., & Waters, T. (2017). Blockchain 101: An introductory Guide to Blockchain. Retrieved from https://www.ashurst.com/en/news-and-insights/insights/ blockchain-101/ Graglia, J. M., & Mellon, C. (2018). Blockchain and Property in 2018: At The End of The Beginning. Paper presented at the 2018 World Bank Conference on Land and Poverty Washington DC. Hebblethwaite, C. (2017). GovCoin Aims to Disrupt UK Welfare System. Retrieved from https://www.blockchaintechnology-news. com/2017/11/28/govcoin-aims-disrupt-uk-welfare-system/ Higgins, S. (2016). The Russian Government is Testing Blockchain for Document Storage. Retrieved from https://www.coindesk. com/the-russian-government-is-testing-blockchain-for- document-storage Holgate, R. (2018). Blockchain for Government State of Washington. Retrieved from Jamsrandorj, U. (2017). Decentralized Access Control Using Blockchain (Master Degree), University of Saskatchewan Saskatoon, BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 178
  • 179. Jardine, B. (2018). Georgia Stakes Place on Wild Frontier of Blockchain Governance. Retrieved from https://eurasianet.org/georgia- stakes-place-on-wild-frontier-of-blockchain-governance Journo, A. H. (2018). Dubai Developments will be Built on Blockchain. Retrieved from https://digit.fyi/dubai-blockchain/ Jun, M. (2018). Blockchain Government-A Next form of Infrastructure for The Twenty-First Century. Journal of Open Innovation: Tecnology, Market, and Complexity, 4(7), 1-12. doi:http://dx. doi.org/10.1186/s40852-018-0086-3 Khatri, Y. (2018). Gibraltar Stock Exchange Wins License for Blockchain Subsidiary. Retrieved from https://www.coindesk.com/gibraltar- stock-exchange-wins-license-for-blockchain-subsidiary Kohut, I. (2018). How Companies Can Leverage Private Blockchains toImprove Efficiency and Streamline Business Processes. Retrieved from https://perfectial.com/blog/leveraging- private-blockchains/ Kong, J. (2018). Blockchain UAE: Global Healthcare Implications. Retrieved from http://www.milliman.com/insight/2018/ Blockchain-UAE-Global-healthcare-implications/ Krawiec, R., Housman, D., White, M., Filipova, M., Quarre, F., Barr, D., . . . Tsai, L. (2016). Blockchain: Opportunities for Health Care. In (pp. 1-16): Deloitte Development LLC. เอกสารแนบท้าย 179
  • 180. Mao, D., Wang, F., Hao, Z., & Li, H. (2018). Credit Evaluation System Based on Blockchain for Multiple Stakeholders in the Food Supply Chain. International Journal of Environmental Research and Public Health, 15, 1627-1647. doi:http://dx.doi. org/10.3390/ijerph15081627 Marchionni, P. (2018). Next Generation Government Service Bus: The Blockchain Landscape. SSRN, 1-42. doi:http://dx.doi. org/10.2139ssrn.3141749 Martinovic, I., Kello, L., & Sluganovic, I. (2017). Blockchains for Governmental Services: Design Principles, Applications, and Case Studies. Center for Technology and Global Affairs, 1(7), 1-16. Morris, N. (2018). ISO Blockchain Standards Planned for 2021. Retrieved from https://www.ledgerinsights.com/iso- blockchain-standards/ Nakamoto, S. (2008). Bitcoin: A Peer-to-Peer Electronic Cash System. Ngo, D. (2016). Feature Interview: Lasha Antadze on Ukraine’s Blockchain-Powered State Property Auction System. Retrieved from https://btcmanager.com/feature-interview- state-property-auction-system/ Ngo, D. (2017). Dubai’s Global Blockchain Council Combats “Conflict Diamonds” Trading. Retrieved from https://bitcoinmagazine. com/articles/dubais-global-blockchain-council-combats- conflict-diamonds-trading/ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 180
  • 181. Nuuneoi. (2016). Blockchain for Geek. Retrieved from https://nuuneoi. com/blog/blog.php?read_id=901 Parker, L. (2017). Procivis sets out to replace government services with blockchain alternatives. Retrieved from https:// bravenewcoin.com/insights/procivis-sets-out-to-replace- government-services-with-blockchain-alternatives Rueter, T. (2018). New Distributed Ledger Digital ID Project Faces a Test in Taiwan. Retrieved from https://www.secureidnews.com/ news-item/new-distributed-ledger-digital-id-project-faces- a-test-in-taiwan/ Serrano, O. L. (2017). Is Blockchain Really Immutable? Retrieved fromhttps://www.bbva.com/en/blockchain-really-immutable/ Shen, J. (2016). e-Estonia: The power and Potential of Digital Identity. Retrieved from https://blogs.thomsonreuters.com/answerson/ e-estonia-power-potential-digital-identity/ Sullivan, C., Burger, E. (2017). e-Residency and Blockchain. Computer Law Security Review, 33(4), 470-481. doi:http://dx.doi.org/10.1016/j.clsr.2017.03.016 Sundararajan, S. (2018). Chinese City to Use Blockchain In Fight Against Tax Evasion. Retrieved from https://www.coindesk. com/tencent-partners-with-city-authority-to-combat-tax- evasion-with-blockchain เอกสารแนบท้าย 181
  • 182. Umeh, J. (2016). Blockchain Double Bubble or Double Trouble? ITNOW, 58(1), 58-61. doi:http://dx.doi.org/10.1093/itnow/ bww026 Veedvil. (2017). ทำ�ความเข้าใจเทคโนโลยี Blockchain จุดเปลี่ยน ของหลายอุตสาหกรรม. Retrieved from http:// www.veedvil.com/news/blockchain/ Verhulst, S. G., Young, A. (2018). Blockchange: Blockchain Technologies for Social Change. GovLab, 1-98. Yaga, D., Mell, P., Roby, N., Scarfone, K. (2018a). Blockchain Technology Overview. National Institute of Standards and Technology (NIST), 8202, 1-68. doi:https://doi.org/10.6028/NIST.IR.8202 Yaga, D., Mell, P., Roby, N., Scarfone, K. (2018b). Blockchain technology overview. Draft NISTIR, 8202. Yermack, D. (2017). Corporate governance and blockchains. Review of Finance, 21(1), 7-31. Zheng, Z., Xie, S., Dai, H.-N., Wang, H. (2016). Blockchain challenges and opportunities: A survey. International Journal of Web and Grid Services, 1, 1-25. สำ�นักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน). (2560). (ร่าง) แผนพัฒนา รัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2560-2564. ประเทศไทย อาชวานันทกุล, ส. (2016). จาก “สัญญาอัจฉริยะ” สู่ “องค์กรอัตโนมัติกระจายศูนย์” (decentralized autonomous organization – DAO). Retrieved from http://thaipublica.org/2016/09/decentralized- autonomous-orgs/ BLOCKCHAIN for GOVERNMENT SERVICES 182
  • 184. This book is printed using eco - friendly soy inks อาคารบางกอกไทยทาวเวอร 108 ถนนรางน้ำ แขวงถนนพญาไท เขตราชเทว� กรุงเทพฯ 10400 โทรศัพท : (+66) 0 2612 6000 โทรสาร : (+66) 0 2612 6011 , (+66) 0 2612 6012 Contact Center : (+66) 0 2612 6060 อีเมล : [email protected] ดาวนโหลด e-Magazine ฟร�